สำหรับในปัจจุบันต้องยอมรับเลยว่าเทคโนโลยีได้มีการพัฒนาเข้ามาสู่การใช้ชีวิตประจำวันอย่างรวดเร็ว โดยก็มีการช่วยทำให้มีระบบการทำงานที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งมาพร้อมกับความสามารถต่างๆมากมายที่ถูกเพิ่มเข้ามา รวมทั้งในเรื่องของการจดข้อมูลและบันทึกรายละเอียดต่างๆซึ่งปกติจะต้องใช้การจดด้วยปากกาลูกลื่น แต่สำหรับในปัจจุบันด้วยความที่มี iPad ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการจดข้อมูลได้โดยใช้ปากกาอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นในบทความนี้เราจึงรวบรวม ปากกา iPad ที่ดีที่สุด มาฝากทุกท่านจะมียี่ห้ออะไรบ้างไปดูกันได้เลย
10 ปากกา iPad
- 1. สำหรับการเขียนจดบันทึก: Microsoft M1776 Lazada/Shopee
- 2. แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน: Baseus-ACSXB-A0G Lazada/Shopee
- 3. ที่ดีที่สุดตามหลักสรีรศาสตร์: Adonit Dash 4 Fine Lazada/Shopee
- 4. ทำงานหลายอย่างพร้อมกัน: Elago Universal Lazada/Shopee
- 5. สำหรับศิลปินและนักวาดภาพประกอบ: ADONIT NOTE PLUS Lazada/Shopee
- 6. น้ำหนักเบาที่ดีที่สุด: UGREEN 80135 Lazada/Shopee
- 7. ที่ดีที่สุดสำหรับช่างภาพ: Apple Pencil 2nd Generation Lazada/Shopee
- 8. เมาส์ที่ดีที่สุด: XP Pen P05 Lazada/Shopee
- 9. ที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก: OEM ASD1807 Lazada/Shopee
- 10. ที่ดีที่สุดสำหรับนักเรียน: GOOJODOQ CD3240 Lazada/Shopee
- ลองดูคีย์บอร์ด iPad ในเดือนนี้ยอดนิยม
- คีย์บอร์ดไร้สายที่ดีที่สุดในปีนี้
10 อันดับปากกา iPad ราคากันเอง เขียนดี ได้ทุกสถานการณ์ 2023
1. Microsoft – M1776
ปากกา iPad ที่ดีที่สุดสำหรับการเขียนจดบันทึก
- มีสีด้ามปากกาทั้งหมด 4 สี
- รองรับแรงกดได้มากถึง 4,096 ระดับ
- มีความแม่นยำในการประมวลผล
- ไม่มีอาการหน่วงในการใช้งาน
- ราคาสูงกว่าปากการุ่นอื่นๆ
ปากกาไอแพดของแบรนด์ Microsoft รุ่น M1776 เป็นรุ่นที่เราแนะนำว่าดีที่สุดสำหรับการจดบันทึกเลย โดยเป็นปากกาที่รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 4.0 ซึ่งมาพร้อมกับการตอบสนองที่มีความแม่นยำและประมวลผลได้อย่างรวดเร็วเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อได้อย่างไร้ขีดจำกัดและมาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่ใช้ปลายปากกาอีกด้านเป็นยางลบได้อีกด้วยซึ่งทำให้ทุกท่านสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังเป็นรุ่นที่ใช้เขียนและวาดได้อย่างเป็นธรรมชาติเพราะสามารถเขียนได้อย่างแม่นยำ พร้อมยังมีคุณสมบัติที่สามารถเอียงปากกาสำหรับใช้แรเงาได้ แถมยังไม่มีอาการหน่วงในการเขียนอีกด้วย โดยสำหรับปากการุ่นนี้สามารถรองรับแรงกดได้มากถึง 4,096 ระดับ ซึ่งสำหรับรุ่นนี้จะมีสีด้ามปากกาให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีเงิน สีน้ำเงิน สีแดง และสีดำ มาพร้อมกับระยะเวลาในการรับประกันปากกายาวนานถึง 1 ปี
2. Baseus – ACSXB-A0G
ปากกา iPad ที่ดีที่สุดพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน
- ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน 18 ชั่วโมง
- ดีไซน์สวยงามหยิบจับง่าย
- เปิดปิดการใช้งานได้ที่ตัวปากกา
- เขียนได้แม่นยำไม่มีอาการหน่วง
- มีให้เลือกแค่สีเดียว
บางท่านที่สงสัยว่าจะซื้อ ปากกา เขียน ipad ยี่ห้อ ไหน ดี สำหรับเรื่องของแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานต้องยกให้กับปากกาแบรนด์ Baseus รุ่น ACXB-A0G โดยรุ่นนี้จะมาพร้อมกับการรองรับการใช้งานคู่กับ iPad ได้อย่างไหลลื่น อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบประหยัดพลังงานแบบอัตโนมัติถ้าหากวางไว้ไม่ได้ใช้งานเกิน 5 นาที นอกจากนี้ยังเป็นรุ่นที่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 18 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ที่สำคัญยังเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับหัวปากกาที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ทำให้ทุกท่านหมดปัญหากวนใจเมื่อหัวปากกาเสีย โดยพร้อมกับรูปทรงที่ออกแบบมาเป็นอย่างดีหยิบจับได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วยทำให้ทุกท่านสามารถเขียนได้อย่างแม่นยำไม่มีสะดุดและไม่มีอาการหน่วง ถ้าหากไม่ได้ใช้งานจะสามารถสแตนบายไว้ได้นานถึง 12 เดือนเลยทีเดียว การเชื่อมต่อก็ทำได้ง่ายเพียงแค่เปิดปุ่มเปิดปิดที่ตัวปากกาก็เชื่อมต่อเพื่อใช้งานกันได้แล้ว
3. Adonit – Dash 4 Fine
ปากกา iPad ที่ดีที่สุดตามหลักสรีรศาสตร์
- รูปทรงของปากกาถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีหยิบจับได้ง่าย
- ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 14 ชั่วโมง
- เปิดปิดการใช้งานได้ผ่านแค่เพียงปุ่มเดียว
- วัสดุทำจากอลูมิเนียมน้ำหนักเบา
ช่วยบำรุงให้ผมเงางามอยู่ตลอด เพียงแค่สระและทิ้งไว้แค่ 3 นาทีเท่านั้น ทุกคนก็จะเนรมิตผมนิ่มสลวย บำรุงได้ถึงรากผมและหนักศีรษะช่วยเสริมความแข็งแร่งให้กับเส้นผม ไม่ว่าจะประสบปัญหาเส้นผมรูปแบบไหนทั้งผมแตกปลาย ผมไม่มีน้ำหนัก รังแค หรือผมขาดหลุดร่วง ทุกปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมเคราตินตัวนี้สามารถจัดการได้ทั้งหมด
เคราตินหมักผมที่เราจะแนะนำว่าดีที่สุดสำหรับผมธรรมดาคือเคราตินของแบรนด์ JOJI Charcoal Keratin ซึ่งต้องบอกเลยว่าตัวนี้ทำความสะอาดเส้นผมและความมันได้อยู่มัด มีส่วนผสมหลัก 3 ชนิด คือ ผงชาโคลที่จะช่วยดูดซับสิ่งสกปรก เคราตินที่ช่วยบำรุงเส้นผม และสารสกัดเมล็ดมะรุมที่จะลดการขาดหลุดร่วง เนื้อเคราตินมีความหนาแน่นเข้มข้น กลิ่นหอมติดทน ที่สำคัญการที่เลือกใช้สารสกัดจากธรรมชาติทำให้เหมาะกับผมธรรมดา
4. Elago – Universal
สไตลัส iPad ที่ดีที่สุดสำหรับการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน
- ปากกาดีไซน์หรูหรามีความโค้งมนจับได้ถนัดมือ
- มีสีด้ามปากกาให้เลือก 6 สี
- ควบคุมการใช้งานได้อย่างแม่นยำ
- ปากกาค่อนข้างหนักมากกว่ารุ่นอื่น
สำหรับปากกาที่ใช้งาน iPad ในการทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้ดีที่สุดในปีนี้จะต้องยกให้กับยี่ห้อ Elago รุ่น Universal กันเลยทีเดียว โดยเป็นปากกาที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีรูปทรงปากกามาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูโค้งมนหยิบจับได้ง่าย ผลิตออกมาหลากหลายสีมาพร้อมกับการออกแบบด้วยคอนเซปเรียบหรูตามมาตรฐานของแบรนด์ Elago ซึ่งมาพร้อมกับสีของด้ามจับที่มาให้เลือกมากถึง 6 สีเลยทีเดียว ได้แก่ สีชมพูเข้ม สีเงิน สีน้ำเงิน สีน้ำตาล สีดำ และสีทอง
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับด้ามจับที่มีความนุ่มในการสัมผัสเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีการควบคุมที่แม่นยำใช้งานวาดและเขียนได้อย่างไหลลื่น โดยแบรนด์นี้ยังมาพร้อมกับหัวยางที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ดังนั้นถ้าหากใครที่กำลังมองหาปากกาที่สามารถใช้งานหลายๆอย่างพร้อมกันได้ปากการุ่นนี้จะตอบโจทย์ทุกท่านอย่างแน่นอน
5. ADONIT – NOTE PLUS
ปากกา iPad ที่ดีที่สุดสำหรับศิลปินและนักวาดภาพประกอบ
- รองรับการกดได้ 2,048
- น้ำหนักปากกามีแค่เพียง 15 กรัม
- ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน 10 ชั่วโมง
- หัวปากกาใช้งานได้เป็นธรรมชาติมีความแม่นยำ
- ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับปากกาแบรนด์อื่น
ปากกาสไตตัสที่ดีที่สุดสำหรับศิลปินและนักวาดภาพประกอบจะต้องยกให้กับปากกาของยี่ห้อ ADONIT รุ่น NOTE PLUS กันเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นรุ่นที่มีการออกแบบมาเป็นอย่างดีอีกทั้งยังมีความเรียบหรูดูแพงอีกด้วย โดยมาพร้อมกับการเลือกใช้วัสดุที่ผลิตด้วยอลูมิเนียมจึงมีน้ำหนักที่เบา ไวต่อการสัมผัสโดยรองรับแรงกดได้มากถึง 2,048 ระดับเลยทีเดียว ซึ่งเหมาะสำหรับการวาดรูปเป็นอย่างมากเพราะสามารถลงน้ำหนักได้อย่างอิสระ อีกทั้งยังสามารถเจาะจงเรื่องของการแรเงาในพื้นที่ต่างๆ
โดยมาพร้อมกับความแม่นยำและความไหลลื่นในการใช้งาน แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 10 ชั่วโมง น้ำหนักปากกาแค่เพียง 15 กรัมเท่านั้น หัวปากกาเป็นแบบพิเศษให้ความรู้สึกใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติอีกทั้งยังถอดเปลี่ยนได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว ที่สำคัญบนปากกาจะมีปุ่มลัดที่ช่วยทำให้ใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆได้อย่างง่ายมากยิ่งขึ้น
6. UGREEN – 80135
ปากกา iPad น้ำหนักเบาที่ดีที่สุด
- น้ำหนักปากกาแค่เพียง 12 กรัม
- วัสดุทำจากอลูมิเนียมอัลลอยด์
- ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน 18 ชั่วโมง
- มีโหมดประหยัดพลังงาน
- ตัวปากกาค่อนข้างลื่น
ถ้าหากใครที่กำลังมองหาปากกาที่มาพร้อมกับน้ำหนักเบาที่ดีที่สุดจะต้องแนะนำแบรนด์ UGREEN รุ่น 90135 ให้เลยเพราะว่าเป็นปากกาที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความทันสมัย โดยเลือกใช้วัสดุจากอลูมิเนียมอัลลอยด์ดังนั้นจึงมาพร้อมกับน้ำหนักเบาแค่เพียง 12 กรัมเท่านั้น ที่สำคัญยังใช้งานได้ไม่ยากเพียงแค่แตะที่ปุ่มบนปากกาก็สามารถเชื่อมต่อ Bluetooth กันได้อย่างอิสระแล้ว
ที่สำคัญยังเป็นปากกาที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นในการประหยัดพลังงานและมีระบบอัจฉริยะที่สามารถปิดการสแตนบายอัตโนมัติเมื่อไม่มีการใช้งานเป็นเวลา 5 นาที ที่สำคัญเป็นรุ่นที่สามารถใช้งานได้ต่อนานยาวนานถึง 18 ชั่วโมงอีกด้วย โดยรุ่นนี้จะมาพร้อมกับความไวในการสัมผัสระบบประมวลผลรวดเร็วไม่มีอาการหน่วงเวลาใช้งาน หัวปากกาเป็นแบบโค้งมนใช้งานได้อย่างไหลลื่นเหมาะสำหรับทั้งงานวาดงานเขียนและการจดบันทึกข้อมูลต่างๆ
7. Apple Pencil – 2nd Generation
สไตตัส iPad ที่ดีที่สุดสำหรับช่างภาพ
- น้ำหนักแค่เพียง 20.7 กรัมใช้งานได้ง่าย
- รองรับการชาร์จไร้สายผ่านตัวเครื่อง iPad
- ตอบสนองต่อแรงสัมผัสได้ไว
- ราคาแพง
Apple pencil Generation 2 เป็นรุ่นที่ดีที่สุดสำหรับช่างภาพเลยทีเดียว โดยมาพร้อมกับความไวในการสัมผัสที่สามารถใช้จดบันทึก การเขียน และการวาดที่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยังมาพร้อมกับแม่เหล็กที่สามารถวางปากกายึดติดกับตัว iPad Pro ไว้ได้ ที่สำคัญยังเป็นรุ่นที่รองรับการชาร์จแบบไร้สายทำให้สามารถใช้งานกันได้อย่างสะดวกสบายไม่ต้องพกพาสายชาร์ต น้ำหนักแค่เพียง 20.7 กรัม
ที่สำคัญยังเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับความแม่นยำในการใช้งานและมีความหน่วงในระดับที่ต่ำ ไม่ว่าจะใช้แรงกดเพื่อเพิ่มความหนาของเส้น หรือจะเอียงปากกาเพื่อแรเงาก็สามารถทำได้ทั้งนั้น ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นงานวาดรูป งานระบายสี หรือการแก้ไขตกแต่งภาพต่างๆก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายเลย อีกทั้งยังมาพร้อมกับการใช้งานได้อย่างสะดวกสบายเพียงแค่สัมผัสตัวปากกาสองครั้งก็สามารถเปรียบโหมดในการใช้งานได้แล้วเป็นได้ทั้งปากกาและยางลบในด้ามเดียว
8. XP – Pen P05
สุดยอดปากกา iPad เป็นเมาส์ที่ดีที่สุด
- ใช้งานได้ทั้งเป็นเม้าส์และเป็นปากกา
- ดีไซน์แปลกใหม่
- ด้ามจับมีแผ่นยางจับปากกาได้อย่างมั่นคง
- แรงกดของปากกามีมากถึง 8,129 ระดับ
- ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย
- ปากกามีขนาดใหญ่บางท่านอาจใช้งานไม่ถนัด
สำหรับปากกาของยี่ห้อ XP รุ่น Pen 05 จะมาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูแปลกตาหลายๆท่านอย่างแน่นอน โดยรุ่นนี้จะเป็นปากกาแบบ 2in1 ที่สามารถใช้งานเป็นเม้าส์ได้อีกด้วย โดยมาพร้อมกับฟังก์ชั่นทุกอย่างที่เม้าส์ปกติสามารถใช้งานได้เลยทีเดียว แต่ความโดดเด่นของเม้าส์ยี่ห้อนี้ก็คือการที่สามารถหลีกเลี่ยงอาการปวดบริเวณข้อมือได้แม้ว่าจะใช้งานติดต่อกันยาวนานก็ตาม อีกทั้งยังมาพร้อมกับด้ามจับที่เป็นแผ่นยางซึ่งสามารถจับใช้งานได้ถนัดมือไม่ลื่นจนเกินไป
ที่สำคัญปากการุ่นนี้ยังมาพร้อมกับความสะดวกสบายอย่างเต็มพิกัดด้วยการมีปุ่มให้ทุกท่านสลับโหมดในการใช้งานกันได้ไม่ยากสามารถเลือกได้ว่าจะใช้งานเป็นปากกาหรือว่ายางลบเพียงแค่กดปุ่มครั้งเดียวเท่านั้น โดยเป็นรุ่นที่รองรับแรงกดของปากกาได้มากถึง 8,192 ระดับเลยทีเดียว
9. ปากกาหัวจานแบน
ปากกาหัวจานแบนเขียนไอแพคและแท็บเล็ต มือถือสมาร์ทโฟน ios และ Android
- ดีไซน์น่ารักหยิบจับได้ง่าย
- ใช้งานได้หลากหลาย
- มีปุ่มสำหรับการสลับโหมดในการใช้งานได้อย่างง่ายดาย
- หัวปากกาเขียนได้ไม่ไหลลื่น
ถ้าหากพูดถึงปากกาที่ใช้งานคู่กับ iPad สำหรับเด็กเราต้องขอแนะนำปากกาหัวแบน เพราะจะเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูน่ารักสดใสและแปลกตาหลายๆท่านกันอย่างแน่นอน โดยออกแบบปลายปากกามาเป็นรูปคนที่มีผมเป็นแปรงสำหรับทำความสะอาดหน้าจอ โดยปากการุ่นนี้จะมีหัวโค้งมนไม่แหลมจึงเหมาะสำหรับเด็กเป็นอย่างมากที่สำคัญยังมาพร้อมกับสีสันเลยทีเดียว
สำหรับปากการุ่นนี้จะใช้วัสดุจากพลาสติกทำให้มีน้ำหนักที่เบา อีกทั้งยังเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับคุณสมบัติในการใช้งานได้แบบ 2 in 1 อีกด้วย เพราะใช้เป็นปากกาสำหรับเขียน ผ้าสำหรับเช็คจอ และใช้งานสำหรับการสัมผัสหน้าจอได้ โดยมีความสะดวกสบายในการใช้งานเป็นอย่างมากเพราะเพียงแค่กดปุ่มก็สามารถสลับโหมดเพื่อใช้งานกันได้แล้ว
10. GOOJODOQ – CD3240
สไตตัส iPad ที่ดีที่สุดสำหรับนักเรียน
- ใช้งานได้อย่างไหลลื่น
- เปิดปิดผ่านการสัมผัสปุ่มเดียว
- เทคโนโลยี Palm Rejection
- ไม่รองรับการชาร์ตแบบไร้สาย
GOOJODOQ เป็นแบรนด์ปากกาสำหรับการใช้งาน iPad ซึ่งรุ่น CD3240 เป็นรุ่นที่เราจะแนะนำให้กับนักเรียนได้นำไปใช้เพราะเป็นรุ่นที่ดีที่สุดสำหรับนักเรียนเลยทีเดียว ด้วยคุณสมบัติในการใช้งานที่ครอบคลุมฟังก์ชั่นต่างๆที่จำเป็น อีกทั้งยังมาพร้อมกับราคาที่ไม่แพงจนเกินไปอีกด้วย โดยมาพร้อมกับดีไซน์ของปากกาที่ดูเรียง่ายเพรียวและบางเบาเป็นอย่างมาก ซึ่งปากกาตัวนี้จะมีความแม่นยำและเขียนได้อย่างไหลลื่น
การเชื่อมต่อทำได้ไม่ยากเพียงแค่สัมผัสที่ตัวปากกาเพื่อสั่งงานเปิดหรือปิดเท่านั้น ที่สำคัญยังเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นในการตรวจจับความเอียงของปากกาอีกด้วยทำให้ปรับน้ำหนักได้เหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละท่าน นอกจากนี้ยังเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับระบบแม่เหล็กที่สามารถวางปากกาติดกับตัวเครื่องได้สร้างความสะดวกสบายในการพกพาไปตามสถานที่ต่างๆเป็นอย่างมาก และที่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือรุ่นนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยี Palm Rejection ที่ทำให้การเขียนและการจดบันทึกมีความสเถียรมากยิ่งขึ้น
คำแนะนำในการซื้อปากกาไอแพด
อะไรทำให้สไตลัสที่ดี
หัวปากกาอ่อนโยน
บางท่านอาจจะไม่เข้าใจว่าการที่มีหัวปากกาอ่อนโยนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ ปากกา iPad มีคุณสมบัติที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้อย่างไร โดยเราต้องอธิบายก่อนว่าสำหรับงานเขียนโดยทั่วไปถ้าหากหัวปากกาแข็งจะต้องใช้น้ำหนักในการกดข้อมือเยอะซึ่งจะทำให้ทุกท่านต้องใช้แรงมากจนเกินไปจนในบางครั้งอาจเกิดอาการปวดบริเวณข้อมือกันได้ ดังนั้นการเลือกหัวปากกาอ่อนโยนจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกท่านสามารถใช้งานได้ง่ายมากยิ่งขึ้นแล้วใช้แรงในการกดน้อยลงอีกด้วย
ไส้ปากกาสไตลัส
เรื่องของไส้ปากกาก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่สำคัญซึ่งส่งผลต่อการใช้งานในระยะยาวอีกด้วยเพราะถ้าหากไส้ปากกาสั้นหรือไส้ปากกาไม่มีคุณภาพก็จะทำให้ส่งผลต่อการเขียนยิ่งถ้าหากใช้สำหรับการวาดรูปหรือใช้สำหรับการทำงานขั้นสูงก็จะเห็นได้ชัดเลยทีเดียว
คุณสมบัติพิเศษสำหรับนักวาดภาพประกอบศิลปิน และนักถ่ายภาพ
ความไวต่อแรงกด
ต้องบอกเลยว่าในการใช้งานเพื่อการวาดภาพหรือการตกแต่งภาพแก้ไขงานต่างๆเรื่องของความไวและแรงกดก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามไปเลยเพราะว่าสำหรับนักวาดภาพบางท่านก็จะมีน้ำหนักของมือที่ไม่เหมือนกันและจะมีเทคนิคเฉพาะตัวในการแรเงาต่างๆ ดังนั้นถ้าหากจะใช้งานสำหรับการวาดภาพความไวต่อแรงกดขั้นต่ำควรที่จะมีตั้งแต่ 2,000 ระดับเป็นต้นไปเพื่อรองรับการใช้งานขั้นสูงกันได้
- ปฏิเสธปาล์ม สำหรับฟังก์ชั่นปฏิเสธปาล์มหรือที่บางท่านคุ้มเคยในชื่อ Palm Rejection เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรดูสำหรับการเลือกซื้อ ปากกา iPad เพราะว่าปัญหาส่วนใหญ่ที่หลายๆท่านมักจะพบเจอก็คือการใช้งานการเขียนไปพร้อมกับการใช้มือสัมผัสจอไปด้วย ซึ่งถ้าหากไม่มีฟังก์ชั่น Palm Rejection จะทำให้เกิดการสับสนในการทำงานได้เพราะอาจจะเผลอนำมือไปสัมผัสจอทำให้ iPad ไปตอบสนองต่อการใช้งานผ่านนิ้วมือแทนและไม่ได้การทำงานตามที่แต่ละท่านต้องการ ดังนั้นการเลือกปากกาก็ควรเลือกที่มีฟังก์ชั่น Palm Rejection
- การเชื่อมต่อไร้สาย การเชื่อมต่อแบบไร้สายจะมาพร้อมกับความสะดวกสบายที่มากกว่าเดิมเนื่องจากทุกท่านเพียงแค่เชื่อมต่อกับ Bluetooth ก็สามารถเริ่มต้นใช้งานกันได้แล้ว แต่สำหรับบางท่านก็อาจจะเห็นว่าการเชื่อมต่อแบบไร้สายไม่ตอบโจทย์การใช้งานของตนเองเพราะว่าเป็นคนที่ไม่ได้ใช้งานพกพาไปตามสถานที่ต่างๆมากมายการเชื่อมต่อผ่าน USB C ก็สามารถใช้ได้เช่นเดียวกันเพราะว่าถ้าเป็นปากกาที่สามารถใช้งานเชื่อมต่อแบบไร้สายได้ก็จะมีราคาที่สูงขึ้นจากปกตินั้นเอง
- iPad รุ่นไหนใช้ปากกาได้ สำหรับ iPad ที่สามารถรองรับการใช้งานปากกาได้นั้นถ้าหากเป็นรุ่นปัจจุบันที่มีการวางจำหน่ายอยู่ทั้งหมดในร้านค้าชั้นนำระดับประเทศตอนนี้จะสามารถเชื่อมต่อปากกาได้ทั้งหมด โดยถ้าหากเป็นรุ่น iPad Pro จะเริ่มต้นใช้งานร่วมกับปากกาได้ตั้งแต่รุ่นที่มีขนาด 12.9 นิ้ว ซึ่งวางจำหน่ายในปี 2015 ส่วนถ้าเป็น iPad Air จะสามารถใช้งานคู่กับปากกาได้คือ iPad Air รุ่นตั้งแค่ปี 2018 เป็นต้นไป และ iPad mini จะเริ่มเชื่อมต่อกับปากกาได้ตั้งแต่รุ่น iPad mini 5 เป็นต้นไป ดังนั้นสำหรับท่านใดที่จะซื้อปากกาไปใช้คู่กับ iPad จะต้องตรวจสอบรุ่นที่ตนเองใช้งานกันให้ดีก่อนเพื่อให้สามารถซื้อไปและสามารถใช้งานได้จริง
- ฉันสามารถใช้สไตตัสใดๆกับ iPad ได้หรือไม่ ในการใช้งาน iPad นอกจากที่จะใช้ปากกาของแบรนด์ Apple แล้วก็ยังสามารถที่ใช้งานร่วมกับสไตตัสของแบรนด์อื่นๆที่สามารถเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ได้อีกด้วย ซึ่งสำหรับบางท่านก็มักที่จะเลือกซื้อปากกาของแบรนด์อื่นมาใช้เนื่องจากปากกาของแบรนด์ Apple มีราคาค่อนข้างสูงกว่ารุ่นอื่นเป็นอย่างมาก แต่สำหรับใครที่จะซื้อมาใช้อาจจะต้องอ่านคุณสมบัติและการรองรับการเชื่อมต่อให้ดีก่อนว่ารุ่นที่ท่านต้องการซื้อจะสามารถใช้งานคู่กับ iPad ได้หรือไม่ แต่สำหรับโดยส่วนใหญ่แค่เพียงเชื่อมต่อ Bluetooth ได้ก็จะรองรับการใช้งานกับ iPad ได้ด้วย
คำถามและคำตอบ
สไตลัสใช้งานได้นานแค่ไหน?
อีกหนึ่งคำถามยอดนิยมจากหลายๆท่านก็คือระยะเวลาในการใช้งานปากกาสไตลัสซึ่งต้องบอกก่อนว่าแต่ละยี่ห้อจะมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งโดยปกติจะมีอายุการใช้งานได้มากกว่า 2 ปีเป็นต้นไป โดยจะขึ้นอยู่กับการใช้งานว่าใช้งานหนักแค่ไหน หรือว่าขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา การเก็บรักษา และวัสดุที่ใช้ในการผลิตอีกด้วย โดยถ้าหากเป็นแบรนด์ที่มีราคาค่อนข้างสูงก็จะเลือกใช้วัสดุที่มีความทนทานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าแบรนด์อื่นๆ
คุณควรใช้เงินเท่าไหร่กับสไตลัส?
สำหรับค่าใช้จ่ายในการซื้อสไตลัสจะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติที่แต่ละท่านต้องการและงบประมาณที่มีเป็นหลัก ดังนั้นการที่จะซื้อสไตลัสราคาถูกหรือราคาแพงจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ความชอบเท่านั้น เพราะถ้าหากต้องใช้งานเพื่อการวาดภาพราคาของสไตลัสก็จะแพงขึ้นตามคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้นตาม ดังนั้นงบประมาณที่จะใช้ซื้อก็จะขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละท่าน แต่ถ้าหากใช้งานสำหรับการเขียนทั่วไปก้ไม่ควรซื้อสไตลัสราคาเกิน 3,000 บาท