สำหรับในปัจจุบันการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละอย่างถ้าหากไม่ได้ลองใช้งานด้วยตนเอง การอ่านรีวิวก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้สามารถเลือกซื้อสินค้าที่ตรงต่อความต้องการได้มากที่สุด ยิ่งถ้าหากเป็นของที่ราคาสูงอย่างเช่นตู้เย็นซึ่งการซื้อในแต่ละครั้งจะต้องใช้งานเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน
ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาข้อมูลต่างๆให้เป็นอย่างดีเพื่อให้ได้สินค้าที่ดีที่สุดและตอบโจทย์การใช้งานได้มากที่สุด ในบทความนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูลสำคัญต่างๆเกี่ยวกับตู้เย็น 2 ประตูมาฝากทุกท่าน โดยเราจะไปเจาะลึกกันว่า ตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อไหนดี ยี่ห้อไหนที่น่าสนใจโดยจะมีอะไรบ้างไปดูกันได้เลย
10 ตู้เย็น 2 ประตู
1. โดยรวมที่ดีที่สุด: LG GN-C702SGGU Lazada/Shopee
2. ราคาประหยัดขนาดใหญ่ที่ดีที่สุด: SAMSUNG – RT42CG6644S9ST Lazada/Shopee
3. ราคาประหยัดขนาดเล็กที่ดีที่สุด: Toshiba GR-B22KP Lazada/Shopee
4. สำหรับห้องครัวขนาดใหญ่: HITACHI R-V700PA Lazada/Shopee
5. สำหรับห้องครัวขนาดเล็ก: LG – GN-B202SQBB Lazada/Shopee
6. ประหยัดพลังงานที่ดีที่สุด: Hitachi R-H200PD Lazada/Shopee
7. ตู้แช่แข็งด้านล่างที่ดีที่สุด: BEKO RCNT375E50VZGW Lazada/Shopee
8. ที่ดีที่สุดด้วยเครื่องจ่ายดื่ม : Samsung RT46K6855BS Lazada/Shopee
9. ควบคุมอุณหภูมิที่ดีที่สุด: Haier HRF-300MNI Lazada/Shopee
10. สแตนเลสที่ดีที่สุด: BOSCH KGN36IJ3AJ Lazada/Shopee
- ตู้เย็น 4 ประตู ประหยัดพลังงาน
- ตอนนี้ตู้เย็น Side by Side ราครประหยัด
ตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อไหนดี 2024
1. LG – GN-C702SGGU 18 Q
ตู้เย็น 2 ประตูที่ดีที่สุดโดยรวม
- ระบบกระจายความเย็นรอบทิศ
- ใช่งานร่วมกับแอพพลิเคชั่น ThinQ
- ประหยัดพลังงาน
- เปิดตู้เย็นเฉพาะส่วน
- ไม่มีระบบทำน้ำแข็งอัตโนมัติ
สำหรับตู้เย็น 2 ประตูที่มีคุณสมบัติโดยรวมดีที่สุดจะต้องยกให้กับตู้เย็นของยี่ห้อ LG รุ่น GN-A702HLHU ซึ่งตัวนี้จะสามารถจุได้มากถึง 18.1 คิวเลยทีเดียว และเป็นตัวที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีให้ง่ายต่อการใช้งาน อีกทั้งยังเป็นตัวที่ดีไซน์เรียบหรู ดูทันสมัยเป็นอย่างมากอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีตัวบานพับซ่อนอยู่ในประตูตู้ทำให้ดูเรียบง่ายแต่มีสไตล์เป็นอย่างมาก
เข้าได้กับทุกพื้นที่ภายในห้องครัวอย่างแน่นอนนอกจากนี้ยังมีระบบที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิให้เย็นทั่วถึงทุกพื้นที่ และมีเรื่องของการใช้แผงกรองอากาศ 5 ชั้นที่ทำให้หมดความกังวลเรื่องฝุ่น เชื้อรา และแบคทีเรียไปได้เลย ที่สำคัญยังเป็นระบบกระจายความเย็นแบบหลายทิศทางทำให้เย็นทั่วถึงตลอดทั้งตู้อีกด้วย ส่วนเรื่องของหลอดไฟภายในตู้จะใช้แบบ LED
ที่ช่วยประหยัดพลังงานและยืดอายุการใช้งานได้มากกว่าเดิม กล่องทำน้ำแข็งเป็นแบบเลื่อนได้ เคลื่อนย้ายไปตามจุดต่างๆได้ตามต้องการอีกด้วย และที่สำคัญยังสามารถใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่น ThinQ ที่ช่วยตรวจสอบและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วทันใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
2. Samsung RT42CG6644S9ST
ตู้เย็นราคาประหยัดขนาดใหญ่ที่ดีที่สุด
- ดีไซน์โฉบเฉี่ยวและหรูหรา
- SmartThings AI Energy สำหรับการวิเคราะห์การใช้งานและโหมดประหยัดพลังงาน
- ช่องใส่เนื้อสัตว์ Optimal Fresh+ พร้อมปรับระดับได้
- ความจุเหลือเฟือ 415L พร้อมชั้นวางแบบปรับได้
- มอเตอร์อินเวอร์เตอร์เพื่อความทนทานและประหยัดพลังงาน
- รับประกันคอมเพรสเซอร์ 20 ปี
- ตัวเลือกสีที่ จำกัด
- น้ำหนักค่อนข้างหนักเมื่อเทียบกับคู่แข่งบางราย
Samsung RT42CG6644S9ST เป็นคู่แข่งอันดับต้น ๆ ในหมวดตู้เย็นขนาดใหญ่ราคาประหยัด โดยนำเสนอคุณสมบัติและประสิทธิภาพที่น่าประทับใจซึ่งทำให้เป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยมสำหรับห้องครัวที่ทันสมัย ด้วยการออกแบบที่เพรียวบางและเรียบง่าย ตู้เย็นนี้ผสมผสานเข้ากับการตกแต่งใด ๆ ได้อย่างลงตัว และผิวเคลือบนอกซ์ที่ประณีตทำให้ดูสง่างาม
คุณสมบัติที่โดดเด่นอย่างหนึ่งของรุ่นนี้คือระบบ SmartThings AI Energy โดยจะวิเคราะห์รูปแบบการใช้งานตู้เย็นของคุณและประมาณการค่าไฟฟ้าของคุณ ยิ่งไปกว่านั้น โหมดประหยัดพลังงานยังเป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เนื่องจากสามารถประหยัดพลังงานได้ถึง 10% ซึ่งมีส่วนช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ช่องใส่เนื้อสัตว์ Optimal Fresh+ เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ เหนือกว่าความสามารถในการถนอมอาหารตามปกติ ทำให้มั่นใจได้ว่าวัตถุดิบต่างๆ เช่น หมูหรือปลาจะคงความสดได้นาน ช่องแบ่งมาพร้อมกับระดับที่ปรับได้สี่ระดับ ช่วยให้คุณปรับระดับความสดได้ตามความต้องการเฉพาะของคุณ
ความจุของตู้เย็น 415L มีพื้นที่เก็บของกว้างขวางสำหรับร้านขายของชำและของเน่าเสียง่าย ชั้นวางแบบปรับได้เพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดระเบียบสิ่งของของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ และคุณสมบัติการละลายน้ำแข็งอัตโนมัติช่วยลดความยุ่งยากในการละลายน้ำแข็งด้วยตนเอง
สำหรับการสร้างคุณภาพนั้น มอเตอร์อินเวอร์เตอร์จะช่วยเพิ่มความทนทานและรับประกันประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ซึ่งสอดคล้องกับพันธสัญญาของแบรนด์ในด้านความยั่งยืน นอกจากนี้ การรับประกันคอมเพรสเซอร์ 20 ปียังมอบความอุ่นใจในการใช้งานระยะยาว
3. Toshiba – GR-B22KP 6.4 Q
ตู้เย็นราคาประหยัดขนาดเล็กที่ดีที่สุด
- ราคาประหยัด
- จุของได้เยอะ
- วัสดุทนทานต่อการใช้งาน
- ประหยัดพลังงาน
- ไม่มีเสียงรบกวน
- ไม่มีระบบทำน้ำแข็งอัตโนมัติ
สำหรับตู้เย็น 2 ประตูของยี่ห้อ Toshiba รุ่น GR-B22KP เป็นรุ่นที่มีขนาด 6.4 คิว แต่เรียกได้ว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จิ๋วแต่แจ๋วเป็นอย่างมากเนื่องจากมาในราคาประหยัดแต่คุณสมบัติไม่น้อยหน้ารุ่นอื่นเลยทีเดียว โดยตัวนี้จะมาพร้อมกับระบบการกำจัดกลิ่นต่างๆภายในตู้ อีกทั้งยังเป็นตัวที่มีช่องแช่แข็งขนาดใหญ่สามารถจุของได้เป็นจำนวนมาก ที่สำคัญคือชั้นวางสามารถปรับระดับได้อีกด้วย
นอกจากนี้ชั้นวางของยังทำจากวัสดุนิรภัยที่ทนทานต่อการใช้งานอีกทั้งยังสามารถรองรับน้ำหนักได้มากถึง 100 กิโลกรัมเลยทีเดียว ที่สำคัญยังมีระบบไฟ LED ที่ส่องสว่างได้ทั่วถึงอีกด้วย อีกทั้งยังมีระบบ Low Noise ที่ช่วยลดเสียงได้น้อยกว่า 33 เดซิเบลเลยทีเดียว
4. HITACHI – R-V700PA -25 Q
ตู้เย็นที่ดีที่สุดสำหรับห้องครัวขนาดใหญ่
- ดีไซน์สวยงาม เข้าได้กับทุกพื้นที่
- มีความจุขนาดใหญ่ใส่ของได้เยอะ
- กักเก็บความเย็นได้ยาวนาน
- ประหยัดพลังงาน
- วัสดุทนทาน ป้องกันรอยขีดข่วน
- ราคาค่อนข้างสูง
ตู้เย็น HITACHI รุ่น R-V700PA เป็นตู้เย็นที่มีขนาด 25.1 คิว ซึ่งเหมาะเป็นอย่างมากสำหรับห้องครัวขนาดใหญ่เนื่องจากมีพื้นที่ที่เพียงพอและพอดีกับสัดส่วนของห้องครัวอีกด้วย ที่สำคัญยังเป็นตัวที่ออกแบบมาให้ดูเรียบง่าย หรูหรา เข้าได้กับทุกพื้นที่ อีกทั้งยังใช้นวัตกรรมแผงฉนวนสุญญากาศที่จะช่วยป้องกันความร้อนจากภายนอกได้อีกด้วย ซึ่งทำให้กักเก็บความเย็นและประหยัดพลังงานได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมปริมาณความเย็นภายในตู้ให้เหมาะสม และมีไฟ LED ที่ส่องสว่างแต่ใช้พลังงานน้อย และยังมีระบบ ECO Thermo Sensor ที่ช่วยรักษาความเย็นแบบอัตโนมัติ และกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึง ที่สำคัญวัสดุของชั้นวางทำจากกระจกนิรภัยที่จะกันรอยขีดข่วนต่างๆและยังมีขอบเป็นพลาสติกที่ป้องกันการหกเลอะอีกด้วย
5. LG – GN-B202SQBB 6.6 Q
ตู้เย็นที่ดีที่สุดสำหรับห้องครัวขนาดเล็ก
- ประหยัดพลังงาน
- ทำงานแบบไร้เสียงรบกวน
- ด้ามจับแบบซ่อนเพิ่มความสวยงาม
- วัสดุแข็งแรงทนทาน
- ระบบให้ความชุ่มชื้นแก่ผักและผลไม้
- มีสีให้เลือกน้อย
ตู้เย็น 2 ประตู LG 6.6 คิว รุ่น GN-B202SQBBประหยัดพลังงานด้วย Smart Inverter Compressorระบบกระจายลมเย็นหลายทิศทาง ให้ความเย็นกระจายไปทั่วทั้งตู้ช่องแช่ผักขนาดใหญ่ ให้คุณเก็บผัก และผลไม้ได้มากขึ้นช่องแช่แบบ Moist Balance CrisperTM ช่วยคงระดับความชุ่มชื้นภายในชั้นวางบริเวณประตูปรับระดับความสูงได้
สามารถปรับได้ตามการใช้งานระบบส่องสว่างภายใน LED ช่วยประหยัดพลังงาน และเพิ่มอายุการใช้งานSmart Diagnosis™ ประหยัดพลังงานด้วย Smart Inverter Compressor ของแอลจี จะมีการปรับเปลี่ยนระดับความเย็นภายในตู้เย็น ตามจำนวนของอาหารที่แช่ภายใน และอุณหภูมิภายนอกตู้เย็น ทำงานเงียบ มาตรฐาน “KS C ISO15502″ระบบกระจายลมเย็นหลายทิศทางระบบกระจายลมเย็นหลายทิศทาง ช่วยให้ความเย็นกระจายไปทั่วทั้งตู้เย็นเร็วทันใจ
ช่วยให้อาหารแล้วเครื่องดื่มภายในตู้เย็นได้รับความเย็นอย่างทั่วถึงช่องแช่ผักขนาดใหญ่ด้วยขนาดช่องแช่ผักขนาดใหญ่ ให้คุณเก็บผัก และผลไม้ได้มากขึ้น พร้อมทั้งคงความสดของผัก ผลไม้ในช่องแช่อีกด้วยช่องแช่แบบ Moist Balance CrisperTM ช่วยคงระดับความชุ่มชื้นภายในช่องแช่ผัก จึงช่วยคงความสด และความชุ่มชื้นให้กับผักผลไม้ได้ยาวนานชั้นวางบริเวณประตูปรับระดับความสูงได้ชั้นวางของบริเวณประตูสามารถปรับระดับความสูงได้
ช่วยให้คุณสามารถแช่ขวดน้ำ หรืออาหารที่มีความสูงต่างกันไปได้ง่ายๆ ช่วยประหยัดพลังงาน และเพิ่มอายุการใช้งานยาวนานกว่าหลอดไฟธรรมดาทั่วไป นอกจากนี้ระบบส่องสว่างแบบ LED รุ่น GN-B202SQBBทนทาน ทำงานเงียบ ประหยัดพลังงานเก็บรักษาความชุ่มชื้น และคงความสดให้กับผักผลไม้ ได้ยาวนานระบบคอมเพรสเซอร์ : Inverter Compressorระบบฟอกอากาศ ไม่มีช่องแช่ moist balance crisper : มีระบบกระจายลมเย็น
6. Hitachi – R-H200PD 7.7 Q
สุดยอดตู้เย็น 2 ประตูประหยัดพลังงานที่ดีที่สุด
- ประหยัดพลังงาน
- กระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึง
- ระบบตรวจจับอุณหภูมิ
- ทนทานต่อการใช้งาน
- แบ่งสัดส่วนชัดเจน
- มีสีให้เลือกน้อย
สำหรับตู้เย็นของยี่ห้อ HOTACHI รุ่น R-H200PD เป็นรุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องของการประหยัดพลังงานเป็นอย่างมาก โดยเป็นตัวที่ได้รับการการันตีเรื่องการประหยัดพลังงานจากฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 อีกด้วย ซึ่งเป็นตัวที่กระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึงอีกทั้งยังประหยัดพลังงานได้มากกว่าเดิมอีกด้วย โดยมีประสิทธิภาพเรื่องของการรักษาความสดใหม่ของผักและผลไม้ได้เป็นอย่างดี ชั้นต่างๆภายในตู้ถูกแบ่งเป็นสัดส่วนต่างๆได้อย่างลงตัว
ที่สำคัญยังเป็นตู้เย็นขนาด 7.7 คิวที่ออกแบบมาอย่างสวยงามให้หยิบจับสิ่งของและใช้งานได้อย่างง่ายดาย และยังมีเทคโนโลยีเซนเซอร์คู่อัจฉริยะที่จะทำให้สามารถปรับระดับความเย็นภายในตู้ได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังมีระบบตรวจจับอุณหภูมิที่มีความแม่นยำเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เรื่องของวัสดุต่างๆทำออกมาอย่างทนทานรองรับการใช้งานอย่างหนักและรับน้ำหนักได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
7. BEKO – RCNT375E50VZGW
ตู้เย็นตู้แช่แข็งด้านล่างที่ดีที่สุด
- ระบบทำความเย็นแบบแยกส่วน
- ระบบกรองกลิ่น
- ป้องกันแบคทีเรีย
- รักษาความชื้นได้ดี
- ไม่มีระบบทำน้ำแข็งอัตโนมัติ
สำหรับตู้เย็นของยี่ห้อ BEKO รุ่น RCNT37E50VZGW เป็นตัวที่มีตู้แช่ด้านล่างที่ต้องยกให้ดีที่สุดเลยทีเดียว โดยมาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียบหรูและดูทันสมัยเป็นอย่างมาก ประกอบกับความจุที่มีทั้งหมด 12.6 คิว ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีระบบทำความเย็นแบบแยกส่วนระหว่างช่องแช่เย็นและช่องแช่แข็งซึ่งทำให้สามารถรักษาความสดใหม่ของอาหารและรักษาความชื้นได้อย่างเต็มที่อีกด้วย ซึ่งด้วยเหตุนี้ทำให้อาหารคงความสดใหม่ไว้ได้ยาวนานมากขึ้นกว่าเดิมเลยทีเดียว
โดยตู้เย็นรุ่นนี้จะมีดีในเรื่องของการประหยัดพลังงานที่มาพร้อมกับการทำความเย็นแบบแยกส่วนซึ่งสามารถควบคุมอุณหภูมิได้อย่างง่ายดาย และลดโอกาสในการเน่าเสียได้อีกด้วย ที่สำคัญยังมีระบบการกรองกลิ่นต่างๆและป้องกันแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญคือทำงานแบบไม่มีเสียงรบกวนอีกด้วย
8. Samsung – RT46K6855BS/ST 16 Q
ตู้เย็นที่ดีที่สุดด้วยเครื่องจ่ายดื่ม
- ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย
- มีเครื่องกดน้ำหน้าบานตู้เย็น
- ระบบทำน้ำแข็งอัตโนมัติ
- ยับยั้งและป้องกันแบคทีเรีย
- ไม่มีระบบตรวจจับอุณหภูมิ
ตู้เย็น 2 ประตูของยี่ห้อ Samsung รุ่น RT46K6855BS/ST ซึ่งเป็นตัวที่ดีที่สุดสำหรับการมีเครื่องกดน้ำหน้าตู้ โดยต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่จะมาสร้างความสะดวกสบายให้กับการใช้งานเป็นอย่างมากซึ่งประหยัดพลังงานเนื่องจากไม่ต้องเปิดตู้เย็นอีกด้วย เรื่องของดีไซน์การออกแบบตู้เย็นตัวนี้ถูกออกแบบมาด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยอีกทั้งยังสวยงามและที่สำคัญทนทานต่อการใช้งานเป็นอย่างมากเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีการเสริมเรื่องของการยับยั้งและป้องกันเชื้อแบคทีเรียต่างๆได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีระบบทำน้ำแข็งอัตโนมัติ และระบบทำความเย็นแบบแยกส่วนที่จะรักษาความชุ่มชื้นให้กับตู้เย็นได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังทำให้ได้รับความเย็นอย่างทั่วถึง ที่สำคัญยังมีระบบสลับความเย็นแบบอัจฉริยะที่สามารปรับให้เหมาะแก่การใช้งานได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีระบบเตือนถ้าหากเปิดตู้เย็นทิ้งไว้มากกว่า 2 นาที และยังมีหลอดไฟ LED ที่ขึ้นชื่อเรื่องของการประหยัดพลังงานได้มากกว่าปกติถึง 20 เท่าเลยทีเดียว
9. Haier – HRF-300MNI
ตู้เย็นที่การควบคุมอุณหภูมิที่ดีที่สุด
- ควบคุมอุณหภูมิได้หลากหลาย
- ช่องต่างๆจัดสัดส่วนมาเป็นอย่างดี
- ประหยัดพลังงาน
- เสียงเงียบ
- ทนทานต่อการใช้งาน
- ไม่มีช่องกดน้ำหน้าตู้
ตู้เย็น 2 ประตูของยี่ห้อ Haier รุ่น HRF-300MNI เป็นรุ่นที่ต้องยกให้เป็นที่สุดของเรื่องการควบคุมอุณหภูมิเลยทีเดียว เนื่องจากตู้เย็นเครื่องดื่มมีระบบ Magic Room ที่สามารถปรับอุณหภูมิได้ตั้งแค่ 5 องศา ถึง -18 องศาเลยทีเดียวทำให้สามารถเลือกในการเก็บอาหารได้อย่างหลากหลายซึ่งเรียกได้ว่าเป็นคุณสมบัติเด่นของตู้เย็นตัวนี้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังเป็นรุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องของการประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี ดีไซน์สวยงามเหมาะแก่การวางในทุกมุมอีกด้วยที่สำคัญยังเป็นตู้เย็นที่จัดสัดส่วนของช่องต่างๆมาเป็นอย่างดี ชั้นวางถูกออกแบบจากวัสดุที่มีความทนทาน และแข็งแรงเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีระบบ Inverter
ที่ช่วยให้ประหยัดพลังงานได้มากกว่าปกติถึง 20% อีกด้วย นอกจากนี้เรื่องของการทำงานก็มีเสียงที่เงียบไม่ก่อให้เกิดการรำคาญใจด้วย อีกทั้งยังมีไฟ LED ที่ส่องสว่างได้ทั่วทั้งตู้ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืนก็สามารถค้นหาของได้อย่างสะดวกสบาย
10. BOSCH – KGN36IJ3AJ 11Q
ตู้เย็นสแตนเลสที่ดีที่สุด
- แข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน
- มีระบบป้องกันน้ำแข็งเกาะ
- มีระบบทำความเย็นอย่างทั่วถึง
- ประหยัดพลังงาน
- ปรับเปลี่ยนบานพับได้ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา
- ไม่สามารถเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นได้
สำหรับตู้เย็นของยี่ห้อ BOSCH รุ่น KGN36IJ3AJ เป็นตู้เย็นขนาด 11 คิวที่ทำจากสแตนเลสที่ต้องยกให้เป็นตัวที่ดีที่สุดสำหรับ 2 ประตูเลยทีเดียว เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ครบทวนทั้งเรื่องของการออกแบบที่ทำออกมาได้เป็นอย่างดีดูสวยงามและทำให้บ้านดูมีสไตล์มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังเป็นตัวที่รักษาความสดใหม่ของผักและผลไม้โดยไร้กลิ่นอับและคงความสดชื่นไว้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวนอกจากนี้ยังเป็นตู้เย็นที่ขึ้นชื่อเรื่องของการประหยัดพลังงานเป็นอย่างมาก และยังมีฟังก์ชั่นปราศจากน้ำแข็งที่ทำให้ผู้ใช้งานประหยัดเวลาในการละลายน้ำแข็งได้อีกด้วย ซึ่งจะมีเวลาสำหรับการพักผ่อนที่มากกว่าเดิม อีกทั้งยังเป็นตู้เย็นที่มีระบบกระจายความเย็นอย่างทั่วถึงและสามารถทำความเย็นได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
เรื่องของไฟก็จะเลือกใช้ระบบ LED ซึ่งเป็นแบบ Soft start ที่ขึ้นชื่อทั้งเรื่องการประหยัดพลังงานและเรื่องของการส่องสว่างเป็นอย่างมากมองเห็นได้ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ยิ่งไปกว่านั้นเป็นตัวที่สามารถเปลี่ยนบานพับตู้เย็นได้จะอยากเปิดด้านซ้ายหรือเปิดด้านขวาก็สามารถกำหนดได้ทั้งนั้น
คู่มือเลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตู
สำหรับการเลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตูซึ่งจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและไม่ได้เปลี่ยนบ่อยๆจึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาประเด็นต่างๆให้ถี่ถ้วนเพื่อให้ได้สินค้าที่ตอบโจทย์ต่อการใช้งานมากที่สุด อีกทั้งยังมีรายละเอียดอื่นๆที่เป็นประเด็นสำหรับสำหรับการซื้ออีกซึ่งจะมีอะไรบ้างเราได้รวบรวมมาให้แล้วไปดูกันได้เลย
วิธีเลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตู
ประเด็นแรกคือวิธีการเลือกซื้อที่เรียกได้ว่าเป็นส่วนสำคัญที่ควรทำความเข้าใจให้ดีก่อนซึ่งจะดูองค์ประกอบในหลายๆเรื่องที่ตอบโจทย์ต่อความต้องการและสิ่งที่ทุกท่านอยากให้มีซึ่งจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
วัดพื้นที่
ในการเลือกซื้อตู้เย็นสิ่งแรกที่ควรทำความเข้าใจก็คือการวัดพื้นที่ให้เพียงพอต่อการวางในบริเวณนั้นโดยถ้าหากซื้อตู้เย็นที่ใหญ่ไปหรือเล็กไปก็จะทำให้พื้นที่นั้นไม่เหมาะสม ดังนั้นการเลือกซื้อตู้เย็นควรมีการวัดพื้นที่ในบริเวณที่ต้องการจะวางมาก่อนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังที่เราได้กล่าวไป
ขนาดและความจุของการจัดเก็บ
ในส่วนนี้เราต้องสังเกตจากพฤติกรรมของตนเองและผู้ที่อยู่อาศัยร่วมกันว่ามีพฤติกรรมในการซื้อของเข้ามาเก็บไว้เป็นอย่างไร โดยถ้าหากเป็นคนชอบซื้อของมาใส่ตู้เย็นเรื่องของขนาดก็เป็นสิ่งสำคัญซึ่งควรคำนวณให้พอดีและเพียงพอต่อการใช้งาน
เลือกการกำหนดค่า สำหรับการกำหนดค่าก็คือการกำหนดการใช้งานหรือความถนัดในการใช้งานของแต่ละท่านโดยจะแบ่งเป็นรูปแบบดังต่อไปนี้
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการใช้พลังงาน
เรื่องของพลังงานก็เป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากจะส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนอีกด้วย ดังนั้นถ้าหากอยากที่จะประหยัดพลังงานก็ควรมองหาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องนี้ หรือเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟ
ตู้เย็น 2 ประตู VS ตู้เย็น 4 ประตู
สำหรับตู้เย็นแบบ 2 ประตูจะมีพื้นที่ใช้งานที่น้อยกว่าแบบ 4 ประตู แต่ตู้เย็นแบบ 4 ประตูก็จะแลกมาด้วยพื้นที่ในการติดตั้งที่มากกว่าและการกินไฟมากกว่าเนื่องจากต้องใช้ความจุเยอะทำให้ต้องใช้กระแสไฟเยอะขึ้นตามที่สำคัญถ้าหากเป็นตู้เย็นที่มีขนาดใหญ่มากกว่าก็จะมีราคาแพงมากกว่าตู้เย็นแบบ 2 ประตูอีกด้วย
ตู้เย็น 2 ประตู VS ตู้เย็นไซด์ บาย ไซด์
สำหรับตู้เย็นแบบ 2 ประตูจะเป็นตู้เย็นที่ใช้พื้นที่น้อย อีกทั้งยังกินไฟน้อย ที่สำคัญราคาอยู่ในช่วงปานกลางไม่แพงจนเกินไป แต่สำหรับตู้เย็นไซด์ บายไซด์ จะมีจุดเด่นก็คือเรื่องของการลดพื้นที่ในการเปิดประตูซึ่งจะเป็นบานประตูแบบแบ่งครึ่งทำให้ใช้พื้นที่ในการเปิดน้อยลง แต่ก็จะแลกมาด้วยราคาที่สูงกว่าแบบ 2 ประตูและเป็นตู้เย็นที่ราคาแพงกว่าใช้ไฟมากกว่า
คำถามและคำตอบ
ตู้เย็นสองประตูกินไฟมากกว่าประตูเดียวหรือไม่
สำหรับเรื่องของการกินไฟตู้เย็น 2 ประตูจะไม่กินไฟมากกว่าตู้เย็นประตูเดียวแต่ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละท่านอีกด้วย แต่ถ้าเป็นการใช้งานที่เท่าๆกันเปิดปิดเหมือนกันตู้เย็นทั้ง 2 แบบนี้จะใช้ที่ความจุใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาด แต่ในบ้านครั้งตู้เย็นแบบ 2 ประตูจะกินไฟน้อยกว่าอีกด้วยเนื่องจากแยกระบบความเย็นออกเป็น 2 ส่วนดังนั้นถ้าหากไม่ได้เปิดทั้ง 2 ประตูก็จะใช้ไฟปกติไม่ได้ใช้ไฟมากกว่าเดิม
อุณหภูมิที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับช่องแช่แข็งคืออะไร
สำหรับช่องแช่แข็งอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดจะอยู่ในช่วง – 19 องศาเซลเซียล และ 3 องศาเซลเซียลซึ่งจะไม่ทำให้ช่องแช่แข็งมีอุณหภูมิที่สูงเกินไป โดยถ้าหากอยากให้อุณหภูมิอยู่ในช่วงที่ตรงการก็สามารถที่จะกดปุ่มปรับความเย็นได้อีกด้วย นอกจากนี้การตั้งค่าอุณหภูมิที่จะได้ประสิทธิภาพมากที่สุดจะขึ้นอยู่กับชนิดของอาหารที่นำมาแช่และจำนวนของอาหารที่นำมาแช่เนื่องจากถ้าหากแช่แข็งอาหารเป็นจำนวนมากก็ควรปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมเพื่อให้ความเย็นกระจายได้อย่างทั่วถึงทั้งตู้อีกด้วย