หลายๆท่านอาจมีความเชื่อที่ผิดว่าผู้ที่ใช้น้ำตาเทียมจะต้องเป็นผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์เท่านั้น ซึ่งความเป็นจริงไม่ใช่เลยเนื่องจากน้ำตาเทียมยังมีคุณสมบัติด้านอื่นๆที่จะช่วยแก้ปัญหาที่เกิดกับดวงตาซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญเป็นอย่างมากสำหรับทุกท่าน ในวันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกซื้อน้ำตาเทียมให้ตอบโจทย์ต่อการใช้งาน แล้วทุกท่านจะทราบกันอย่างแน่นอนว่า น้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดี.
8 น้ำตาเทียม
1. สำหรับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์: Rohto Lycee Contact Lazada/Shopee
2. สำหรับผู้ทำเลสิก หรือผู้ที่ผ่าตัดตา: Cellufresh Lubricant Lazada/Shopee
3. สำหรับผู้ที่ระคายเคืองตาหรือตาอักเสบ: Himalaya Ophtha Lazada/Shopee
4. สำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานาน: Sente PC Lazada/Shopee
5. น้ำตาเทียมสำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้งและล้า: Renu Multiplus Lazada/Shopee
6. น้ำตาเทียมที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความเย็นระดับสุดๆ: Rohto Z Contact Refresh Lazada/Shopee
7. สำหรับผู้ที่ไม่ชอบหยดหรือสัมผัสดวงตา: Optrex ActiMist Shopee
8. สำหรับผู้สูงอายุ: Alcon Systane Ultra Lazada/Shopee
- แนะนำ วิตามินบำรุงสายตา ที่ดีที่สุด
- วิตามินรวม ที่น่าซื้อในปีนี้
น้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดี 2023
- ลองดูทรีตเมนต์ผมที่ดีที่สุดที่จะซื้อในปีนี้
- ครีมย้อมผมที่ดีที่สุดตอนนี้
น้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดี 2023
1. Rohto – Lycee Contact
น้ำตาเทียมที่เหมาะสำหรับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์
- มีกลิ่นหอมทำให้รู้สึกผ่อนคลายเวลาใช้งาน
- ช่วยทำให้ดวงตารู้สึกชุ่มชื้น
- บรรจุภัณฑ์พกพาง่าย
- ไม่ค่อยรู้สึกถึงความเย็นบริเวณดวงตา
ถ้าหากถามหาน้ำตาเทียมที่จะเหมาะสำหรับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ ยี่ห้อที่คนส่วนใหญ่จะต้องนึกถึงอย่างแน่นอนก็คือ Rohto Lycee Contact เพราะสำหรับตัวนี้จะขึ้นชื่อเรื่องการให้ความชุ่มชื้นแก่ดวงตา และมีการใช้งานค่อนข้างง่าย โดยตัวนี้จะเน้นเรื่องของการแก้ปัญหาดวงตาขาดน้ำ และช่วยลดการติดเชื้อจากสิ่งสกปรกอีกด้วย ซึ่งจะมีกลิ่นหอมของกุหลาบอ่อนๆทำให้รู้สึกผ่อนคลาย อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการตาล้าจากการใช้สายตาอย่างหนัก
2. Cellufresh – Lubricant Eye Drops
น้ำตาเทียมที่เหมาะสำหรับผู้ทำเลสิก หรือผู้ที่ผ่าตัดตา
- คุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำตาธรรมชาติไม่เกิดอาการระคายเคือง
- ไม่มีสารกันเสียที่เป็นอันตรายต่อดวงตา
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตา
- พกพาง่าย
- มีอายุการใช้งานค่อนข้างสั้น
สำหรับน้ำตาเทียมยี่ห้อ Cellufresh Lubricant Eye Drops เป็นตัวที่เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งผ่านการทำเลสิกมา หรือสำหรับผู้ที่ผ่าตัดตาเป็นอย่างมาก เนื่องจากในตัวนี้มีส่วนผสมที่จะช่วยออกฤทธิ์บรรเทาอาการระคายจากฝุ่นและช่วยแก้ปัญหาเวลาดวงตาโดนลมหรือโดนแสงแดดมากจนเกินไป โดยออกแบบน้ำตาเทียมได้ใกล้เคียงกับน้ำตาธรรมชาติเป็นอย่างมากจึงทำให้ผู้ใช้งานจะรู้สึกสบายตาเวลาใช้งาน และปลอดภัย ไม่รู้สึกระคายเคืองอย่างแน่นอน
3. Himalaya – Ophtha Care Eye Drops
น้ำตาเทียมที่เหมาะสำหรับผู้ที่ระคายเคืองตาหรือตาอักเสบ
- ให้ความชุ่มชื้นแก่ดวงตา
- บรรเทาอาการปวดตา ลดอาการอักเสบ
- ให้ความเย็นบริเวณดวงตา
- ปริมาณน้อย
- เปิดแล้วต้องใช้ภายใน 1 เดือน
สำหรับท่านใดที่มีปัญหาเกี่ยวกับการระคายเคืองตาหรือตาอักเสบน้ำตาเทียมของหิมาลายาจะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ปัญหาของท่านได้เป็นอย่างดีด้วยความที่มีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นแก่ดวงตา อีกทั้งยังมีส่วนผสมที่ช่วยลดการอักเสบและลดอาการแดงของดวงตาที่เกิดจากการโดนฝุ่นละอองได้อีกด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับหนุ่มๆสาวๆที่ต้องจ้องเป็นระยะเวลายาวนานเป็นอย่างมากเพราะตัวนี้สามารถช่วยแก้ปัญหาตาแห้งและมช่วยให้รู้สึกถึงความเย็นบริเวณดวงตาเมื่อใช้งาน
4. Sente – PC Eye Drops
น้ำตาเทียมสำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนเป็นระยะเวลานาน
- ช่วยเสริมการทำงานของกระจกตา
- ผลิตภัณฑ์พกพาง่าย
- ช่วยบรรเทาอาการระคายเคือง
- ไม่ค่อยเห็นผลเรื่องการให้ความเย็น
น้ำตาเทียมยี่ห้อ Sente PC eye drops เป็นน้ำตาเทียมชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผลิตออกมาเพื่อตอบโจทย์สำหรับหนุ่มสาวที่ใช้งานคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนเป็นระยะเวลายาวนานจนอาจทำให้ดวงตาเกิดอาการเหนื่อยล้าจากการจ้องมองแสงสีฟ้าจากจอมือถือได้ โดยสำหรับตัวนี้จะมีส่วนผสมของวิตามินบีสอง ที่จะช่วยเสริมการทำงานของกระจกตา และยังมีวิตามินบี 6 ที่ช่วยป้องกันความเสียหายและลดการระคายเคืองอีกทั้งยังบรรเทาอาการปวดตาได้อีกด้วย ซึ่งเรียกว่าเป็นน้ำตาเทียมที่เหมาะสำหรับคนที่ติดโซเชียลมีเดียเป็นอย่างมากเลย
5. Renu Multiplus Lubricating & Rewetting Drops
น้ำตาเทียมสำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้งและล้า
- ช่วยลดอาการระคายเคือง
- ช่วยทำให้ดวงตาชุ่มชื้น
- ผลิตภัณฑ์มีขนาดเล็กพกพาง่าย
- ไม่รู้สึกเย็นเวลาใช้งาน
สำหรับน้ำตาเทียมยี่ห้อ Renu MiltiPlus Lubricating and Rewetting Drops เป็นหนึ่งในยี่ห้อที่แก้ไขปัญหาอาการตาแห้งได้ดีเป็นอย่างมาก เนื่องจากน้ำตาเทียมตัวนี้คิดค้นเพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตาและยังเป็นน้ำยาหล่อลื่นที่จะทำให้ทุกท่านสามารถลดอาการระคายเคืองซึ่งเกิดจากการตาแห้งได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังมีขนาดเล็กซึ่งสามารถพกพาในระหว่างวันได้ง่ายไม่รู้สึกเกะกะอย่างแน่นอน โดยถ้าหากท่านใดที่ค้นพบว่าตนเองมีปัญหาเรื่องอาการตาแห้งบ่อยต้องลองซื้อมาใช้ดูกันรับรองว่าแก้ปัญหาเหล่านี้ให้หมดไปได้แน่นอน
6. Rohto – Z Contact Refresh Your Eyes
น้ำตาเทียมที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความเย็นระดับสุดๆ
- ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่นเมื่อใช้งาน
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตา
- ช่วยบรรเทาอาการเมื่อยล้าจากการจ้องจอเป็นเวลานาน
- หาซื้อในประเทศไทยได้ค่อนข้างยากเนื่องจากยังไม่มีมาวางขายตามร้านค้าชั้นนำในประเทศ
สำหรับน้ำตาเทียมยี่ห้อ Rohto Z! Contact Refresh your eyes เป็นแบรนด์จากประเทศญี่ปุ่นซึ่งเคลมเรื่องของความรู้สึกเย็นสดชื่นเวลาใช้งาน โดยมีคุณสมบัติที่จะช่วยให้ดวงตาของทุกท่านหายจากอาการเมื่อยล้า ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับท่านใดที่รู้สึกว่าในแต่ละวันได้ใช้สายตาในการจ้องจอคอมพิวเตอร์ หรือจ้องสมาร์ทโฟนเป็นเวลายาวนาน ที่สำคัญน้ำตาเทียมตัวนี้ยังมีส่วนผสมของวิตามินและไฮยาลูลอนที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตาอีกด้วย
7. Alcon – Tears Narurale Free
น้ำตาเทียมที่เหมาะสำหรับผู้ที่ตาแห้งมาก
- ไม่ใส่สารกันเสีย ทำให้ไม่เกิดอาการระคายเคืองหรือการแพ้
- ช่วยแก้ปัญหาเรื่องตาแห้งได้เป็นอย่างดี
- ช่วยให้ความชุ่มชื้นให้กับดวงตา
- ปริมาณต่อหลอดน้อย
สำหรับน้ำตาเทียมยี่ห้อ AL Con tear เป็นน้ำตาเทียมที่ไม่มีสารกันบูดดังนั้นหมดปัญหาเรื่องการระคายเคืองไปได้เลย ที่สำคัญยังมีสารหล่อลื่นที่สามารถทำออกมาได้ใกล้เคียงกับน้ำตาธรรมชาติเป็นอย่างมากซึ่งจะช่วยลดอาการระคายเคืองบริเวณดวงตาให้กับทุกท่านได้ โดยจะมีส่วนในการรักษาอาการตาแห้งและช่วยให้ดวงตาของทุกท่านได้รับความชุ่มชื้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นแบรนด์ที่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งานว่าเป็นตัวที่แก้ปัญหาตาแห้งได้เป็นอย่างดีซึ่งเป็นน้ำตาเทียมที่คนตาแห้งมากควรมีติดกระเป๋ากันไว้เลย
8. Optrex – ActiMist
น้ำตาเทียมที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบหยดหรือสัมผัสดวงตา
- ใช้งานง่าย พกพาสะดวก
- สามารถใช้ขณะใส่คอนแทคเลนส์ได้
- ช่วยบรรเทาอาการตาแห้ง ลดอาการเคืองตา
- ไม่ค่อยเห็นผลเรื่องความเย็นสดชื่น
สำหรับน้ำตาเทียมยี่ห้อ Optrex ActiNist จะเป็นยี่ห้อที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นเนื่องจากจะไม่ใช่น้ำตาเทียมแบบหยดตาแต่เป็นแบบสเปรย์ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานที่ไม่ชอบหยดหรือไม่ชอบให้มีน้ำเป็นก้อนสัมผัสดวงตา โดยความพิเศษของน้ำตาเทียมตัวนี้ก็คือการที่สามารถใช้งานในขณะที่ใส่คอนแทคเลนส์ได้เลย อีกทั้งยังมีส่วนผสมที่บรรเทาอาการตาแห้งและล้าจากการจ้องจอคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบสเปย์แต่เรื่องความความชุ่มชื้นก็ไม่แพ้แบรนด์อื่นอย่างแน่นอน
9. Alcon – Systane Ultra
น้ำตาเทียมที่ดีที่สุดสำหรับผู้สูงอายุ
- ช่วยให้ความชุ่มชื้นให้กับดวงตา
- บรรเทาอาการระคายเคืองตา
- บรรจุภัณฑ์พกพาสะดวก
- เมื่อเปิดใช้มีอายุการใช้งานแค่เพียง 1 เดือน
สำหรับน้ำตาเทียมของยี่ห้อ ALCON Systane Ultra ถูกขนานนามว่าเป็นที่สุดของหลายๆคนอย่างแน่นอนเพราะตัวนี้ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีตอนใช้งานจะรู้สึกได้ถึงความชุ่มชื้นเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังรู้สึกอ่อนโยนแม้ในตอนนั้นจะรู้สึกเคืองตาขนาดไหนก็ตามจะไม่รู้สึกแสบหรือเจ็บตาเลย โดยเป็นตัวที่เหมาะสำหรับรักษาโรคตาแห้งมาก หรือใช้หลังการผ่าตัดดวงตา ผ่าตัดต้อกระจก ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมน้ำตาเทียมตัวนี้เราถึงจัดให้อยู่ในหมวดน้ำตาเทียมที่ดีที่สุดสำหรับผู้สูงอายุ
คู่มือการซื้อ น้ำตาเทียม
ตาแห้งเกิดจากอะไร
สำหรับอาการตาแห้งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คนทั่วทั้งโลกมีอาการเหมือนกัน แต่ในสมัยก่อนส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในกลุ่มผู้สูงอายุเท่านั้น ซึ่งสำหรับในปัจจุบันจะพบว่าในวัยอื่นๆก็เริ่มที่จะเป็นกันมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งสำหรับโรคตาแห้งจะเป็นอาการที่มีน้ำตาไหลตลอดเวลาหรือตาแฉะเป็นอย่างมาก โดยจะมีอาการทั้งหมด 2 ลักษณะนั้นก็คือ แบบที่ไม่มีน้ำตาออกมา กับแบบที่น้ำตาพยายามหลั่งออกมาแต่คุณภาพไม่เพียงพอจนทำให้ต้องหลั่งน้ำตาเพิ่มออกมาเรื่อยๆจนทำให้ตาแฉะ ซึ่งจะเกิดได้จากสาเหตุหลักๆ ดังนี้
- ต่อมไขมันที่ตาอุดตัน
- คุณภาพของน้ำตาไม่ดี
- พฤติกรรมการกระพริบตาน้อย
- ยาบางชนิด
- ใช้คอนแทคเลนส์เกินระยะเวลาที่กำหนด
- ฝุ่นละออง และ เครื่องปรับอากาศ
ยาหยอดตาแบบไม่ต้องมีใบสั่งแตกต่างจากยาหยอดตาตามใบสั่งแพทย์อย่างไร
สำหรับการใช้ยาหยอดตาทุกท่านจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่าจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทนั้นก็คือยาหยอดตาแบบไม่มีใบสั่ง และยาหยอดตาที่มีใบสั่งซึ่งจะแตกต่างกันอย่างไรบ้างไปดูกันเลย
- เกิดอาการแพ้ หายใจลำบาก หรือมีอาการของลมพิษ
- มีอาการแสบหรือระคายเคืองตาอย่างรุนแรง
- มีอาการคัน มองเห็นได้ไม่ชัดและรู้สึกขมในคอ
วิธีทายาหยอดตา
ถ้าหากท่านใดเป็นผู้ที่ไม่เคยใช้น้ำตาเทียมหรือที่เรียกกันว่ายาหยอดตามาก่อน ต้องบอกเลยว่าวิธีการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญเพราะถ้าหากใช้งานผิดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ โดยจะมีวิธีการทายาหยอดตาอย่างไรบ้างเราได้รวบรวมมาให้ทุกท่านแล้วไปดูกันได้เลยล้างมือให้สะอาดให้จัดท่าทางให้อยู่ในตำแหน่งที่ถนัด
เงยหน้าเล็กน้อยและดึงเปลืองตาล่างลงมาเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับการหยดน้ำตาเทียมกะระยะของตำแหน่งปลายขวดยาหยอดตาให้อยู่ห่างจากดวงตาพอประมาณ หลังจากนั้นให้ค่อยๆหยดในปริมาณที่ตัวผลิตภัณฑ์ได้แนะนำไว้ หลังจากหยดน้ำตาเทียมแล้วให้หลับตาและก้มหน้าลงเล็กน้อยเมื่อผ่านไปสักพักให้ใช้นิ้วมือนวดบริเวณหัวตาเบาๆให้ของเหลวในตาสามารถระบาดไปยังท่อน้ำตาได้เช็ดน้ำตาเทียมส่วนเกินที่ไหลออกมาออก
วิธีเก็บยาหยอดตา
สำหรับการเก็บรักษายาหยอดตาจะแบ่งออกเป็น 2 กรณี ซึ่งมีวิธีการเก็บรักษาดังนี้ถ้าหากยังไม่เปิดขวดใช้งานให้เก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา และควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ยาถูกแสงแดงถ้าหากเปิดใช้งานแล้วควรเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาเสมอเมื่อไม่ใช้งาน
คำถามและคำตอบ
ยาหยอดตาที่ดีที่สุดสำหรับโรคภูมิแพ้คืออะไร
สำหรับท่านใดที่มีอาการของโรคภูมิแพ้ของดวงตายาหยอดตาที่ควรเลือกใช้จะเลือกตามความเหมาะสมและความรุนแรงของโลกซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
ยาหยอดตาประเภทแอนตี้ฮิสตามีน เป็นยาหยอดตาสำหรับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ไม่มากและไม่รุนแรง โดยให้ทำการหยดยายอดตา 3 – 4 ครั้งต่อวัน
ยาหยอดตาประเภทป้องกันปฏิกิริยาภูมิแพ้ โดยเป็นตัวที่มีตัวยา ไดโวเดียมโกรโมไกลเดต และ โลด็อกซาไมด์ เป็นส่วนประกอบ โดยสองตัวนี้จะออกฤทธิ์ไม่ให้เกิดอาการคัน
ยาหยอดตาประเภทสเตียรอยด์ สำหรับยาหยอดตาตัวนี้เป็นตัวที่ให้ผลดีและรวดเร็วเป็นอย่างมาก แต่ถ้าหากใช้งานติดต่อกันเป็นระยะเวลาด้านก็อาจทำให้เกิดอาการความดันในลูกตาสูงได้ซึ่งส่งผลทำให้เกิดตาหินหรืออาจจะตาบอดได้เลย ดังนั้นต้องบอกเลยว่าสำหรับการใช้ยาหยอดตาประเภทสเตียรอยด์ควรที่จะใช้เป็นครั้งคราวและใช้สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงเท่านั้น ถ้าหากไม่รุนแรงก็สามารถใช้ยาหยอดตาประเภทอื่นแทนได้
ใครที่ควรหลีกเลี่ยงยาหยอดตา
อีกหนึ่งคำถามยอดฮิตคือคำถามว่าใครบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงยาหยอดตาซึ่งเราต้องอธิบายก่อนเลยว่าแม้ว่ายาหยอดตาจะเป็นยาที่สามารถใช้แก้อาการระคายเคืองเบื้องต้นให้กับทุกท่านได้ แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มที่มีอาการแพ้ยาในกลุ่มนี้ซึ่งเป็นกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงการซื้อยาหยอดตามาใช้เอง และควรที่จะไปพบแพทย์จักษุแพทย์เพื่อให้วินิจฉันและรักษาอาการได้ถูกต้อง