รีวิว 10 อันดับ แท็บเล็ต Android ยี่ห้อไหนดี ปี 2024

สำหรับเรื่องของความสวยความงามสำหรับสาว ๆ ไม่ใช่แค่การบำรุงผิวหน้าเท่านั้น แต่การบำรุงเส้นผมก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ดังนั้นจึงต้องเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่จะช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผมแห้งเสีย ผมชี้ฟู ซึ่งสามารถแก้ได้ด้วยการใช้ แท็บเล็ตราคาไม่เกิน5000 เพื่อให้ผมเหยียดตรง หรือว่า เทคโนโลยี ที่จะช่วยบำรุงเส้นผมให้ดูเงางาม แต่สำหรับสาว ๆ ที่อยากเริ่มบำรุงผมอย่างจริงจังการเลือกใช้เคราตินก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด ดังนั้นเราจึงได้รวบรวม 5 อันดับ เคราตินผมที่ดีที่สุด มาฝากทุกคนจะมีอะไรบ้างลองไปดูกันได้เลย

10 อันดับ แท็บเล็ต Android

  • 1. ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุดSamsung Galaxy Tab A8  Lazada/Shopee
  • 2. งบประมาณที่ดีที่สุดSamsung Galaxy Tab A7 Lite Lazada/Shopee
  • 3. ระดับพรีเมียมที่ดีที่สุด: Samsung Galaxy Tab S8 Lazada/Shopee
  • 4. น้ำหนักเบาที่ดีที่สุด: realme Pad mini Lazada/Shopee
  • 5. ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับApple IPAD: Samsung Tab S6 Lite Lazada/Shopee
  • 6. หน้าจอขนาดใหญ่ที่ดีที่สุด: Samsung Galaxy Tab S7 FE Lazada/Shopee
  • 7.เด็กที่ดีที่สุด: HUAWEI MatePad T8 Kids Edition Lazada/Shopee
  • 8. ดีที่สุดพร้อมสไตลัส: Lenovo TAB P11 Plus Lazada/Shopee
  • 9. ดีที่สุดสำหรับการสตรีม: Xiaomi Mi Pad 5 Lazada/Shopee
  • 10. ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้Amazon Prime:Amazon Fire HD Lazada/Shopee

10 แท็บเล็ต Android ที่ดีที่สุดที่คุณสามารถซื้อได้ตอนนี้ 2024

1. Samsung Galaxy Tab A8 LTE 4/64 GB

แท็บเล็ต Android ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • Samsung Galaxy Tab A8 LTE 4/64 GB (Model 2022)
  • การออกแบบที่ประณีตด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น 10.5″
  • เสียงระดับภาพยนตร์พร้อมลำโพง Quad โดย DolbyAtmos
  • พร้อมเรียนออนไลน์กับการบันทึกหน้าจอ
  • Immersive display
ข้อเสีย

แท็บเล็ตที่ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพดีที่สุดสำหรับการทำงานต้องยกให้กับแท็บเล็ตของแบรนด์ Samsung รุ่น Galaxy Tab A8 ตัวนี้มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 10.5 นิ้ว ให้ใช้งานกันได้อย่างเต็มที่ โดยใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 662 มาพร้อมกับ ROM 64 GB และ RAM 3GB ประมวลผลการทำงานได้อย่างไหลลื่น ที่สำคัญเป็นรุ่นที่แบตเตอรี่อึดเป็นอย่างมาก มีแบตเตอรี่ขนาด 7,040 mAh รองรับ Fast Charging 15W

ในเรื่องของความบันเทิงก็ถูกใส่มาอย่างจัดเต็ม เพราะว่าเป็นรุ่นที่ให้ลำโพงแบบ 4 ทิศทางและใช้งานระบบเสียง Dolby Atmos ที่สำคัญมาพร้อมกับกล้องทั้งหมด 2 ตัวที่มีความละเอียดสูงสุดถึง 8 MP เลยทีเดียว การออกแบบทำออกมาได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะมาพร้อมกับสไตล์ที่ดูเรียบแต่แฝงไปด้วยความทันสมัยเป็นอย่างมาก น้ำหนักตัวเครื่องแค่เพียง 476 กรัมเท่านั้น มาพร้อมกับความบางแค่เพียง 7 มิลลิเมตร มีโหมดต่างๆให้เลือกใช้งานกันได้อย่างหลากหลายตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครอบคลุม 

2. Samsung Galaxy – Tab A7 Lite

แท็บเล็ต Android งบประมาณที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • แบตเตอรี่ความจุขนาด 5,100 mAh 
  • ขนาด 8.7 นิ้ว
  • ชิปเซ็ต MediaTek Helio P22T
  • มีโหมดสำหรับการใช้งานมือเดียว
  • ตัวเครื่องน้ำหนักเบาพกพาง่าย
ข้อเสีย
  • ให้ ROM มาน้อยเกินไป

ถ้าหากกำลังมองหาแท็บเล็ต Android ที่มาพร้อมกับราคาย่อมเยาว์อยู่ในประเภทงบประมาณดีที่สุดต้องยกให้กับแท็บเล็ตของแบรนด์ Samsung รุ่น Galaxy Tab A7 Lite เป็นรุ่นที่ราคาไม่แพงแต่คุณสมบัติต่างๆใส่มาให้อย่างครบเครื่องเลยทีเดียว โดยมีขนาดจอ 8.7 นิ้ว ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio P22T มาพร้อมกับ ROM 32 GB และ RAM 3 GB แบตเตอรี่มีความจุขนาด 5,100 mAh ที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน

เป็นรุ่นที่ใช้งานได้ผ่าน WiFi แถมยังรองรับการชาร์จไว 15w การออกแบบดูทันสมัย พกพาได้สะดวกสบาย อีกทั้งยังสามารถใช้งานมือเดียวได้ ตัวเครื่องมีน้ำหนัก 371 กรัม ความหนา 8 มิลลิเมตร มาพร้อมกับโหมดที่อำนวยความสะดวกต่อการใช้งาน ซึ่งมีทั้งฟีเจอร์ Quick Tools และฟีเจอร์ Gestures ใส่กล้องมาให้ทั้งหมด 2 ตัว กล้องหลังมีความละเอียด 8 MP กล้องหน้ามีความละเอียด 2 MP ระบบเสียงเป็นของ Dolby Atmos ซึ่งจะสร้างความบันเทิงให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี 

3. Samsung Galaxy Tab S8 Ultra

ระดับพรีเมียมที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • หน้าจอขนาด 11 นิ้ว
  • ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1
  • รองรับการใช้งาน Dex
  • ใช้งานคู่กับ S Pen ได้
ข้อเสีย
  • น้ำหนักตัวเครื่องค่อนข้างเยอะ

Samsung Galaxy Tab S8 เป็นแท็บเล็ต Android ที่มีการออกแบบให้ดูหรูหรา อีกทั้งยังใส่คุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ในระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับสูง มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 11 นิ้ว รองรับการใช้งาน 5G แบตเตอรี่ขนาด 8,000 mAh น้ำหนัก 507 กรัม รองรับการชาร์จไว 45W มีการใส่เรื่องของระบบความปลอดภัยด้วยการสแกนนิ้วมือเพื่อเข้าใช้งาน กล้องหน้าเป็นแบบ Ultra-Wide ที่มีความละเอียดมากถึง 12 ล้านพิกเซล และกล้องหลังที่มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล

เป็นรุ่นที่มีปากกา S Pen ที่จะช่วยให้การใช้งานได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะใช้สำหรับงานเขียน งานพิมพ์ งานวาดหรือจะเป็นการรับชมความบันเทิงก็ทำได้ทั้งนั้น มาพร้อมกับลำโพงทั้งหมด 4 ตัว ตัวเครื่องพกพาได้ง่ายมีความหนาแค่เพียง 6.8 มิลลิเมตร ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen1 RAM 8 GB ROM 128 GB จัดเก็บข้อมูลได้จำนวนมาก ใช้งานได้อย่างไหลลื่น ที่สำคัญยังรองรับการใช้งาน DeX ได้อีกด้วย

4. realme Pad mini

แท็บเล็ต Android น้ำหนักเบาที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • จอแสดงผล (Display) แท็บเล็ต
  • จอแสดงผล IPS-LCD 24-bit (16 ล้านสี)
  • กว้าง 8.7 นิ้ว (แนวทะแยง) – ความละเอียด 800 x 1340 พิกเซล (179 ppi) วัสดุตัวเครื่อง (Body)
  • หน้าจอกระจก กรอบพลาสติก
  • มีสีให้เลือก (Colors) : blue, gray
  • เครือข่าย (Network)
  • ใช้งาน Nano-SIM โทรได้
  • เทคโนโลยีรับ/ส่งข้อมูล 3G , 4G
ข้อเสีย

สำหรับแท็บเล็ตน้ำหนักเบาที่ดีที่สุดของ Android ต้องยกให้กับ Realme Pad ซึ่งมาพร้อมกับน้ำหนักแค่เพียง 440 กรัมเท่านั้น ตัวเครื่องบางแค่เพียง 6.9 มิลลิเมตร โดยมีขนาดจอ 10.4 นิ้ว พกพาได้อย่างสะดวกสบาย โดยมาพร้อมกับหน้าจอแบบ LCD ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G80 แบตเตอรี่ความจุขนาด 7,100 mAh อีกทั้งยังเป็นรุ่นที่รองรับการชาร์จไวแบบ 18W ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ Ram 3 GB และ ROM 32 GB 

กล้องหน้าและกล้องหลังจะมีความละเอียดที่เท่ากันอยู่ที่ 8MP รองรับการเชื่อมต่อผ่าน WiFI4 และ WiFI5 เรื่องของความบันเทิงก็จัดเต็มด้วยลำโพงทั้งหมด 4 ตัว และใช้ระบบเสียงแบบ Dolby Atmos การออกแบบตัวเครื่องทำออกมาเป็นอย่างดี จอแสดงผลมีสีสันส มีพื้นที่หน้าจอทั้งหมด 82.5% ที่สำคัญยังมีโหมดต่างๆมาให้เลือกใช้งานกันได้อีกเพียบ อาทิเช่น โหมดกลางคืนและโหมดถนอมสายตา ตัวเครื่องทำจากวัสดุที่แข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน มีพอร์ตชาร์จแบบ USB C และช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร 

5. Samsung Galaxy – Tab S6 Lite

แท็บเล็ต Android ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ Apple IPAD

ข้อดี
  • หน้าจอขนาด 10.4 นิ้ว
  • รองรับการใช้งานปากกา S PEN
  • น้ำหนักตัวเครื่อง 467 กรัม 
  • ชิปเซ็ต Exynos 9611 
  • แบตเตอรี่ขนาด 7,040 mAh รองรับชาร์จไว 15W
ข้อเสีย
  • ไม่มีให้สแกนลายนิ้วมือ 

แท็บเล็ตของแบรนด์ Samsung รุ่น Galaxy Tab S6 Lite เป็นรุ่นที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 10.4 นิ้ว รองรับการใช้งานคู่กับ S PEN โดยมี ROM 64 GB และ RAM 4 GB น้ำหนักตัวเครื่อง 467 กรัม มาพร้อมกับความบางเบา การออกแบบดูทันสมัยพกพาได้อย่างสะดวกสบาย หน้าจอเป็นแบบ IPS ที่ให้สีสันคมชัดเป็นอย่างมาก ชิปเซ็ต Exynos 9611 ระบบปฏิบัติการ ONE UI 2.1 แบตเตอรี่ความจุขนาด 7,040 mAh รองรับการชาร์จไว 15W สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน

ที่สำคัญยังมี Bixby Home ที่จะช่วยให้การใช้งานสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แถมยังมาพร้อมกับ Dark Mode ซึ่งถนอมสายตาได้เป็นอย่างดี ระบบความปลอดภัยในการเข้าใช้งานจะเป็นการสแกนใบหน้า สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายทั้งจด เขียน วาด พิมพ์ และรับชมความบันเทิงต่างๆ ระบบเสียงของ AKG ที่มีความคมชัด มาพร้อมกับลำโพงคู่ กล้องหน้ามีความละเอียด 5 MP และกล้องหลัง 8 MP 

6. Samsung Galaxy – Tab S7 FE

แท็บเล็ต Android หน้าจอขนาดใหญ่ที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • หน้าจอขนาด 12.4 นิ้ว
  • ชิปเซ็ต Snapdragon 778G
  • แบตเตอรี่ 10,900 mAh ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
  • รองรับการชาร์จไว 45W
  • รองรับการใช้งานปากกา S PEN
ข้อเสีย
  • ถ้าหากใช้งานหนักเครื่องจะมีอาการหน่วง

สำหรับแท็บเล็ตของแบรนด์ Samsung รุ่น Galaxy Tab S7 FE เป็นรุ่นที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ที่ดีที่สุด โดยมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 12.4 นิ้ว น้ำหนักตัวเครื่อง 607 กรัม หน้าจอเป็นแบบ PLS LCD ให้ความละเอียดคมชัด สีสันสดใส อีกทั้งยังมาพร้อมกับกล้องทั้งหมด 2 ตัว ที่มีความละเอียดสูงสุด 8 MP ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 778G รองรับการเชื่อมต่อผ่าน WiFi RAM 4GB ROM 64 GB และสามารถใช้งานร่วมกับปากกา S PEN 

ที่สำคัญยังเป็นแท็บเล็ตที่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน เนื่องจากให้แบตเตอรี่ความจุ 10,900 mAh รองรับการชาร์จเร็วได้สูงสุด 45W ที่สำคัญยังเป็นรุ่นที่สามารถเชื่อมต่อกับคีย์บอร์ดและเม้าส์ได้อีกด้วย มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆอีกมากมายที่ช่วยให้การใช้งานสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น การออกกแบบตัวเครื่องดูทันสมัย ขอบจอบางเฉียบมาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูหรูหรา Refresh Rate อยู่ที่ 60Hz ใช้งานได้อย่างไหลลื่น

7. HUAWEI MatePad T8 Kids Edition

แท็บเล็ต Android เด็กที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • หน้าจอขนาด 8 นิ้ว
  • มีฟีเจอร์ Kid Corner 
  • น้ำหนักตัวเครื่องแค่เพียง 310 กรัม 
  • รองรับการใช้งานปากกาที่ใช้หัวแบบ Capacitive
  • แบตเตอรี่ความจุ 5,100 mAH
ข้อเสีย
  • ไม่มีระบบสแกนนิ้วมือต้องใส่รหัสเพื่อปลดล็อกทุกรอบ

สำหรับแท็บเล็ต Android ของแบรนด์ HUAWEI รุ่น MatePad T8 Kids Edition เป็นรุ่นที่มีการออกแบบมาเป็นอย่างดีเพื่อรองรับการใช้งานสำหรับเด็ก โดยจะมีเนื้อหาที่ช่วยเสริมพัฒนาการ อีกทั้งยังมีโหมดถนอมสายตา โหมดการควบคุมโดยผู้ปกครองที่สามารถตั้งค่าเวลาในการใช้งานได้ รองรับการแสดงผลสีได้มากถึง 16.7 ล้านสี เป็นรุ่นที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 8 นิ้ว น้ำหนักเบาแค่เพียง 310 กรัมเท่านั้น พกพาและถือได้อย่างสะดวกสบาย

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับชิปเซ็ต MediaTek Helio P22T ROM 16GB และ RAM 2GB มาให้อีกด้วย แบตเตอรี่มีความจุ 5100 mAh เป็นรุ่นที่มีซอฟแวร์ที่มีความอัจฉริยะซึ่งจะมาการติดตั้ง Kid Corner มาโดยเฉพาะทำให้สามารถล็อกการใช้งานสำหรับเด็กได้ ที่สำคัญยังสามารถใช้งานร่วมกับปากกาสไตลัสได้อีกด้วย โดยเป็นหัวแบบ Capacitive มั่นใจได้เลยว่าจะไม่เป็นอันตรายต่อเด็กอย่างแน่นอน 

8. Lenovo – TAB P11 Plus

แท็บเล็ต Android ที่ดีที่สุดพร้อมสไตลัส

ข้อดี
  • หน้าจอขนาด 11 นิ้ว
  • ชิปเซ็ต MediaTek Helio G90T
  • น้ำหนัก 490 กรัม 
  • รองรับการใช้งานปากกาและแป้นพิมพ์
  • แบตเตอรี่ขนาด 7,700 mAH 
ข้อเสีย
  • ตัวเครื่องร้อนค่อนข้างง่าย 

Lenovo TAB P11 Plus เป็นแท็บเล็ตที่มาพร้อมกับปากกาสไตลัสที่ดีที่สุด โดยเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับชิปเซ็ต MediaTek Helio G90T หน้าจอขนาด 11 นิ้ว จอแสดงผล TDDI IPS ให้ความคมชัดระดับ HD ซึ่งมาพร้อมกับความละเอียด 2K RAM 4 GB ROM 128 GB ตัวเครื่องหนัก 490 กรัม หนา 7.5 มิลลิเมตร ใช้วัสดุที่แข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน รองรับการใช้งานร่วมกับแป้นพิมพ์และปากกา Lenovo Precision Pen2 

ที่สำคัญยังมีอัตราของพื้นที่ต่อตัวเครื่องมากถึง 85% เลยทีเดียว สามารถปรับค่าความสว่างได้มากถึง 400 นิต ยิ่งไปกว่านั้นยังมีลำโพงทั้งหมด 4 ตัว รองรับระบบเสียงแบบ Dolby Atmos ที่สร้างความบันเทิงได้เป็นอย่างดี กระจายเสียงได้รอบทิศทาง กล้องหลังความละเอียด 13 MP กล้องหน้าความละเอียด 8 MP แบตเตอรี่ขนาด 7,700 mAH รองรับการชาร์จไว 20W สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน

9. Xiaomi – Mi Pad 5

แท็บเล็ต Android ที่ดีที่สุดสำหรับการสตรีม

ข้อดี
  • หน้าจอขนาด 11 นิ้ว 
  • รองรับการใช้งานปากกา Xiaomi Smart Pen
  • แบตเตอรี่ 8,720 mAh ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน 
  • หน้าจอคมชัดรองรับ Dolby Vision 
  • ใช้งานได้ไหลลื่นด้วยรีเฟรชเรท 120Hz
ข้อเสีย
  • ไม่มีระบบสแกนนิ้วมือ

แท็บเล็ต Android ของแบรนด์ Xiaomi รุ่น Mi Pad 5 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 11 นิ้ว เหมาะสำหรับการใช้งานสตรีมเป็นอย่างมาก เพราะมาพร้อมกับอัตรารีเฟรชเรท 120 Hz และเลือกใช้ชิปเซ็ตของ Snapdragon 860 ซีพียู Qualcomm แบตเตอรี่ขนาด 8,720 mAh รองรับชาร์จไว 33W RAM 6 GB ROM 128GB ระบบเสียงใช้ลำโพงทั้งหมด 4 ตัว เป็นระบบเสียงแบบ Dolby Atmos

นอกจากนี้ยังพกพาได้อย่างสะดวกสบายตัวเครื่องน้ำหนัก 511 กรัม ทำจากวัสดุที่แข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน กล้องหน้าความละเอียด 8 MP กล้องหลังความละเอียด 13 MP หน้าจอมีความละเอียดคมชัดระดับ 2.5K จอแสดงผลแบบ Dolby Vision ซึ่งให้ภาพที่ดูสวยงาม ความละเอียดคมชัดและดูสมจริงเป็นอย่างมาก ที่สำคัญยังสามารถใช้งานคู่กับ Xiaomi Smart Pen ซึ่งรองรับแรงกดได้มากถึง 4,096 ระดับ ใช้งานได้อย่างหลากหลายทั้งวาด เขียน พิมพ์ และรับชมความบันเทิง

10. Amazon- Fire HD

แท็บเล็ต Android ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ Amazon Prime

ข้อดี
  • หน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว 
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 12 ชั่วโมง 
  • ตัวเครื่องหนัก 465 กรัม 
  • หน้าจอคมชัดรองรับ Dolby Vision 
  • ระบบเสียง Dolby Atmos 
  • ความละเอียดหน้าจอ 1080p Full HD
ข้อเสีย
  • ไม่สามารถใช้งานแอพพลิเคชั่น Google ได้

แท็บเล็ตของแบรนด์ Amazon Fire HD 10 เป็นรุ่นที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งาน Amazon Prime โดยมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว ซีพียู Octa core 2.0 GHz แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 12 ชั่วโมง ROM มีให้เลือกทั้งหมด 2 ความจุ คือ 32 GB และ 64 GB Ram 3 GB หน้าจอรองรับความละเอียด 1080p Full HD มาพร้อมกับลำโพงสเตอริโอคู่ที่รองรับระบบเสียง Dolby Atmos ตัวเครื่องทำจากวัสดุคุณภาพดีแข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน 

ที่สำคัญยังมาพร้อมกับโหมดการใช้งานสำหรับเด็ก ที่ช่วยล็อกการเข้าถึงโปรแกรมบางอย่างได้อีกด้วย มาพร้อมกับ Alexa ซึ่งเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่สามารถสั่งงานต่างๆได้ผ่านเสียง ตัวเครื่องหนัก 465 กรัม น้ำหนักเบาพกพาได้อย่างสะดวกสบาย มีให้เลือกได้ทั้งหมด 4 สี คือ สี Olive , สี Black , สี Demin และ สี Lavender

คู่มือการซื้อ แท็บเล็ต Android

คู่มือการซื้อ แท็บเล็ต Android

วิธีเลือกแท็บเล็ต Android ที่เหมาะกับคุณ

ก่อนที่จะเลือกซื้อจะหา แท็บเล็ต Android ที่ดีที่สุด จะต้องรู้ก่อนว่าที่ดีที่สุดในความหมายนี้จะต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง ซึ่งหลักๆก็คือต้องเป็นแท็บเล็ตที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานในเรื่องต่างๆได้อย่างครอบคลุม ทั้งสำหรับการใช้งานทั่วไป ใช้งานสำหรับการทำงาน การจดบันทึก การวาดเขียน และความบันเทิง โดยแต่ละคนก็จะมีเป้าหมายในการซื้อแท็บเล็ตมาใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ในปปัจจุบันก็มีแท็บเล็ตให้เลือกซื้อมาใช้งานได้หลากหลายแบรนด์และมีการผลิตออกมาหลายรุ่นเลยทีเดียว 

ดังนั้นการจะเลือกซื้อแท็บเล็ต Android ให้เหมาะสมมากที่สุดก็ต้องเริ่มจากการดูก่อนว่าสิ่งที่ต้องการคืออะไร จะได้สามารถเลือกได้ครอบคลุมกับเรื่องที่ต้องการมากที่สุด เพราะสำหรับแท็บเล็ตของบางตระกูลก็ไม่ได้เหมาะสักเท่าไหร่ อาทิเช่น การใช้งานกับเด็กก็ต้องเลือกแท็บเล็ตที่มีโหมดของเด็กโดยเฉพาะ หรือว่าแท็บเล็ตสำหรับการทำงานเอกสารก็ต้องเป็นรุ่นที่รองรับการเชื่อมต่อกับแป้นพิมพ์ได้ เนื่องจากจะสร้างความสะดวกสบายในการใช้งานให้มากยิ่งขึ้น 

คุณต้องการให้แท็บเล็ตทำอย่างไร

การใช้งานต้องการความเบาหรือใช้งานได้หลากหลาย

เรื่องการใช้งานจะต้องดูว่าแต่ละคนใช้งานเพื่อจุดประสงค์อะไร โดยถ้าหากใช้สำหรับการเขียน การวาดรูปและพกพาไปใช้จดสิ่งต่างๆควรจะเน้นเลือกซื้อแท็บเล็ตที่มีน้ำหนักเบา แต่ถ้าหากต้องการให้สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายก็จะมีน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะแลกมาด้วยฟีเจอร์ในการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ อาทิเช่น สามารถใช้งานเป็นหน้าจอคอมได้ แค่เพียงเชื่อมต่อกับแป้นพิมพ์ก็ใช้สำหรับการพิมพ์งานเอกสารได้เลยทันที ดังนั้นสำหรับเรื่องการใช้งานจะขึ้นอยู่กับแต่ละคนเป็นหลักว่าใครต้องการซื้อแท็บเล็ตไปใช้งานเพื่อจุดประสงค์อะไร

ขนาดหน้าจอและความละเอียด

การซื้อแท็บเล็ต Android มาใช้งานเรื่องของขนาดหน้าจอก็สำคัญ เพราะว่าในท้องตลาดปัจจุบันก็มีการออกจำหน่ายแท็บเล็ตที่มีหน้าจอหลายขนาดเลยทีเดียว โดยมีขนาดตั้งแต่ 7 นิ้วไปจนถึงขนาด 14 นิ้ว แต่การจะเลือกว่าจะซื้อแท็บเล็ตที่มีหน้าจอขนาดไหนก็ต้องพิจารณาเรื่องของการใช้งาน รวมไปถึงเรื่องของน้ำหนักเพราะยิ่งมีขนาดใหญ่แบตเตอรี่ก็จะมีขนาดใหญ่ตาม และจะแลกมาด้วยน้ำหนักของตัวเครื่องที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ดังนั้นการจะเลือกซื้อเรื่องของขนาดหน้าจอก็สำคัญควรเลือกขนาดหน้าจอที่พอดี ไม่เล็กหรือไม่ใหญ่จนเกินไป 

ความละเอียดของจอก็เป็นสิ่งสำคัญเพราะถ้าหากซื้อมาใช้สำหรับการเล่นเกมเรื่องของความคมชัดก็เป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ถ้าหากใช้สำหรับงานกราฟิกต่างๆ ใช้ในการวาดเขียนหรือว่าตกแต่งรูป การที่หน้าจอมีความละเอียดก็จะทำให้ได้ภาพที่ดูสมจริงมากยิ่งขึ้น 

อายุการใช้งานแบตเตอรี่

เรื่องของอายุการใช้งานแบตเตอรี่ก็เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ เพราะถ้าหากจะใช้สำหรับการพกพาไปทำงานนอกสถานที่การที่จะชาร์จแบตเตอรี่บ่อยๆก็เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ดังนั้นจึงควรเลือกแท็บเล็ตที่มีความจุแบตเตอรี่สูงๆเอาไว้ก่อน แต่ก็ต้องทำความเข้าใจว่าถ้าหากมีความจุที่เยอะสิ่งที่จะตามมาก็คือน้ำหนักที่เพิ่มมากกว่าเดิม นอกจากนี้ก็จะมีขนาดจอที่ใหญ่มากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นการเลือกอายุการใช้งานแบตเตอรี่จึงสัมพันธ์กับขนาดของตัวเครื่องและน้ำหนัก แต่ก็ควรเลือกให้พอดีไม่มากจนเกินไปหรือน้อยจนเกินไป ถ้าหากใครที่เน้นการทำงานในบ้านเป็นหลักก็อาจจะเลือกแบตเตอรี่ที่มีความจุมากกว่า 4,000 mAH เป็นต้นไป แต่ถ้าหากใช้งานนอกบ้านหรือต้องการใช้งานต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนาน อาทิเช่น ใช้งานสำหรับการเล่นเกม ความจุแบตเตอรี่ควรจะมากกว่า 7,000 mAh 

คุณควรซื้อแท็บเล็ต Cellular (LTE) หรือ Wi-Fi?

การใช้งานแท็บเล็ต Android จะมีให้เลือกเชื่อมต่อได้ทั้งหมด 2 รูปแบบก็คือ เชื่อมต่อแบบ Cellular (LTE) ซึ่งก็คือการใส่ซิมโทรศัพท์ และแบบที่เป็น WiFi ซึ่งจะมีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

แท็บเล็ต Cellular (LTE)

  • ข้อดี ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่จำกัดแค่พื้นที่ที่มี WiFi เท่านั้น สามารถใช้งานสำหรับการโทรเข้าโทรออกได้เสมือนเป็นมือถืออีกเครื่องหนึ่ง
  • ข้อเสีย ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมและค่าแท็บเล็ตจะมีราคาแพงกว่ารุ่น WiFi

แท็บเล็ต Wi-Fi

  • ข้อดี ราคาตัวเครื่องถูกกว่ารุ่น Cellular (LTE)
  • ข้อเสีย ใช้งานไม่ได้ถ้าอยู่นอกพื้นที่ที่มีสัญญาณ Wi-Fi

บริการหลังการขาย

แท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีช่วงราคาตั้งแต่ 4,000 เป็นต้นไปซึ่งก็ถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างสูง  ดังนั้นจึงควรตรวจเช็คในเรื่องของบริการหลังการขายด้วยว่าจะมีศูนย์รับประกันที่สามารถติดต่อได้ง่ายหรือไม่ ในกรณีที่ตัวเครื่องอาจจะเกิดปัญหาและต้องนำเข้าไปซ่อม นอกจากนี้ควรตรวจดูว่ามีคอลเซ็นเตอร์ให้ติดต่อสอบถามข้อมูลในกรณีที่เกิดปัญหาหรือไม่ ที่สำคัญต้องสามารถส่งซ่อมและได้รับการบริการที่รวดเร็วไม่ต้องรอนาน มีอุปกรณ์พร้อมที่จะแก้ปัญหาให้ได้ด้วยระยะเวลาที่รวดเร็ว

สเปกของแท็บเล็ต

ในการซื้อแท็บเล็ตมาใช้งานเรื่องของสเปกตัวเครื่องก็เป็นสิ่งที่สำคัญ โดยจะต้องดูก่อนว่าการใช้งานขั้นพื้นฐานมีหรือไม่ ทั้งเรื่องของการดูหนัง การฟังเพลง การใช้งานอินเทอร์เน็ต การใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่งควรเลือกซื้อแท็บเล็ตที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานขั้นพื้นฐานต่างๆได้ หลังจากนั้นให้ดูเรื่องของการใช้งานเฉพาะทางสำหรับการทำงานต่างๆ

ไม่ว่าจะเป็นงานพิมพ์เอกสาร งานเขียน งานวาด งานตกแต่ง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการทำงานของแต่ละท่าน แต่การจะซื้อแท็บเล็ตสักเครื่องก็ควรเลือกซื้อรุ่นที่สามารถตอบโจทย์สายงานของทุกคนได้อย่างครอบคลุม เพื่อที่จะซื้อมาใช้แล้วตอบโจทย์การใช้งานได้มากที่สุด

น้ำหนักของแท็บเล็ต 

สำหรับน้ำหนักของตัวเครื่องแท็บเล็ตก็เป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะว่าถ้าหากต้องการใช้งานสำหรับการพกพาไปในสถานที่ต่างๆก็ควรจะเลือกซื้อแท็บเล็ตที่มีน้ำหนักไม่มากจนเกินไป ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยได้ถ้าหากใช้งานไปนานๆ

นอกจากนี้สิ่งสำคัญก็คือต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ถ้าหากเป็นแท็บเล็ตที่มีความจุแบตเตอรี่เยอะก็จะมาพร้อมกับน้ำหนักที่มากขึ้นตาม ดังนั้นก่อนที่จะซื้อแท็บเล็ตควรที่จะลองไปสัมผัสเครื่องจริงกันก่อนเพื่อทดสอบว่าถือตัวเครื่องไหวกับน้ำหนักของตัวเครื่องหรือไม่ 

ระบบความปลอดภัย

การใช้งานแท็บเล็ตสำหรับการทำงานเอกสาร หรือว่าสำหรับการทำงานในเรื่องอื่นๆเรื่องของระบบความปลอดภัยก็เป็นสิ่งที่สำคัญ โดยควรเลือกซื้อแท็บเล็ตที่มีระบบในการเข้ารหัสเพื่อใช้สำหรับการเข้าถึงข้อมูล อาทิเช่น ระบบสแกนใบหน้า ระบบสแกนนิ้วมือ

ซึ่งจะช่วยให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมสำหรับการใช้งาน นอกจากนี้สิ่งสำคัญก็คือจะต้องเป็นระบบที่มีความสเถียรใช้งานได้ง่าย ปลอดภัยในการจัดเก็บข้อมูลต่างๆทั้งหมด 

Best Android Tablet

คำถามและคำตอบ

แท็บเล็ต Android ควรมีอายุการใช้งานนานเท่าใด?

สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นสายไอทีอย่างแท็บเล็ต ก็จะมีอายุการใช้งานตัวเครื่องที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับวิธีการดูแลรักษา แต่สำหรับแบตเตอรี่ของแท็บเล็ตจะมีอายุการใช้งานไม่เกิน 2 ปีก็ควรที่จะเปลี่ยนใหม่แล้ว
และในส่วนของตัวเครื่องจะขึ้นอยู่กับว่าใช้งานหนักขนาดไหน ซึ่งถ้าหากใช้งานเป็นระยะเวลามากกว่า 3 ปีขึ้นไป ก็จะเริ่มอัพเดทซอฟแวร์ไม่ได้ ดังนั้นจะทำให้แท็บเล็ตที่ใช้งานอยู่มีความล้าสมัยและควรที่จะพิจารณาเรื่องการเปลี่ยนเครื่องใหม่ได้แล้ว 

อะไรคือความแตกต่างระหว่างแท็บเล็ต Android และ iPads?

สำหรับความแตกต่างของแท็บเล็ต Android และ iPads ก็คือเรื่องของระบบปฏิบัติการที่ใช้งาน ซึ่งตัว Android ก็จะใช้ระบบปฏิบัติการของ Android เอง แต่สำหรับ iPads จะเลือกใช้ระบบปฏิบัติ iOS ซึ่งตัว iOS จะมีแอพพลิเคชั่นให้เลือกดาวน์โหลดได้เยอะมากกว่า
ตัว iPads ใช้งานได้ง่ายกว่าและมีเทคโนโลยีใหม่ๆให้ได้ใช้งานเยอะ แต่ปัญหาก็คือเรื่องของราคาที่ค่อนข้างสูง อีกทั้งยังไม่มีบางแอพพลิเคชั่นที่อยู่บนแท็บเล็ต Android อีกทั้งยังไม่สามารถเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้เหมือนแท็บเล็ต Android อีกด้วย 

Photo of author

Tanawat

ธนวัฒน์ชอบแกดเจ็ตและเทคโนโลยี เขาสนุกกับการทดสอบ ทบทวน และเล่นกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อื่นๆ เขาชอบดูการแข่งขันพรีเมียร์ลีก เดินป่า และท่องเที่ยวไปต่างประเทศ