สำหรับในปัจจุบันเราจะเห็นได้เลยว่ามีอุปกรณ์ไฟฟ้าที่พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดจำนวนมาก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน ซึ่งสำหรับใครที่เป็นสายเทคโนโลยีกันอยู่และอยากที่จะช่วยลดโลกร้อนการที่ใช้งาน สกู้ตเตอร์ไฟฟ้า ก็จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการเดินทางไปในพื้นที่ใกล้ๆ โดยสำหรับในบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปเจาะลึกกันว่าจะมีสกู้ตเตอร์รูปแบบไฟฟ้ายี่ห้อไหนที่น่าซื้อมาใช้งานบ้าง ซึ่งจะช่วยทำให้ทุกท่านตัดสินใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอนไปดูกันเลยดีกว่า
11 อันดับ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ปี 2023
ตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเรา
1. โดยรวมดีที่สุด: Ninebot F25 Lazada/Shopee
2. แบบมีที่นั่ง: SEALUP XLP-Q9 Lazada/Shopee
3. งบประมาณที่ดีที่สุด: Lulae L6 Lazada/Shopee
4. น้ำหนักเบาและพกพาสะดวก: Ninebot Air T15 Lazada/Shopee
5. ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์: INMOTION A1 Lazada/Shopee
6. เหมาะสำหรับผู้ขับขี่สูง: Xiaomi Pro Lazada/Shopee
7. ออฟโรด: SEALUP XLP Q8 Lazada/Shopee
8. การกันน้ำ: HX-X8 / HX-X9 E-Scooter Lazada/Shopee
9. สำหรับระยะทางไกล: Ninebot Max Lazada/Shopee
10. รองรับผู้ขับขี่หนัก: SEALUP- XLP Q7 48V Lazada/Shopee
11. สำหรับผู้ที่ต้องการขับเร็ว: SEALUP XLP-Q18 Lazada/Shopee
แนะนำ สกู้ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี 2023
1. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าโดยรวมดีที่สุด
Ninebot-F25
ข้อดี
ข้อข้อเสีย
สำหรับ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติโดยรวมดีที่สุดเราต้องแนะนำของยี่ห้อ Segway Ninebot F25 ซึ่งเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับการออกแบบเป็นพิเศษเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีมีความมั่นคงปลอดภัยในการใช้งาน มีการติดตั้งดิสก์เบรก E-ABS มาให้ด้วยเพื่อความปลอดภัย น้ำหนักของตัวเครื่องอยู่ที่ 14.55 กิโลกรัม วิ่งได้ไกลสุด 25 กิโลเมตร ใช้เวลาในการชาร์จไฟประมาณ 5 ชั่วโมง รองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานได้ 100 กิโลกรัม
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับจอแสดงผลขนาดเล็กแต่ให้ข้อมูลแบบครบวงจรมีทั้งรายละเอียดเกี่ยวกับความเร็ว สถานะไฟ สถานะ BLUETOOTH อีกทั้งยังแสดงโหมดในการใช้งานอีกด้วยมีทั้งโหมดใช้งานบนทางเท้า โหมดแจ้งเตือนกรณีที่อุณหภูมิสูงเกินไป และระดับแบตเตอรี่เพื่อให้คำนวณระยะเวลาที่สามารถใช้งานได้ ที่สำคัญยังมาพร้อมกับไฟหน้าที่ทำให้ใช้งานในเส้นทางที่มืด อีกทั้งยังเลือกใช้ดอกยางที่รีดน้ำได้ อีกทั้งตัวสกู๊ตเตอร์ยังกันน้ำได้ในระดับ IPX5
2. สุดยอดสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแบบมีที่นั่ง
SEALUP – XLP Q9
ข้อดี
ข้อข้อเสีย
สำหรับสกู๊ตเตอร์แบบมีที่นั่งซึ่งใช้งานด้วยไฟฟ้าที่เราจะแนะนำก็คือของแบรนด์ SEALUP XLP Q9 ซึ่งเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับความคุ้มค่าและเบาะใหญ่ออกแบบมาเป็นอย่างดีลดความเมื่อยล้าได้ โดยสามารถปรับระดับความเร็วได้ 3 ระดับ มาพร้อมความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อีกทั้งยังสามารถปรับคันเร่งได้ง่ายด้วยการใช้เพียงแค่นิ้วเดียว ที่สำคัญยังมาช่องสำหรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์ได้อีกด้วย นับว่าเป็นรุ่นที่ควบคุมความเร็วได้ง่ายใช้งานได้อย่างปลอดภัย
ที่สำคัญรุ่นนี้มีการใส่ใจตั้งแต่การออกแบบด้วยล้อหลังที่ใช้ยางคุณภาพสูงคล้ายคลึงกับยางรถยนต์และใช้ดัมเบรกและเบรกไฟฟ้า E-ABS ระบบเบรกคู่ โดยเป็นรุ่นที่สามารถรองรับน้ำหนักผู้ใช้งานได้สูงสุด 150 กิโลกรัม ตัวสกู๊ตเตอร์มีน้ำหนัก 26 กิโลกรัม ที่สำคัญยังมาพร้อมกับไฟ LED รอบคันเหมาะแก่การใช้งานในพื้นที่ที่มีแสงน้อยได้อย่างปลอดภัย วัสดุคุณภาพสูงแข็งแรงทนทาน กันน้ำกันฝุ่นได้ในระดับ IP54
3. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้างบประมาณที่ดีที่สุด
Lulae – L6
ข้อดี
ข้อข้อเสีย
scooter ไฟฟ้า ที่ดีที่สุดด้านของงบประมาณเราต้องแนะนำ Lulae L6 ซึ่งเป็นสกู๊ตเตอร์แบบมีเบาะนั่งที่สามารถใช้งานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยมาพร้อมกับขนาดที่ไม่ใหญ่มากอีกทั้งยังสามารถพับเก็บได้ทำให้พกพาได้อย่างสะดวกสบาย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีระบบที่สามารถขับขึ้นเนิน 30 องศาได้อย่างง่ายดายใช้งานได้อย่างเสถียรและปลอดภัย มาพร้อมกับน้ำหนักตัวเครื่อง 21 กิโลกรัม ใช้เวลาในการชาร์จประมาณ 6 ชั่วโมง
โดยสำหรับรุ่นนี้จะมาพร้อมกับไฟหน้า LED ส่องสว่าง ความเร็วสูงสุดในการใช้งานคือ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การออกแบบดูทันสมัย มีหน้าปัดที่แสดงสถานะของแบตเตอรี่ที่พักเท้ามีขนาดกว้างวางได้อย่างสะดวกสบาย เบาะที่นั่งขนาดใหญ่ ที่สำคัญยังใส่ใจเรื่องของความปลอดภัยด้วยการใช้ช่องชาร์จไฟแบบกันน้ำกันฝุ่นอีกด้วย ตัวล็อคทำจากวัสดุอลูมิเนียมพับได้ค่าใช้จ่ายเรื่องของการซ่อมแซม มาพร้อมกับสีตัวเครื่องให้เลือกทั้งหมด 8 สี
4. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเบาและพกพาสะดวก
Ninebot Air – T15
ข้อดี
ข้อข้อเสีย
สำหรับ Ninebot Air T15 เป็นรุ่นที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูทันสมัยโดยมาพร้อมกับน้ำหนักตัวเครื่องแค่เพียง 10.5 กิโลกรัมเท่านั้นทำให้สามารถพกพาได้อย่างสะดวกสบายด้วยน้ำหนักและขนาดที่กระทัดรัดเป็นอย่างมาก ตัวเครื่องจะดูหรูหราแปลกใหม่ ระบบเบรกของตัวเครื่องจะอยู่ที่มือจับใช้วัสดุจากโลหะที่หุ้มด้วยพลาสติกทำให้สามารถใช้งานได้อย่างทนทาน มีแถบไฟรอบทิศทางที่จะช่วยให้มองเห็นในเวลากลางคืน
ที่สำคัญบริเวณมือจับจะมาพร้อมกับจอ LED ที่จะแสดงค่าสถานะต่างๆควบคุมหน้าจอเป็นแบบไร้ปุ่มควบคุมได้ไม่ยาก อีกทั้งยังมีโหมดในการใช้งานให้เลือกมากถึง 4 โหมดเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังเป็นรุ่นที่สามารถพับเก็บได้อีกด้วย ความเร็งสูงสุดที่สามารถใช้งานได้อยู่ที่ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งได้ระยะทางไกลสุด 15 กิโลเมตร ไต่เนินความชัน 15 องศาได้ รองรับน้ำหนักผู้ใช้งานสูงสุดได้ 100 กิโลกรัม อีกทั้งยังเลือกใช้ยางโฟมที่วิ่งได้นิ่มอีกด้วย
5. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
INMOTION – A1
ข้อดี
ข้อข้อเสีย
แนะนำ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ที่ตอบโจทย์การใช้ทุกไลฟ์สไตล์ต้องของแบรนด์ INMOTION A1 โดยเป็นรุ่นที่ใช้วัสดุอลูมิเนียมอัลลอยที่มีคุณภาพสูงที่มีพร้อมกับคุณสมบัติที่แข็งแรง ทนทาน น้ำหนักเบา อีกทั้งยังสามารถพับเก็บได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถวิ่งได้ไกล 20 กิโลเมตรเลยทีเดียวเพียงแค่ใช้ระยะเวลาในการชาร์จแค่เพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น มาพร้อมกับความเร็วสูงสุด 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนี้ถ้าหาแบตเตอรี่ที่ชาร์จเอาไว้หมดก็สามารถเปลี่ยนไปใช้งานเป็นสกู๊ตเตอร์ปกติได้
ที่สำคัญยังเป็นรุ่นที่สามารถรองรับการใช้งานบนพื้นขรุขระได้ด้วยยางลมที่ช่วยลดการสั่นสะเทือนและยึดเกาะพื้นได้เป็นอย่างดี น้ำหนักตัวเครื่องทั้งหมด 12.5 กิโลกรัม สามารถรองรับน้ำหนักผู้ใช้งานได้สูงถึง 100 กิโลกรัม มีระบบในการประหยัดพลังงานจากเบรกไฟฟ้า ด้านหน้ามีไฟส่องสว่างช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีแสงน้อย มาพร้อมคุณสมบัติในการกันน้ำและกันฝน
6. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเหมาะสำหรับผู้ขับขี่สูง
Xiaomi – Pro
ข้อดี
ข้อข้อเสีย
แนะนำ Xiaomi Electric Scooter Pro ซึ่งเป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก โดยมาพร้อมกับน้ำหนักที่เบา พกพาได้อย่างสะดวกสบาย ดีไซน์สวยงามดูมั่นคงใช้งานได้อย่างปลอดภัย มาพร้อมโหมดในการใช้งานให้เลือกทั้งหมด 3 โหมดปรับเปลี่ยนได้ไม่ยากเพียงแค่กดปุ่มติดต่อกัน 2 ครั้งก็สามารถเปลี่ยนโหมดในการใช้งานได้แล้ว มีทั้งโหมดปกติ โหมดสปอร์ต และโหมดประหยัดพลังงาน วัสดุแข็งแรงทนทานจากอลูมิเนียมอัลลอย
ตัวสกู๊ตเตอร์มาพร้อมกับโหมดที่ขับได้ช้าและปลอดภัยผู้สูงอายุก็สามารถใช้งานได้ โดยมาพร้อมกับความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่สำหรับความเร็วสูงสุดของรุ่นนี้จะอยู่ที่ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาในการชาร์จประมาณ 9 ชั่วโมงสามารถวิ่งได้ไกล 45 กิโลเมตรเลยทีเดียว มีจอ LED ที่แสดงค่าสถานะและรายละเอียดต่างๆอีกทั้งยังมาพร้อมกับไฟหน้าและระบบเบรก E-ABS น้ำหนักตัวรถแค่เพียง 14.2 กิโลกรัม รองรับน้ำหนักสูงสุดได้ถึง 100 กิโลกรัม
7. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าออฟโรด
SEALUP – XLP Q8
ข้อดี
ข้อข้อเสีย
สกู๊ตเตอร์ของแบรนด์ SEALUP XLP Q8 เป็นรุ่นที่ดีที่สุดสำหรับในหมวดออฟโรดเลย โดยเป็นสกู๊ตเตอร์แบบไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่สามารถพับเก็บได้อย่างง่ายดายและสามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 150 กิโลเมตรเลยทีเดียว ที่สำคัญยังมาพร้อมกับยางสุญญากาศที่มีขนาดใหญ่เหมาะสำหรับการไปทำกิจกรรมกลางแจ้งอีกด้วย มีการออกแบบรองรับการขี่ในทุกสภาพถนนมีโช้คอัพทั้งด้านหน้าและด้านหลัง อีกทั้งยังมีระบบเบรก Disc brake และ E-ABS ซึ่งมีความปลอดภัยเป็นอย่างมาก
สามารถปรับระดับความเร็วได้ทั้งหมด 3 ระดับ โดยมาพร้อมกับความเร็งสูงสุด 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หน้าจอแสดงผลเป็นแบบใหม่ที่สามารถควบคุมคันเร่งได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังมาพร้อมกับช่องเสี่ยง USB เพ่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์โทรศัพท์ได้อีกด้วย สำหรับหน้าจอ LED จะแสดงค่าสถานะต่างๆรวมถึงความเร็วและแบตเตอรี่ มีคุณสมบัติในการกันน้ำ กันฝุ่น ในระดับ IP65 วัสดุแข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน อีกทั้งยังมาพร้อมกับเบาะนั่งซึ่งสามารถถอดออกได้
8. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าการกันน้ำ
HX-X8 / HX-X9 E-Scooter
ข้อดี
ข้อข้อเสีย
สำหรับรถสกู๊ตเตอร์แบบไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติกันน้ำเราต้องแนะนำรุ่น HX-X8 และ HX-X9 ซึ่งมาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูทันสมัยอีกทั้งยังมีความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งานอีกด้วย โดยสามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ในระดับ IP54 สามารถพับได้ทำให้พกพาได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีล้อขนาด 10 นิ้วที่รองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานได้สูงถึง 100 กิโลกรัมเลยทีเดียว แผ่นวางเท้ามีความกว้างเป็นพิเศษทำให้สามารถวางขาได้อย่างสะดวกสบาย ยิ่งไปกว่านั้นยังยังรองรับแรงกระแทกและพื้นขรุขระได้เป็นอย่างดี
โดยมาพร้อมกับเบาะเสริมที่ช่วยลดอาการปวดขาได้ อีกทั้งยังติดตั้งได้ไม่ยาก ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับได้ระยะทางไกลถึง 45 กิโลเมตร และสามารถวิ่งทางลาดชันได้ถึง 25 องศาอีกด้วย อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่สามารถป้องกันปัญหาไฟฟ้าลัดวงจรได้อีกด้วย อีกทั้งยังมีการใช้ระบบเบรกคุณภาพสูง
9. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ดีที่สุดสำหรับระยะทางไกล
Ninebot – Max
ข้อดี
ข้อข้อเสีย
Ninebot Max เป็นสกู๊ตเตอร์ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานในระยะทางไกลได้ดีที่สุด โดยสามารถวิ่งได้ในระยะไกลถึง 65 กิโลเมตร มีระบบความปลอดภัยทั้งเบรกหน้าและเบรกหลัง ซึ่งมาพร้อมกับล้อยางขาดใหญ่วิ่งได้ในพื้นที่ทุกรูปแบบทั้งทางเรียบและทางขรุขระ ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถรองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานได้มากที่สุด 100 กิโลกรัม โดยใช้มาพร้อมกับการเดินทางได้ทั้งหมด 3 โหมด คือ โหมดปกติ โหมดประหยัดพลังงาน และโหมดสปอร์ตซึ่งปรับเปลี่ยนได้อย่างง่ายดายผ่านหน้าจอแสดงผลแบบ LED
นอกจากนี้ที่หน้าจอแสดงผลจะมีการบอกค่าสถานะต่างๆทั้งปริมาณแบตเตอรี่ ความเร็ว และปัญหาของตัวเครื่อง โดยไม่ต้องพกพาอะแดปเตอร์เนื่องจากได้ใส่อะแดปเตอร์ไว้ในตัวใช้แค่สายไฟเส้นเล็กเชื่อมต่อก็สามารถชาร์จไฟฟ้าเข้าไปได้เลย ที่สำคัญยังมาพร้อมกับระบบปั่นไฟขณะเบรกที่ช่วยให้ประหยัดพลังงานได้มากยิ่งขึ้น ไฟด้านหน้าส่องสว่าง และสามารถพับตัวรถซึ่งสร้างความสะดวกสบายในการพกพา
10. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารองรับผู้ขับขี่หนัก
SEALUP – XLP Q7 48V
ข้อดี
ข้อข้อเสีย
สำหรับสกู๊ตเตอร์ของแบรนด์ SWALUP รุ่น XLP Q7 48V เป็นรุ่นที่เราอยากแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการรุ่นที่รองรับผู้ขับขี่ที่มีน้ำหนักเยอะได้ เพราะว่ารุ่นนี้สามารถรองรับน้ำหนักผู้ใช้งานได้สูงสุดถึง 200 กิโลกรัม โดยมาพร้อมกับยางสุญญากาศรุ่นออฟโรดที่ใช้งานได้ในพื้นถนนทุกรูปแบบ อีกทั้งยังมีระบบกันขโมย มีโหมดในการปรับความเร็วได้ทั้งหมด 3 ระดับให้เลือกปรับได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังสามารถขับขึ้นทางชัน 30 องศา
นอกจากนี้ยังรองรับการกันน้ำและกันฝุ่นได้ในระดับ IP54 โดยผลิตจากวัสดุที่ทำจากอลูมิเนียมอัลลอยเกรดพรีเมี่ยมที่แข็งแรงทนทานต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก โดยความเร็งสูงสุดจะอยู่ที่ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มาพร้อมกับเบาะที่สามารถปรับระดับความสูงต่ำได้ทั้งหมด 3 ระดับ จอ LED อยู่ตรงบริเวณมือจับ ขับได้ระยะไกลมากถึง 150 กิโลเมตร อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีในการกดเรียกตำแหน่งรถได้
11. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการขับเร็ว
SEALUP – XLP Q18
ข้อดี
ข้อข้อเสีย
ใครที่ชอบความเร็วเราขอแนะนำสกู๊ตเตอร์ระบบไฟฟ้าของแบรนด์ SEALUP XLP Q18 โดยเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับความเร็วสูงสุด 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อีกทั้งยังสามารถพกพาไปตามสถานที่ต่างๆได้อย่างสะดวกสบายเพราะสามารถพับได้ โดยมาพร้อมกับจอ LED ขนาดใหญ่ที่แสดงผลข้อมูลต่างๆ และยังมีอินเทอร์เฟซการควบคุมผ่านระบบสัมผัส แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ระยะไกลถึง 150 กิโลเมตร
ที่สำคัญยังใส่ใจเรื่องระบบความปลอดภัยมีทั้งระบบป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร ป้องกันการปล่อยกระแสเกิน ป้องกันอุณหภูมิสูงจนเกินไป มาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูสวยงามแข็งแรงทนทานใช้งานได้อย่างง่ายดาย ระบบเบรกล้อหน้าและล้อหลังโดยใช้เบรกไฟฟ้า E-ABS มาพร้อมกับระบบไฟ LED รอบคัน กันน้ำกันฝุ่นได้ในระดับ IP54 สามารถปรับระดับความสูงของแฮนด์และเบาะนั่งได้ อีกทั้งยังมีระบบสัญญาณกันขโมย ใช้สมาร์ทรีโมทในการสตาร์รถ เปิด ปิด ล็อครถ และสามารถเรียกให้รถส่งเสียงบอกตำแหน่งที่จอดได้
คำแนะนำในการซื้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า
สิ่งที่มองหาในสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า
อายุแบตเตอรี่/ช่วง
สำหรับการเลือกซื้อ สกู้ตเตอร์ อายุการใช้งานก็เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ควรให้ความสนใจโดยอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ก็เป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะสำหรับท่านใดที่ต้องการเดินทางในเส้นทางที่มีระยะไกลเรื่องของแบตเตอรี่ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลย โดยควรตรวจสอบว่ารถของคุณสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลากี่ชั่วโมงซึ่งโดยปกติถ้าหากใช้งานแถวบริเวณใกล้เคียงที่พักจะใช้แค่มีอายุแบตเตอรี่ประมาณ 30 กิโลเมตร
แต่ถ้าหากใช้สำหรับการเดินทางในต่างจังหวัดหรือสำหรับการท่องเที่ยวก็ควรเลือกที่มีแบตเตอรี่ที่สามารถใช้เดินทางได้ระยะไกล 70 กิโลเมตรเป็นต้นไป ที่สำคัญช่วงเวลาในการชาร์จก็เป็นสิ่งสำคัญเพราะจะสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว โดยแบตเตอรี่ในปัจจุบันก็มีให้เลือกหลากหลายแบบแต่แบบที่ดีที่สุดคือแบตเตอรี่แบบลิเธียมเพราะว่าจะมีอายุการใช้ที่ยาวนาน น้ำหนักน้อย อีกทั้งยังดูแลรักษาได้ง่าย
ที่สำคัญยังสามารถชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย และอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามก็คือรอบการใช้งานต่อการชาร์จโดยจะสังเกตได้จากการรีวิว่าแบตเตอรี่เสื่อมเร็วหรือไม่หรือใช้งานในช่วงระยะเวลาได้น้อยลงกว่าปกติหรือไม่ซึ่งสิ่งเหล่านั้นเป็นตัวบ่งชี้ว่าวงจรชีวิตของแบตเตอรี่น้อยนั้นเอง ดังนั้นการเลือกซื้อต้องเลือกที่แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานตอบโจทย์การใช้ชีวิตในแต่ละวัน
ความเร็ว
เรื่องของระดับความเร็วหรือโหมดความเร็วที่สามารถปรับใช้งานได้ก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่หลายๆท่านมักจะให้ความสนใจเพราะบางท่านอาจอยากใช้งานแบบปลอดภัยกับโหมดที่ไม่ไวมาก แต่ในบางอารมณ์ก็อยากที่จะใช้ความเร็วเพื่อเล่นในพื้นที่โล่ง นอกจากนี้ก็อาจอยากใช้โหมดปกติสำหรับการเดินทางไปในสถานที่ที่ไม่ไกลมาก
ดังนั้นการตรวจสอบการว่ามีระดับความเร็วให้เลือกอย่างไรบ้างก็เป็นสิ่งสำคัญในการเลือกซื้อได้ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด นอกจากนี้สิ่งสำคัญก็คือการพิจารณาให้เหมาะสมกับช่วงอายุของผผู้ใช้งานถ้าหากเป็นผู้สูงอายุก็ควรใช้โหมดธรรมดาที่มีความเร็วปกติ ถ้าเป็นเด็กอาจเลือกโหมดที่ล็อคความเร็วเอาไว้ แต่ถ้าหากใครที่ซื้อมาใช้สำหรับการเล่นกีฬาก็สามารถเลือกใช้โหมดสปอร์ตกันได้
มอเตอร์
เรื่องของมอเตอร์ก็ควรใช้ประกอบการตัดสินใจเพราะว่าถ้าหากท่านใดที่ใช้สำหรับการเดินทางจะไม่ใช่แค่เดินทางในพื้นที่เรียบเท่านั้นแต่ยังมีพื้นที่ลาดชันที่ต้องใช้ระดับความเร็วและแรงในการขับเคลื่อนที่มากกว่าปกติ ดังนั้นถ้าหากมอเตอร์มีความแรงไม่พอก็อาจจะทำให้ไม่สามารถใช้งานได้และอาจเกิดอันตรายต่อผู้ที่ใช้งานอีกด้วย ดังนั้นถ้าหากจะซื้อใช้สำหรับการเดินทางขั้นต่ำของความลาดชันที่สามารถใช้งานได้ควรที่จะเป็นประมาณ 30 องศา และมีกำลังวัตต์ที่สูงมากพอสำหรับการขึ้นทางลาดชันหรือขึ้นเนิน
ยาง/ช่วงล่าง : รับยางและขนาดล้อที่ถูกต้องสำหรับ terrain
การเลือกซื้อ ส กุ ต เตอร์ มือ 1 ไฟฟ้า ผู้ใหญ่ เรื่องของยางและช่วงล่างก็เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกโดยวัสดุของยางก็มีส่วนทำให้สามารถขับได้อย่างไหลลื่นอีกทั้งยังสามารถขับบนถนนที่มีความขรุขระได้อย่างนิ่มนวลอีกด้วย ที่สำคัญถ้าหากเลือกชนิดของยางที่มีคุณภาพสูง มีคุณภาพดีซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นยางตันก็จะไม่ต้องห่วงว่าจะเกิดปัญหายางแตกระหว่างใช้งานและไม่ต้องกังวลเรื่องของการเติมลมยาง
นอกจากนี้เรื่องของขนาดล้อก็มีผลต่อการขับขี่ได้อย่างรวดเร็วและราบรื่นเพราะถ้าหากเป็นล้อขนาดใหญ่ก็จะไม่ทำให้สะดุดเนินหรือมีปัญหากับพื้นต่างระดับ ดังนั้นการเลือกซื้อจะดูเรื่องของการใช้งานเป็นหลักเพ่อให้สามารถเลือกยางและขนาดล้อได้เหมาะสมและตอบโจทย์กับการใช้งานได้ดีที่สุด
น้ำหนัก
น้ำหนักเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่มักจะใช้ประกอบการตัดสินใจเพราะว่าถ้าหากใครที่ใช้สำหรับการเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆการที่มีน้ำหนักไม่มากจนเกินไปจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมเพราะจะสามารถพกพาได้อย่างสะดวกสบายเป็นอย่างมาก ดังนั้นถ้าหากจะใช้งานไกลบ้านหรือไปใช้ตามสถานที่อื่นๆ อาทิเช่น พกพาขึ้นรถโดยสารประจำทาง พกพาสำหรับเดินทางไปใช้ในสถานที่อื่น ก็ควรดูเรื่องน้ำหนักให้เบาไว้ก่อน ซึ่งน้ำหนักที่เหมาะแก่การพกพาคือไม่เกิน 15 กิโลกรัม
ไฟ
เรื่องของการมีไฟ LED ก็เป็นส่วนช่วยให้ทุกท่านได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางในช่วงเวลาเช้าตรู่หรือเวลากลางคืนโดยถ้าหากรถมีไฟ LED รอบคันก็จะช่วยให้ส่องสว่างรถที่ผ่านไปผ่านมามองเห็นและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้
นอกจากนี้การมีไฟด้านหน้ารถก็ทำให้มองเห็นเส้นทางข้างหน้าและมั่นใจในการเดินทางมากยิ่งขึ้น โดยสำหรับในรุ่นใหม่ๆจะมีการอัพเดทเรื่องความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น อาทิเช่น ระบบการเปิดปิดไฟแบบอัตโนมัติที่เปิดไฟเมื่อสิ่งแวดล้อมรอบข้างมืดลง ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้
ตรวจสอบคุณสมบัติด้านความปลอดภัย
สำหรับการเลือกว่าจะซื้อ สกู๊ตเตอร์ ไฟฟ้า ยี่ห้อ ไหน ดี เรื่องของการตรวจสอบคุณสมบัติด้านความปลอดภัยก็เป็นสิ่งสำคัญที่ควรให้ความสนใจโดยเรื่องของความสนใจก็เป็นสิ่งที่สำคัญควรเลือกที่มีระบบเบรกและล้อที่ทนทานเพราะว่าจะช่วยทั้งเรื่องของความนุ่มนวลและทนทานต่อการใช้งานมั่นใจได้เลยว่าจะมีประสิทธิภาพดีอีกด้วย
คำถามและคำตอบ
สกู๊ตเตอร์ปลอดภัยหรือไม่?
สำหรับการใช้งานถ้าหากทุกท่านศึกษาวิธีการต่างๆมาเป็นอย่างดีจะมีความปลอดภัยเป็นอย่างมากแต่ที่สำคัญการขับขี่ตามท้องถนนเข้าที่จะมองทางให้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ควรที่จะสวมใส่หมวกกันน็อคเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางด้วย โดยถ้าหากใช้งานตามปกติและตามวิธีการที่ทางแบรนด์ได้แนะนำมาจะสามารถขับได้อย่างปลอดภัยอย่างแน่นอน
ค่าไฟฟ้าในการใช้งานสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคืออะไร?
ในการใช้งาน scooter ไฟฟ้า จะใช้ค่าไฟฟ้าที่ประหยัดเพราะว่าการชาร์จในแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ไฟฟ้าประมาณ 280 วัตต์ดังนั้นจึงใช้ไฟแค่เพียง 1,400 วัตต์ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งเท่านั้น ซึ่งถ้าหากคำนวณมาเป็นค่าใช้จ่ายจะพบได้เลยว่ามีค่าใช้จ่ายที่ประหยัดกว่าค่าน้ำมันในแต่ละวันอย่างแน่นอนอีกทั้งยังใช้พลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วยดังนั้นสำหรับใครที่กำลังคิดว่าจะมีค่าใช้จ่ายเรื่องค่าไฟฟ้าเยอะไม่ต้องกังวลเลยเพราะจะประหยัดกว่าค่าน้ำมันต่อเดือนอย่างแน่นอน