ต้องยอมรับว่าในปัจจุบัน การทำอาหารรับประทานเองที่บ้านเริ่มกลับมาได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น ซึ่งข้าวก็เป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยมของคนไทยที่จะต้องมีอยู่ในแต่ละมื้ออาหาร ดังนั้นการเลือกหม้อที่ใช้สำหรับการหุงข้าวก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ที่ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มๆหรือสาวๆควรให้ความสำคัญ ดังนั้นเราจะพาไปดูกันว่าในปี 2024 มี หม้อหุงข้าวยี่ห้อไหนดี ที่น่าซื้อมาใช้งานบ้าง และยี่ห้อไหนที่จะตอบโจทย์ได้ครอบคลุมเป็นที่สุดของแต่ละด้านจะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยดีกว่า
9 อันดับ หม้อหุงข้าวไฟฟ้า
- 1. โดยรวมดีที่สุด: Philips HD4518/62 Lazada/Shopee
2. งบประมาณดีที่สุด: Otto CR-110 Lazada/Shopee
3. สำหรับครอบครัวใหญ่ดีที่สุด: YOTEX Lazada/Shopee
4. สำหรับครอบครัวขนาดกลางดีที่สุด: Toshiba RC-18NMF Lazada/Shopee
5. ขนาดกะทัดรัด สำหรับ 2 คน ดีที่สุด: INSSA Lazada/Shopee
6. อัจฉริยะดีที่สุด: Tefal RK730166 Lazada/Shopee
7. ระบบดิจิตอลดีที่สุด: Philips HD4515/37 Lazada/Shopee
8. ประหยัดเวลาดีที่สุด: ELECTROLUX- ERC-1800 Lazada/Shopee
9. ขนาดใหญ่โรงแรมเชิงพาณิชย์ดีที่สุด: SANDE Lazada/Shopee
- แบรนด์เครื่องทำขนมปังอัตโนมัติที่ดีที่สุดสำหรับปีนี้
- เตาไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี
รีวิว 9 อันดับ หม้อหุงข้าว ตัวไหนดี 2024
1. Philips Digital Rice Cooker HD4518/62
หม้อหุงข้าวโดยรวมดีที่สุด
- โปรแกรมการทำอาหารให้เลือกมากมายถึง 18 โปรแกรม
- ระบบทำความร้อน 3D อัจฉริยะที่มีประสิทธิภาพ
- หม้อชั้นในทนทานและไม่ติดกระทะ
- ฟังก์ชั่นอุ่นอุ่นสะดวก
- วาล์วป้องกันน้ำล้นเพื่อการทำอาหารที่ไม่เลอะเทอะ
- ข้อมูลจำเพาะอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นและภูมิภาค
- คุณสมบัติอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
หม้อหุงข้าวดิจิตอล Philips HD4518/62 เป็นเครื่องใช้ในครัวอเนกประสงค์และมีประสิทธิภาพที่มอบความสะดวกสบายและความแม่นยำให้กับประสบการณ์การหุงข้าวของคุณ ด้วยโปรแกรมการหุงที่มีให้เลือกมากมายและคุณสมบัติอันชาญฉลาด ทำให้ได้ข้าวที่มีรสชาติดีอย่างสม่ำเสมอโดยใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อย
หม้อหุงข้าวดีไซน์โค้งมนอัจฉริยะช่วยให้ได้ผลลัพธ์การทำอาหารที่สม่ำเสมอและเหมาะสมที่สุด ระบบทำความร้อน 3D อัจฉริยะส่งพลังงานความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มั่นใจได้ว่าข้าวทุกเมล็ดจะสุกได้อย่างสมบูรณ์แบบ ฟังก์ชันอุ่นจะรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสม คุณจึงเพลิดเพลินกับข้าวอุ่นได้ทุกเมื่อ
คุณสมบัติที่โดดเด่นอย่างหนึ่งของหม้อหุงข้าวนี้คือโปรแกรมการทำอาหารที่ใช้งานง่ายถึง 18 รายการ ซึ่งมีตัวเลือกที่หลากหลายสำหรับโอกาสต่างๆ หม้อชั้นในเคลือบ 6 ชั้นที่ทนทานพร้อมการเคลือบหิน Bakuhanseki ช่วยให้กระจายความร้อนได้รวดเร็วและทั่วถึง ป้องกันข้าวและอาหารไม่ติดหม้อ การเคลือบเซรามิกปลอดสารพิษสองชั้นช่วยเพิ่มความทนทานและทำความสะอาดง่าย
ด้วยความจุ 1.8 ลิตร (10 ถ้วย) จึงเหมาะสำหรับอาหารขนาดครอบครัว วาล์วป้องกันน้ำล้นช่วยป้องกันไม่ให้น้ำหกล้น มอบประสบการณ์การทำอาหารที่ไม่ยุ่งยาก
2. Otto – CR-110T
หม้อหุงข้าวงบประมาณดีที่สุด
- ความจุขนาด 1 ลิตร
- ใช้งานได้ทั้งหุง อุ่น นึ่งอาหาร
- ภายในหม้อมีอัตราส่วนบอกอย่างชัดเจน
- ผ่านการตรวจสอบมาตราฐาน
- ตัวหม้อทำความสะอาดได้ง่าย
- ไม่สามารถปรับแต่งการตั้งค่าได้
สำหรับหม้อหุงข้าวที่ต้องยกให้ว่างบประมาณดีที่สุด ต้องหม้อของแบรนด์ Otto รุ่น CR 110 เป็นหม้อที่มีความจุขนาด 1 ลิตร ตัวหม้อถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้ง่าย มาพร้อมกับการออกแบบที่มีลวดลายดอกไม้สวยงาม หม้อของรุ่นนี้จะสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย ทั้งหุงข้าว อุ่นอาหาร และนึ่งอาหาร ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่ครบวงจรเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีระบบที่อุ่นให้แบบอัตโนมัติ ทำให้การใช้งานสะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ภายในหม้อมีแถบเลขอัตราส่วนระบุเอาไว้อย่างชัดเจน ทำให้การวัดสัดส่วนในการหุงข้าวทำได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น หยิบจับได้อย่างสะดวกสบายกับหูจับที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ผิวของหม้อมีการเคลือบด้วยสารพิเศษที่ป้องกันปัญหาข้าวติดหม้ออีกด้วย เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานมาเป็นอย่างดี สามารถเชื่อมั่นได้ว่าใช้แล้วปลอดภัยอย่างแน่นอน
3. YOTEX
หม้อหุงข้าวสำหรับครอบครัวใหญ่ดีที่สุด
- ความจุขนาด 5 ลิตรเหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่
- ใช้งานได้ทั้งหุงและนึ่งอาหาร
- ทำอาหารได้มากถึง 10 เมนู
- วัสดุแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน
- น้ำหนักตัวเครื่อง 3 กิโลกรัม
หม้อแบรนด์ YOTEX เป็นตัวที่เราอยากจะแนะนำสำหรับหุงข้าวในครอบครัวขนาดใหญ่ เนื่องจากเป็นหม้อขนาด 5 ลิตร ที่ใช้งานได้ง่าย อีกทั้งยังมาพร้อมกับการออกแบบที่ดูหรูหรา แถมยังทันสมัย ใช้งานได้ไม่ยาก ที่สำคัญยังเป็นหม้อที่ใช้งานได้ทั้งหุง และนึ่ง มีเมนูสำหรับการทำอาหารให้เลือกมาถึง 10 ชนิดเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีปุ่มที่ใช้งานได้ง่าย สะดวกสบายเป็นอย่างมาก โดยมาพร้อมกับระบบทำความร้อนในรูปแบบ 3D ที่จะทำให้ความร้อนกระจายได้รอบทิศทาง
นอกจากนี้วัสดุที่ใช้ทำยังมีความแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งานอีกด้วย มาพร้อมกับน้ำหนักหม้อ 3 กิโลกรัม เป็นหม้อที่ใช้ระบบดิจิตอล มีจอแสดงผลชัดเจน ปรับแต่งการตั้งค่าเองได้ ผ่านการเคลือบสารที่ตัวหม้อมาเป็นอย่างดี มั่นใจได้เลยว่าหุงแล้วข้าวจะไม่ติดหม้ออย่างแน่นอน มีมาตราส่วนระบุไว้ภายในหม้ออย่างชัดเจน ที่สำคัญยังสามารถตั้งเวลาหุงข้าวล่วงหน้าได้
4. Toshiba – RC-18NMF
หม้อหุงข้าวสำหรับครอบครัวขนาดกลางดีที่สุด
- ความจุขนาด 1.8 ลิตร
- มีโปรแกรมหุงด่วน 15 นาที
- ฟังก์ชั่นหลากหลาย
- เคลือบด้วยสาร Healthy Flon
- โปรแกรมทำอาหาร 10 เมนู
- ตัวปุ่มตั้งค่ากดใช้งานค่อนข้างยาก
สำหรับหม้อหุงข้าวที่เราจะแนะนำว่าเป็นตัวที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวขนาดกลาง คือ หม้อของแบรนด์ Toshiba รุ่น RC 18NMF ซึ่งเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับความจุ 1.8 ลิตร หม้อมีขนาดกลางหุงข้าวได้ในปริมาณที่มาก กำลังไฟทั้งหมด 680 วัตต์ เหมาะกับครอบครัวที่มีขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ ที่สำคัญยังมาพร้อมกับการใช้งานที่สะดวกสบาย หน้าจอเป็นแบบ LCD ที่ระบุเวลาต่างๆไว้อย่างชัดเจน และยังมีระบบในการตั้งเวลาสำหรับการใช้งานแบบอัตโนมัติได้
ที่สำคัญเป็นหม้อที่มีความหนาทั้งหมด 4 มิลลิเมตร แข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน อีกทั้งยังผ่านการเคลือบด้วยสาร Healthy Flon ซึ่งทำให้ล้างทำความสะอาดได้ง่าย หุงแล้วข้าวไม่ติดหม้อแน่นอน มาพร้อมกับโปรแกรมสำหรับการทำอาหารได้ถึง 10 เมนู มีฟังก์ชั่นสำหรับการตั้งเวลาในการตุ๋นและนึ่งอาหาร รองรับการหุงข้าวได้หลากหลายประเภท มาพร้อมกับโปรแกรมหุงด่วนที่ใช้ระยะเวลาแค่ 15 นาที
5. INSSA
หม้อหุงข้าวขนาดกะทัดรัด สำหรับ 2 คน ดีที่สุด
- การออกแบบที่กะทัดรัดและประหยัดพื้นที่
- แท็งก์ด้านในเคลือบสารกันติดที่ทำความสะอาดง่าย
- ใช้งานได้หลากหลายด้วยปุ่มฟังก์ชั่น 9 ปุ่ม
- ความร้อนรอบทิศทาง 360° เพื่อการทำอาหารที่สม่ำเสมอ
- คุณลักษณะด้านความปลอดภัยสำหรับการใช้งานโดยปราศจากความกังวล
- ความจุจำกัดเหมาะสำหรับ 2 ท่านเท่านั้น
- รูปแบบของผลิตภัณฑ์อาจแตกต่างจากรูปภาพเล็กน้อ
หม้อหุงข้าว INSSA Life เป็นเครื่องใช้ในครัวขนาดกะทัดรัดและสะดวกสบาย เหมาะสำหรับครัวเรือนขนาดเล็ก ด้วยดีไซน์ทรงเหลี่ยมมน หม้อหุงข้าวนี้ไม่เพียงแต่น่ารักเท่านั้น แต่ยังประหยัดพื้นที่อีกด้วย จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคู่รักหรือบุคคลทั่วไป
การทำความสะอาดเป็นเรื่องง่ายด้วยการออกแบบให้ทำความสะอาดง่ายเพียงแค่เช็ดเพียงครั้งเดียว แท็งก์ด้านในเป็นแบบ non-stick ทำให้อาหารไม่ติดและทำความสะอาดง่ายหลังทำอาหาร หม้อหุงข้าวมีความจุ 2 ลิตร ให้ข้าวเพียงพอสำหรับ 2 คน
มีปุ่มฟังก์ชัน 9 ปุ่ม ได้แก่ การหุงแบบละเอียดอ่อน การหุงแบบด่วน ข้าวต้ม ซุป สตูว์ โยเกิร์ต เค้ก การนึ่ง และการอุ่นอาหาร หม้อหุงข้าวนี้มีความอเนกประสงค์ในการทำอาหารหลากหลายเมนู ความร้อนรอบทิศทาง 360° ช่วยให้ปรุงอาหารได้ทั่วถึงและทั่วถึง
คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรกด้วยฟังก์ชันในตัวเพื่อป้องกันการไหม้เมื่อน้ำแห้งหรือเกิดความร้อนสูงเกินไป ฟังก์ชั่นเตือนช่วยเพิ่มความอุ่นใจระหว่างการใช้งาน
6. Tefal – RK730166
หม้อหุงข้าวอัจฉริยะดีที่สุด
- ความจุขนาด 1 ลิตร
- โปรแกรม AI กำหนดระยะเวลาหุงข้าวให้เอง
- หม้อมีความหนา 1.5 มิลลิเมตร แข็งแรง ทนานต่อการใช้งาน
- ระบบอุ่นอัตโนมัติต่อเนื่อง 12 ชั่วโมง
- ปุ่มกดใช้งานง่ายและมีโปรแกรมทำอาหาร 8 เมนู
- ไม่มีจอแสดงรายละเอียดต่างๆ
หม้อ หุง ข้าว ไฟฟ้า ที่ดีที่สุดในเรื่องของการทำงานแบบอัจฉริยะต้องแนะนำหม้อของแบรนด์ Tefal รุ่น RK730166 ซึ่งเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับความจุขนาด 1 ลิตร มีเทคโนโลยีในการหุงข้าวที่ผ่านการคิดค้นมาเป็นอย่างดี สามารถคิดคำนวณและปรับเวลาที่เหมาะสมให้ได้ โดยที่เราไม่ต้องตั้งค่าหรือระบุเวลาอะไรเลย ฟังก์ชั่นต่างๆใช้งานได้ง่ายแค่เพียงกดปุ่มเลือกเมนูและกดปุ่มเริ่มทำงานเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมทำอาหารแบบอัตโนมัติทั้งหมด 8 เมนู มาพร้อมกับระบบหมุนเวียนและกระจายความร้อนได้อย่างทั่วถึง ผ่านการเคลือบสารมาเป็นอย่างดีเพื่อป้องกันไม่ให้ข้าวติดหม้อ ทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย ถอดออกมาล้างได้ หม้อมีความหนา 1.5 มิลลิเมตร อีกทั้งยังแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งานอีกด้วย ที่สำคัญยังมีระบบอุ่นแบบอัตโนมัติ ซึ่งใช้งานได้อย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 12 ชั่วโมง
7. Philips – HD4515/37
หม้อหุงข้าวระบบดิจิตอลดีที่สุด
- ความจุขนาด 1.8 ลิตร
- หน้าจอดิจิตอลขนาดใหญ่
- รักษาความอุ่นของอาหารได้ 24 ชั่วโมง
- โปรแกรมปรุงอาหาร 8 เมนู
- ไม่มีโปรแกรมคำนวณเวลาการหุงข้าวแบบอัตโนมัติ
ม้อ หุง ข้าว ไฟฟ้าที่มาพร้อมกับระบบดิจิตอลที่ดีที่สุด ต้องแนะนำหม้อของแบรนด์ Philips รุ่น HD4515 / 37 โดยเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับความจุขนาด 1.8 ลิตร ตัวหม้อมีความหนาพิเศษถึง 3 มิลลิเมตร แข็งแรงและทนทานต่อการใช้งาน ที่สำคัญยังมีการเคลือยสารกันอาหารติด มีเมนูสำหรับการปรุงอาหารได้ทั้งหมด 8 แบบ ตัวฝาด้านบนและตัวหม้อถอดออกมาทำความสะอาดได้ง่าย มีจอแสดงผลขนาดใหญ่ ระบุเมนู และระยะเวลาไว้อย่างชัดเจน มาพร้อมกับเมนูภาษาไทยทั้งหมด
ที่สำคัญยังมีฟังก์ชั่นในการอุ่นอาหารได้แบบอัตโนมัติอีกด้วย ซึ่งจะช่วยรักษาความอุ่นของอาหารได้เป็นอย่างดี คงความร้อนอย่างยาวนานมากถึง 24 ชั่วโมง การทำความร้อนจะเป็นระบบ 3 มิติ กระจายความร้อนไปในจุดต่างๆได้อย่างทั่วถึงเลยทีเดียว สามารถใช้งานได้กับข้าวทุกประเภท ปุ่มกดจะอยู่ที่ด้านบนของตัวเครื่อง กดใช้งานได้อย่างง่ายดาย มีขนาดใหญ่ ดีไซน์ตัวเครื่องดูเรียบง่ายเข้าได้กับทุกพื้นที่
8. ELECTROLUX- ERC-1800
หม้อหุงข้าวประหยัดเวลาดีที่สุด
- ความจุขนาด 1.8 ลิตร
- ฝาหม้อเป็นแบบแก้วใส
- หุงข้าวได้หลากหลายประเภท
- ใช้งานได้สะดวกสบาย ควบคุมโดยใช้ปุ่มเดียว
- กระจายความร้อนได้เป็นอย่างดี
- น้ำหนักหม้อ 2.8 กิโลกรัม
สำหรับหม้อของแบรนด์ Electrolux รุ่น ERC 1800 เป็นรุ่นที่ตอบโจทย์ชีวิตรีบเร่งของเมืองได้เป็นอย่างดี เพราะทำให้การหุงข้าวเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากตัวหม้อที่ใช้งานได้ง่ายเพียงแค่กดปุ่มเดียวเท่านั้น โดยมีความจุขนาด 1.8 ลิตร เคลือบด้านในหม้อด้วยอลูมิเนียมอย่างดีเพื่อป้องกันข้าวติดหม้อ นอกจากนี้ยังมีการใช้วัสดุที่แข็งแรงทนทาน ต่อการใช้งาน และกระจายความร้อนได้อย่างทั่วถึงอีกด้วย
นอกจากนี้ยังเป็นรุ่นที่สามารถหุงข้าวได้หลากหลายประเภท ทั้งข้าวหอมมะลิ ข้าวเหนียว และข้าวประเภทอื่นๆก็สามารถใช้หุงได้ สายไฟมีความยาว 1.2 เมตร น้ำหนักของตัวหม้อหุง 2.8 กิโลกรัม มีหูจับทั้งสองฝั่งเพื่อให้เคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวกสบาย ตัวฝาหม้อเป็นแบบแก้วใส ที่มาพร้อมกับรูระบายไอน้ำ สามารถมองเห็นภายในได้อย่างชัดเจน
9. SANDE 10 liters
หม้อหุงข้าวขนาดใหญ่โรงแรมเชิงพาณิชย์ดีที่สุด
- ใช้งานได้หลากหลายทั้ง หุงข้าว นึ่งและต้ม
- กระจายความร้อนได้อย่างทั่วถึง
- ควบคุมได้ผ่านปุ่มเดียว
- ผ่านการเคลือบสารต่างๆมาเป็นอย่างดี
- ไม่สามารถตั้งค่าอย่างละเอียดได้
หม้อหุงข้าวขนาดใหญ่ที่ใช้งานสำหรับเชิงพาณิชย์ที่ดีที่สุดเราขอแนะนำหม้อของแบรนด์ Sande เป็นหม้อที่มีความจุ 10 ลิตร มาพร้อมกับความหนาแบบพิเศษ ใช้งานได้ทั้งหุงข้าว นึ่ง และต้มได้อีกด้วย ใช้งานได้ไม่ยาก ควบคุมผ่านแค่ปุ่มเดียวเท่านั้น เป็นการควบคุมอุณหภูมิแบบอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องตั้งค่าอะไรเพิ่มเติม ด้านในของตัวหม้อถูกเคลือบด้วยสารอลูมิเนียมที่ไม่ทำให้ข้าวติดหม้อ
ใช้วัสดุคุณภาพสูงในการใช้งาน มีความหนา ทนทาน ระบบกระจายความร้อนทำงานได้ทั่วถึงพื้นที่ ได้ความที่หุงสุกทุกเมล็ดอย่างแน่นอน ผ่านการเคลือบมาทั้งหมด 5 ชั้น มีทั้งเซรามิก เหล็ก ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าสามารถล็อกความร้อนได้เป็นอย่างดีแน่นอน ใช้งาน 2 ฟังก์ชั่นได้พร้อมๆกันทั้งหุงและนึ่ง สะดวกสบาย ประหยัดเวลาได้เป็นอย่างดี มาพร้อมกับด้ามจับแบบกันความร้อนที่เคลื่อนย้ายได้ง่ายดาย
คู่มือการซื้อ หม้อหุงข้าว
ประเภทของหม้อหุงข้าว
ไมโครคอมพิวเตอร์
สำหรับหม้อที่ใช้งานระบบไมโครคอมพิวเตอร์จะเป็นรุ่นที่มีราคาไม่แพง โดยระบบภายในจะไม่ซับซ้อน จะเป็นการกระจายความร้อนจากด้านล่างของตัวเครื่อง มาพร้อมกับความเรียบง่าย อีกทั้งยังใช้งานได้ไม่ยาก ที่สำคัญยังหุงข้าวได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้ระยะเวลาไม่นานอีกด้วย
แต่สำหรับจุดด้อยของระบบนี้ก็คือใช้งานได้แค่หุงข้าวเท่านั้น ไม่สามารถใช้สำหรับทำอย่างอื่นได้ และการที่มีการกระจายความร้อนได้ไม่ทั่วถึง กระจายความร้อนแค่จากมุมล่างของตัวเครื่อง ก็ทำให้ข้าวในแต่ละจุดสุกไม่เสมอกัน
วิธีเลือกซื้อหม้อหุงข้าว
ความจุ
สำหรับความจุของหม้อถ้าจะเลือกก็ต้องดูก่อนว่าจำนวนของคนที่รับประทานข้าวในบ้านมีทั้งหมดกี่คน เนื่องจากจะมีหม้อหลากหลายขนาด โดยมีตั้งแต่ขนาด 1 ลิตร ซึ่งเหมาะกับการอยู่คนเดียวและเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กแค่จำนวน 1- 3 คนเท่านั้น แต่สำหรับครอบครัวที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาประมาณ 4 – 5 คน ความจุของหม้อควรจะมีขนาด 1.5 – 1.8 ลิตรขึ้นไป และถ้าหากมีจำนวนมากกว่านั้นก็ควรจะมีความจุที่มากกว่า 2 ลิตร ซึ่งเป็นความจุขนาดใหญ่
ดังนั้นก่อนที่จะเลือกซื้อหม้อเรื่องความจุจึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะว่าจะทำให้สามารถหุงของออกมาได้ตอบโจทย์กับจำนวนคนที่มี เพียงพอต่อความต้องการอีกด้วย แต่ก็ไม่ควรเลือกความจุที่ขนาดใหญ่จนเกินไป เพราะว่าจะมีกำลังไฟที่ต้องใช้งานมากยิ่งขึ้นและมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นความจุที่เหมาะสมที่สุดก็คือความจุที่เพียงพอต่อการหุงข้าวได้ในปริมาณที่ต้องการนั้นเอง
ฟังก์ชั่น
การเลือกซื้อหม้อสำหรับหุงข้าว เรื่องของฟังก์ชั่นก็เป็นสิ่งที่สำคัญ โดยควรเลือกซื้อหม้อที่มีฟังก์ชั่นสำหรับการใช้งานได้อย่างหลากหลาย ให้ตอบโจทย์กับการใช้งานได้มากที่สุด ซึ่งเราก็ได้รวบรวมฟังก์ชั่นต่างๆของหม้อมาฝาก จะได้ตัดสินใจได้ง่ายกว่าเดิม ว่าฟังก์ชั่นไหนที่ควรจะมีหรือไม่ต้องมีสำหรับหม้อที่ทุกท่านต้องการใช้งาน
ใช้งานง่ายและทำความสะอาด
เรื่องของการทำความสะอาดได้ง่ายก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะว่าการใช้หุงข้าวซึ่งต้องกินในทุกๆมื้ออาหาร ก็ควรจะมีเรื่องของความสะอาดเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นต้องเป็นหม้อที่มีชิ้นส่วนไม่เยอะ ถอดออกมาทำความสะอาดได้ง่าย ดูแลรักษาได้ง่าย ถ้าจะเลือกต้องเลือกหม้อแบบนี้จะคุ้มค่ามากกว่า ไม่งั้นอาจจะต้องใช้เวลาในการถอดออกมาทำความสะอาดที่นาน จนสุดท้ายก็เสียเวลาในการทำอย่างอื่น
ที่สำคัญในเรื่องของการใช้งานต้องไม่ซับซ้อนจนเกินไป ใช้งานได้ง่าย แต่ก็ควรมีเมนูที่ชัดเจน กดตั้งค่าได้ไม่ยากอีกด้วย เพราะว่าการหุงข้าวเป็นสิ่งที่ต้องทำในทุกๆวัน ถ้าหากใช้งานได้ยาก ก็คงไม่มีคนอยากหยิบออกมาใช้งานอย่างแน่นอน
ตัวเลือกเวลาทำอาหาร
ตัวเลือกต่างๆที่ใช้ในการทำอาหารได้ อย่างโปรแกรมทางลัดที่กดใช้งานเพื่อทำอาหารเมนูต่างๆ ก็ช่วยทำให้งานครัวทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น อยากที่จะปรุงอาหารเมนูอะไรก็สามารถทำได้ไม่ยากอีกด้วย ดังนั้นสำหรับใครที่ไม่ยากได้ฟังก์ชั่นของเครื่องแค่การหุงข้าวเพียงอย่างเดียว การเลือกหม้อที่มีฟังก์ชั่นในการทำงานได้อย่างหลากหลาย ก็นับว่าเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจ และไม่ควรที่จะมองข้ามเลย เพราะว่าจะใช้งานได้อย่างคุ้มค่าเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
วัสดุของหม้อ
เรื่องของวัสดุ เป็นหนึ่งในเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเลย เพราะการเลือกซื้อหม้อ การใช้วัสดุที่นำความร้อนได้สูงก็ยิ่งช่วยทำให้ข้าวสุกไวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ยิ่งถ้าหากมีการเคลือบสารต่างๆเข้ามาเพิ่มเติม ก็ยิ่งทำให้การใช้งานสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น สารเคลือบที่ไม่ทำให้ข้าวติดหม้อ
อีกทั้งเรื่องของวัสดุจะทำให้สามารถใช้งานได้อย่างคงทน มีระยะเวลาในการใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนหม้อบ่อยๆอีกด้วย ถ้าหากจะซื้อทั้งที ก็ควรเลือกซื้อหม้อที่มีวัสดุแข็งแรงทนทานไปเลย
การรับประกัน
บางท่านอาจยังไม่รู้ว่าการรับประกันก็เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะสร้างความไว้วางใจได้เป็นอย่างดี ถ้าหากซื้อหม้อที่มีการรับประกันก็ทำให้มั่นใจได้ว่าสินค้าต้องมีคุณภาพสูงอย่างแน่นอน อีกทั้งตอนเกิดปัญหาก็จะได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วอีกด้วย แต่สำหรับบางแบรนด์จะมีการรับประกันในชิ้นส่วนต่างๆที่ให้ระยะเวลาแตกต่างกันออกไป
ดังนั้นควรที่จะตรวจสอบให้ดี และเก็บใบรับประกันไว้ดีๆอีกด้วย เพื่อให้สามารถใช้สิทธิกันได้ตามระยะเวลาที่ครอบคลุม นอกจากนี้บางแบรนด์ก็จะมีศูนย์บริการให้สามารถติดต่อขอคำปรึกษา หรือจองคิวก่อนที่จะนำเครื่องเข้าไปซ่อมกันได้ เพื่อความรวดเร็วในการให้บริการ จึงบอกได้เลยว่าถ้าหากจะเลือกซื้อทั้งที ถ้าการรับประกันมีระยะเวลานาน แม้ว่าจะมั่นใจว่าไม่เกิดปัญหาแน่นอน แต่ถ้ามีประกันอยู่ก็จะทำให้ใช้งานได้อย่างสบายใจมากยิ่งขึ้น ถ้าจะเลือกซื้อก็ซื้อหม้อที่มีประกันดีกว่า
ราคาหม้อหุงข้าว
ก่อนที่จะคิดว่าจะเลือกซื้อหม้อหุงข้าวยี่ห้อไหนดีหนึ่งในประเด็นหลักที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ เรื่องของราคาหม้อ ซึ่งต้องเลือกให้เข้ากับงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ แต่ก็ควรจะครอบคลุมคุณสมบัติต่างๆที่ต้องการอีกด้วย และสำหรับการใช้งานในการหุงข้าว ควรจะเลือกหม้อที่มีราคาหลักพันต้นๆ ซึ่งจะได้ทั้งคูรภาพที่ดี กระจายความร้อนได้อย่างทั่วถึง อีกทั้งยังได้ฟังก์ชั่นในการใช้งานที่หลากหลายอีกด้วย การลงทุนซื้อหม้อสำหรับหุงข้าวจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน เพราะใช้งานได้ในทุกๆวัน อีกทั้งยังมีความทนทานอีกด้วย
คำถามและคำตอบ
คุณสามารถทำอะไรได้อีกในหม้อหุงข้าว?
ในปัจจุบันนอกจากการใช้หม้อสำหรับหุงข้าวได้แล้ว ยังใช้งานสำหรับอุ่น หุง ต้ม นึง และปรุงอาหารได้อีกด้วย เนื่องจากมีเทคโนโลยีที่พัฒนาไปไกลมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังมีโปรแกรมสำหรับการทำเมนูต่างๆที่สามารถกดใช้งานได้ง่าย แค่เพียงกดปุ่มเลือกเมนูที่ต้องการเท่านั้น เรียกได้ว่าหม้อสำหรับหุงข้าวในตอนนี้ จะไม่ได้มีไว้ใช้งานแค่หุงข้าวเท่านั้นอีกต่อไป จะเมนูไหนก็ทำได้เกือบทั้งหมด
ทำความสะอาดหม้อหุงข้าวอย่างไร?
การทำความสะอาดหม้อหุงข้าวทำได้ไม่ยาก โดยให้ถอดหม้อด้านในออกมาเพื่อล้างทำความสะอาด ซึ่งทำได้ทั้งแบบที่เอาไปแช่ในน้ำอุ่น หรือล้างด้วยการใช้น้ำยาล้างจานก็ได้ทั้งนั้น หลังจากนั้นก็ให้เช็ดทำความสดอาดให้แห้ง นอกจากนี้ต้องอย่าลืมที่จะนำฝาหม้อด้านบนมาล้างทำความสะอาดด้วย แต่สำหรับบางรุ่นอาจจะถอดฝาหม้อออกมาไม่ได้ แต่ก็สามารถที่จะใช้น้ำสะอาดเช็ดทำความสะอาด และทำให้แห้งได้เช่นเดียวกัน