9 มือถือ Vivo รุ่นไหนดี กล้องสวย ปี 2024

ในปัจจุบันมือถือนับว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทุกท่านจะต้องมีติดตัวกันอย่างแน่นอน โดยในบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปเจาะลึกเกี่ยวกับมือถือของแบรนด์ Vivo ว่าสำหรับแบรนด์นี้จะมีรุ่นไหนที่น่าสนใจและ

Vivo รุ่นไหนดี ที่น่าหามาใช้งานกัน ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าแม้ว่าในช่วงนี้จะมีมือถือออกมาจำนวนมากแต่ก็สามารถเลือกสรรได้ตอบที่หลายๆท่านต้องการอีกด้วย โดยในแต่ละรุ่นก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปซึ่งเราได้รวบรวมที่สุดของแต่ละด้านในปี 2022 มาฝากทุกท่านด้วยจะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

9 มือถือ Vivo

1. โดยรวมที่ดีที่สุด: Vivo X90  Lazada/Shopee
2. ราคาไม่เกิน 5,000 บาท: vivo Y02 Lazada/Shopee
3. ราคาไม่เกิน 8,000 บาทvivo Y36 Lazada/Shopee
4. ราคาไม่เกิน 10,000 บาทVivo Y76 Lazada/Shopee
5. สำหรับการถ่ายภาพและวิดีโอ: vivo V25  Lazada/Shopee
6. Vivo ที่บางและเบาที่สุด: Vivo V27 Lazada/Shopee
7. สำหรับความเร็วและประสิทธิภาพ: Vivo X80 Pro Lazada/Shopee
8. ดีที่สุดสำหรับเกมเมอร์: vivo X70 Lazada/Shopee
9. ดีที่สุดสำหรับรูปทรง : Vivo V23 Lazada/Shopee

  • มือถือSamsung น่าซื้อในเดือนนี้
  • โทรศัพท์ OPPO ที่ดีที่สุดที่คุณสามารถซื้อได้ในตอนนี้

รีวิวมือถือ 9 เครื่อง Vivo ที่ดีที่สุดในปี 2024

1. vivo X90 Pro 5G (12GB+256GB)

Vivo ที่ดีที่สุดโดยรวม

ข้อดี
  • ชิปเซ็ตคุณภาพสูง
  • กล้องมีความคมชัด
  • หน้าจอขนาดใหญ่
  • หน้าจอสีสันสดใส
  • รองรับการใช้งาน 5G
ข้อเสีย

สำหรับมือถือของแบรนด์ Vivo รุ่นที่มีคุณสมบัติโดยรวมดีที่สุดจะต้องยกให้กับรุ่น X90 เลยทีเดียว โดยสำหรับตัวนี้จะมีจอขนาด 6.78 นิ้ว มาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 12 GB และ ROM ขนาด 256 GB ซึ่งมาพร้อมกับชิปเซ็ต Mediatek : Dimensity 9000 Octa Core ที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆได้อย่างไหลลื่นเลยทีเดียว โดยเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับความเร็ว 3.05 GHz อีกด้วย มาพร้อมกล่องสีดำสุดหรูหรา ตัวกล่องพิมพ์ลายหนังพร้อมปั๊มชื่อรุ่นเป็นสีทองสัมผัสได้ถึงความพรีเมียมแบบตะโกน ด้านในมาพร้อมกับตัวเครื่องที่ติดฟิล์มกันรอยมาให้เรียบร้อย อุปกรณ์ด้านในมีเข็มจิ้มซิม สาย USB Type C พร้อมหัวชาร์จไว 120W มาให้เรียบร้อย แถมยังมีเคสใสมาให้ด้วยในกล่อง จ่ายทีเดียวจบ ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมแยก

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 4870 mAh ที่ใช้งานได้ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยเลือกใช้จอแบบ AMOLED และความละเอียดแบบ Full HD+ ที่ทำให้ได้สีสันสดใสและหน้าจอคมชัดเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีในการถนอมสายตาด้วยการลดการปล่อยแสงสีฟ้า ส่วนเรื่องของกล้องก็ไม่น้อยหน้ารุ่นอื่นเลยเนื่องจากมีการจับมือกับค่าย ZEISS ที่ช่วยพัฒนากล้องให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมกับกล้องหลักที่มีความละเอียด 50 ล้านพิกเซลและกล้องหน้าที่มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล

2. vivo Y02/Y02A (2GB+32GB)

สุดยอดโทรศัพท์ Vivo ไม่เกิน 5,000 บาท

ข้อดี
  • ชิปเซ็ตคุณภาพสูง
  • กล้องมีความคมชัด
  • หน้าจอขนาดใหญ่
  • หน้าจอสีสันสดใส
  • ชาร์จไว 18W
ข้อเสีย
  • แบตเตอรี่ความจุน้อยกว่ารุ่นอื่น

โทรศัพท์ Vivo ราคาไม่เกิน 5,000 บาทที่ต้องยกให้เป็นรุ่นที่ดีที่สุดนั้นก็คือ vivo Y02/Y02A (2GB+32GB)ซึ่งเป็นตัวที่มาพร้อมกับหน่วยความจำขนาด RAM 4 GB และ ROM ขนาด 64 GB และใช้ชิปเซ็ตของ Snapdragon 680 ที่มีความเร็ว 2.4 GHz อีกทั้งยังมากับระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 12 ที่ใช้งานแอพพลิเคชั่นพื้นฐานได้อย่างไหลลื่นอีกด้วย ที่สำคัญยังมีแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ที่ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน 

นอกจากนี้ยังเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับจอขนาด 6.51 นิ้ว ซึ่งใช้จอแสดงผลแบบ IPS LCD (2408×1080 FHD+) ที่ทำให้ได้สีสันที่สดใส หน้าจอเป็นแบบหยดน้ำ โดยรุ่นนี้จะมีเซ็นเซอร์ด้านความปลอดภัยในการสแกนลายนิ้วมืออยู่บริเวณด้านข้างของตัวเครื่อง ซึ่งมีสีตัวเครื่องให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ และ สีฟ้า ในส่วนของกล้องได้ใส่กล้องหลังแบบคู่ที่มีความละเอียด 50 + 2 + 2 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล โดยจะเห็นได้ชัดเลยว่าถึงแม้จะเป็นรุ่นที่มาในราคาประหยัดและสเปกใส่มาให้อย่างจัดเต็มเป็นอย่างมาก

3. vivo – Y36 (8GB+256GB)

สุดยอดมือถือ Vivo ราคาไม่เกิน 8,000 บาท

ข้อดี
  • แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh 
  • กล้องซูมได้สูงสุด 8 เท่า
  • รองรับชาร์จไว 18W
  • หน้าจอขนาด 6.58 นิ้ว
ข้อเสีย
  • มีสีตัวเครื่องให้เลือกน้อย

มือถือ vivo ราคาไม่เกิน 8,000 บาทที่ต้องยกให้เป็นตัวที่ดีที่สุดคือรุ่น Y33s โดยมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.58 นิ้วซึ่งเป็นตัวที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM 8Gb และ ROM ขนาด 128 GB ที่รองรับการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ได้อีกด้วย และยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ความจุแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh เลยทีเดียว อีกทั้งยังเลือกใช้ชิปเซ็ต Mediatek : Helio G80 Octa Core

ที่สำคัญเป็นรุ่นที่มีสีตัวเครื่องให้เลือกทั้งหมด 2 สีด้วยกัน คือ สีดำ และสีน้ำเงิน อีกทั้งยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด โดยมีกล้องหลักที่มีความละเอียด 50 + 2 ล้านพิกเซลที่มาพร้อมกัลป์โหมดการถ่ายภาพที่มีให้เลือกใช้งานมากมายโดยมากับการซูมได้สูงสุด 8 เท่าอีกด้วย ส่วนความละเอียดของกล้องหน้าจะมีความคมชัดกับความละเอียด 16 ล้านพิกเซลที่สามารถบันทึกวิดีโอแบบ HD ได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นรุ่นที่รองรับการชาร์จไว 18W 

4. vivo Y76 5G (8GB+128GB)

สุดยอดมือถือ Vivo ราคาไม่เกิน 10,000 บาท

ข้อดี
  • RAM 8GB
  • ROM 128GB
  • แบตเตอรี 4100 mAh
  • ระบบปฏิบัติการ : Funtouch OS 12(Based on Android 11)
  • ขนาดตัวเครื่อง (ยาวxกว้างxหนา) : 163.84*75.00*7.79มม
  • ขนาดหน้าจอ 6.58 นิ้ว
  • ความละเอียดหน้าจอ : 2408×1080 (FHD+)
  • กล้อง : กล้องหน้า 16MP
  • กล้องหลัง 50MP+2MP+2MP
  • Wi-Fi : 2.4GHz / 5GHz
  • USB : Type-C
ข้อเสีย

มือถือ Vivo รุ่นที่ราคาไม่เกิน 10,000 บาทที่ดีที่สุดจะต้องยกให้รุ่น Y76 กันเลย โดยมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.58 นิ้ว ที่มาพร้อมกับกล้องหลักที่มีความคมชัด 64 ล้านพิกเซลซึ่งมาพร้อมกับเลนส์ Ultrawide และเลนส์ Macro ส่วนกล้องหน้าก็มีความคมชัดสูงถึง 16 ล้านพิกเซลเลยทีเดียว ในส่วนของแบตเตอรี่จะมีความจุขนาดใหญ่ 4100 mAh ที่ใช้งานได้อย่างยาวนานตลอดทั้งวัน

ที่สำคัญยังเป็นรุ่นที่เลือกใช้ชิปเซ็ต Mediatek Dimensity 700 Octa Core ที่ใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆได้อย่างไหลลื่น อีกทั้งยังมาพร้อมกับความเร็ว 2.2 GHz และเป็นระบบปฏิบัติการ Funtoch OS ซึ่งสำหรับรุ่นนี้จะรองรับการให้บริการอินเทอร์เน็ต 5G ที่ท่องโลกออนไลน์ได้อย่างเร็วแรงเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีสีตัวเครื่องให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีม่วง โดยมาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM 8GB และ ROM 128 GB อีกทั้งยังรองรับหน่วยความจำเสริมได้สูงสุด 256 GB

5. Vivo – V21 5G (8GB/128GB)

Vivo ที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพและวิดีโอ

ข้อดี
  • หน้าจอกระจก
  • กรอบพลาสติก
  • มีสีให้เลือก (Colors) : black, gold
  • ใช้งาน Nano-SIM รองรับ 2 ซิมการ์ด
  • เทคโนโลยีรับ/ส่งข้อมูล 3G , 4G, 5G
ข้อเสีย
  • แบตเตอรี่ความจุแค่เพียง 4,000 mAh

สำหรับมือถือ Vivo ที่มีความโดดเด่นเรื่องของการถ่ายภาพและการถ่ายวิดีโอจะต้องยกให้กับรุ่น V25 โดยมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.44 นิ้ว ที่มีแบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh ที่สำคัญยังเป็นรุ่นที่รองรับระบบชาร์จเร็ว 33W อีกด้วยทำให้สามารถท่องโลกอินเทอร์เน็ตได้อย่างเพลิดเพลินตลอดทั้งวัน และเลือกใช้ชิปเซ็ต Mediatek Dimensity 800U Octa Core ที่มีความเร็ว 2.4 GHz 

โดยเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับกล้องคุณภาพสูงกับความละเอียดกล้องหลักขนาด 64 ล้านพิกเซล และมีเลนส์ Ultrawide เลนส์ Dept ที่ช่วยทำให้ถ่ายรูปได้มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังมีรูรับแสงขนาด f 1.8 ที่มาพร้อมกับระบบกันสั่น และยังมีโหมดถ่ายรูปที่หลากหลายเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ที่สำคัญสามารถบันทึกวิดีโอระดับ 4K ได้อีกด้วย และยังรองรับไฟล์รูปภาพทุกรูปแบบ นอกจากนี้มือถือ Vivo รุ่นนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อ NFC ที่ถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างง่ายดายและยังรองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ดได้อีกด้วย

6. vivo V27 5G

Vivo ที่บางและเบาที่สุด

ข้อดี
  • ตัวเครื่องน้ำหนักแค่เพียง 172 กรัม
  • ตัวเครื่องมีความบาง 7.41 มิลลิเมตร 
  • จอภาพความละเอียด Full HD+
  • หน้าจอขนาด 6.78 นิ้ว
ข้อเสีย

มือถือ Vivo รุ่น Vivo V27 เป็นตัวที่มาพร้อมกับความโดดเด่นเรื่องของการเบาบาง โดยมาพร้อมกับน้ำหนักขนาด 172 กรัม ซึ่งมีดีไซน์การออกแบบที่บางเฉียบและสะดวกสบายต่อการพกพาเป็นอย่างมาก ที่สำคัญเป็นเครื่องที่มีความบางแค่เพียง 7.38 มิลลิเมตร และเป็นตัวที่มาพร้อมกับจอแบบ AMOLED ที่มีสีสัดสดใส อีกทั้งยังมาพร้อมกับจอขนาด 6.78 นิ้ว ที่มีความละเอียดแบบ Full HD+ 

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับชิปเซ็ต Mediatek : Dimensity 810 Octa Core ที่ใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่มีความเร็ว 2.0 GHz ที่สำคัญยังเป็นรุ่นที่รองรับการชาร์จไวแบบ 33W โดยมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่มีความจุขนาด 4600mAh ยิ่งไปกว่านั้นยังมาพร้อมกับกล้องหลังที่มีความคมชัด 50 + 8 + 2 ล้านพิกเซลมาพร้อมกับเลนส์ Ultrawide และเลนส์ Depth อีกทั้งยังมีระบบกันสั่นเวลาถ่ายรูปและมีโหมดในการถ่ายภาพเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว อาทิเช่น โหมดหน้าสวย โหมดพาโนราม่า และมาพร้อมกับเทคโนโลยีในการถ่ายภาพแบบอัจฉริยะ

7. vivo X80 5G (12GB+256GB)

Vivo ที่ดีที่สุดสำหรับความเร็วและประสิทธิภาพ

ข้อดี
  • จอแสดงผล AMOLED
  • รองรับการเชื่อมต่อ 5G
  • ชิปเซ็ตประสิทธิภาพสูง
  • หน้าจอขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว
  • อัตรารีเฟรชหน้าจอมีความเร็ว 2.8 GHz
ข้อเสีย

สำหรับมือถือ vivo ที่ดีที่สุดในเรื่องความเร็วและประสิทธิภาพจะต้องยกให้กับรุ่น X80 Pro โดยมาพร้อมกับจอขนาด 6.78 นิ้วที่รับชมความบันเทิงต่างๆได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญยังมาพร้อมกับชิปเซ็ต Mediatek Dimensity 1200 Octa Core ที่ทำให้ใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆที่มีกราฟฟิกสูงได้อย่างไหลลื่นอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังมาพร้อมกับความเร็ว 2.8 GHz โดยมีแบตเตอรี่ที่มีความจุขนาด 4500mAh และยังเป็นรุ่นที่รองรับการชาร์จเร็ว 44W 

ที่สำคัญยังเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยทั้งหมด 2 แบบคือการสแกนใบหน้า และสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ โดยมาพร้อมกับระบบเสียงแบบ Mono และมาพร้อมกับจอแสดงผล AMOLED ที่มีสีสันสดใสและคมชัดเป็นอย่างมาก เป็นตัวที่มาพร้อมกับจอแสดงผล HDR 10+ นอกจากนี้ยังเป็นรุ่นที่รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบ 5G โดยมาพร้อมกล้องหลักที่มีความละเอียด 50 ล้านพิกเซลและกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล

8. vivo X70 5G (8GB+128GB)

โทรศัพท์ Vivo ที่ดีที่สุดสำหรับเกมเมอร์

ข้อดี
  • หน้าจอขนาด 6.56 นิ้ว
  • จอแสดงผลแบบ AMOLED
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
  • ชิปเซ็ต Mediatek : Dimensity 700 5G Octa Core
  • รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 5G
ข้อเสีย

สำหรับโทรศัพท์ Vivo รุ่น vivo X70 เป็นรุ่นที่มาพร้อมกับความโดดเด่นในเรื่องของการเล่นเกมเป็นอย่างมาก โดยเป็นตัวที่มาพร้อมจอขนาด 6.56 นิ้ว ซึ่งมีชิปเซ็ต Mediatek : Dimensity 700 5G Octa Core ที่มีความเร็ว 2.2 MHz อีกด้วย ที่สำคัญยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่มีความจุขนาด 4400 mAh โดยมีหน่วยความจำ Ram 8 GB และ Rom ขนาด 128 GB ที่รองรับการจัดเก็บข้อมูลและรูปภาพต่างๆได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Funtouch OS ที่ทำให้ใช้งานเมนูต่างๆได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว 

นอกจากนี้ยังเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับจอแสดงผล AMOLED ที่ให้สีสันที่สมจริง และ Ultra Game Mode 2.0 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเล่นเกมที่มีกราฟิกสูง ที่สำคัญยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยรวม 2 ตัวเลือก ได้แก่ การสแกนใบหน้า และสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอได้อีกด้วย ที่สำคัญยังเป็นรุ่นที่รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ต 5G และใช้งานพร้อมกันได้ทั้งหมด 2 ซิมการ์ด

9. Vivo V23 5G (12GB+256GB) 

ดีที่สุดสำหรับรูปทรง

ข้อดี
  • รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 5G
  • ชิปเซ็ต Snapdragon 765G 5G Octa Core
  • หน้าจอขนาด 6.44 นิ้ว
  • รองรับการชาร์จไว 33W
ข้อเสีย
  • ไม่รองรับระบบ NFC

สำหรับมือถืออีกหนึ่งรุ่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือรุ่น Vivo V23 โดยเป็นรุ่นที่รองรับการใช้งานปากกาแบบบลูทูธได้ อีกทั้งยังมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.44 นิ้วซึ่งทำให้รับชมความบันเทิงต่างๆได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมากับแบตเตอรี่ที่มีความจุขนาด 4200mAh โดยเป็นตัวที่รองรับการใช้งานชาร์จไว 33W อีกด้วย เรื่องของตัวกล้องก็ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดีกับกล้องหลังที่มีความละเอียด 64 ล้านพิกเซลโดยมีเลนส์ ultrawide และเลนส์ mono ที่ทำให้การถ่ายรูปมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับกล้องหลักที่มีความละเอียด 44 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นรุ่นที่ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 765G 5G Octa Core ซึ่งมีความเร็ว 2.4 GHz โดยมาพร้อมกับหน่วยความจำ Ram 8GB และ Rom ที่มากถึง 128 GB ทำให้จัดเก็บข้อมูลต่างๆได้เป็นจำนวนมาก ที่สำคัญยังเป็นรุ่นที่รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบ 5G และมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยทั้งแบบสแกนลายนิ้วมือและสแกนใบหน้า

อมติดทน ที่สำคัญการที่เลือกใช้สารสกัดจากธรรมชาติทำให้เหมาะกับผมธรรมดา

คู่มือการซื้อมือถือ Vivo

คู่มือการซื้อมือถือ Vivo

Vivo คือใครและพวกเขาผลิตสมาร์ทโฟนที่ดีหรือไม่

สำหรับบางท่านอาจยังไม่ทราบว่าแบรนด์ Vivo เป็นแบรนด์ที่ได้ทำการแยกตัวออกมาจากแบรนด์ Oppo โดยเป็นค่ายดังจากประเทศจีนซึ่งมีการผลิตมือถือรุ่นแรกออกมาในปี 2011 ซึ่งสำหรับแบรนด์นี้จะเน้นเรื่องของดีไซน์เป็นหลักและเน้นให้มีเสียงที่คมชัด อีกทั้งยังใส่เทคโนโลยีใหม่ๆมาอย่างจัดเต็มในราคาที่สมเหตุสมผลเป็นอย่างมาก

โดยสำหรับแบรนด์ Vivo นั้นจะใช้ระบบปฏิบัติการ Android ซึ่งถึงแม้จะถูกเรียกว่าเป็นค่ายน้องใหม่ที่เพิ่งก่อตั้งได้แค่เพียง 10 ปีเท่านั้นแต่ต้องบอกเลยว่าการผลิตและการออกแบบไม่น้อยหน้าแบรนด์อื่นจนทำให้กินส่วนแบ่งตลาดในหลากหลายประเทศได้จำนวนมากเลยทีเดียว โดยหลักการของแบรนด์นี้ก็คือการผลิตให้ตอบโจทย์ของกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุดอีกทั้งยังมาพร้อมกับราคาที่จับต้องได้ไม่แพงจนเกินไปเมื่อเทียบกับคุณสมบัติที่จะได้รับอีกด้วย

ดังนั้นถ้าหากจะมีคำถามว่าเป็นแบรนด์ที่ผลิตสมาร์ทโฟนที่ดีออกมาหรือไม่ก็ต้องยอมรับเลยว่าแบรนด์ Vivo เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ผลิตสมาร์ทโฟนออกมาเป็นอย่างดีและใส่คุณสมบัติมาให้ผู้ใช้งานแบบครบถ้วนอีกด้วย ดังนั้นถ้าหากท่านใดที่อยากสัมผัสกับโทรศัพท์ที่ราคาสมเหตุสมผลกับคุณภาพที่ได้รับ Vivo จะเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ทุกท่านไม่ควรมองข้ามเลย

โทรศัพท์ Vivo รุ่นต่างๆคืออะไรและมีจุดมุ่งหมายเพื่อใคร

  • X Series ถ้าหากมีคำถามว่า Vivo รุ่นไหนดี ก่อนอื่นเราจะแนะนำคุณสมบัติและจุดเด่นของแต่ละรุ่นให้ทุกท่านได้ทราบกันก่อนเพื่อใช้ทำความเข้าใจ โดยสำหรับ Vivo Series X เป็นรุ่นเรือธงของค่ายนี้เลยทีเดียว โดยจะใส่เทคโนโลยีและคุณสมบัติต่างๆมาอย่างเต็มที่ ซึ่งจะมาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูหรูหราเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังใส่ใจเรื่องของรายละเอียดต่างๆเป็นอย่างดีในเรื่องของการถ่ายภาพ และฟีเจอร์ต่างๆซึ่งเหมาะแก่การใช้งานสำหรับแอพพลิเคชั่นที่มีกราฟฟิกระดับสูง โดยเฉพาะถ้าหากท่านใดจะซื้อไปสำหรับการใช้งานเพื่อการทำธุรกิจโดยเฉพาะซีรีส์ X จะเป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับทุกท่านอย่างแน่นอน โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงหมื่นปลายๆเป็นต้นไป 
  • V Series สำหรับ Vivo Series V จะเป็นมือถือที่อยู่ในช่วงราคาระดับกลางไปจนถึงระดับสูง ราคาตั้งแต่หลักพันปลายๆไปจนถึงหลักหลักหมื่นต้นๆ โดยเป็นรุ่นที่มีความพิเศษรองลงมาจากรุ่น Series X ที่เป็นรุ่นเรือธง โดยสำหรับกลุ่มเป้าหมายของ Series นี้จะเป็นกลุ่มวัยรุ่นจนถึงกลุ่มวัยทำงาน ความโดดเด่นของมันก็คือการที่มีจุดเด่นเรื่องกล้องที่ใส่คุณสมบัติต่างๆมาอย่างจัดเต็ม อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ต่างๆที่ครบวงจรเป็นอย่างมาก ที่สำคัญยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูเรียบหรูและดูทันสมัยเป็นอย่างมาก
  • NEX สำหรับ Vivo Series NEX เป็นตัวที่โดดเด่นเรื่องของนวัตกรรมโดยเป็นเรือธงของค่ายนี้เลยทีเดียว ซึ่งจะเน้นด้านเกี่ยวกับการใส่ฟังก์ชั่นของเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและใส่สเปกมาให้อย่างจัดเต็ม โดยสามารถเรียกได้ว่าเป็นตัวท็อบของค่าย Vivo เลยก็ว่าได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมาพร้อมกับคอนเซปที่จะทำให้มือถือของทุกท่านดูล้ำสมัยโดยจะเป็นรุ่นที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา โดยในช่วงนี้ก็กำลังมีการพัฒนารุ่นนี้เพิ่มเติมแต่ก็ยังไม่มีการออกวางจำหน่าย แต่กลุ่มเป้าหมายของรุ่นนี้นั้นออกมาอย่างชัดเจนเป็นอย่างมากว่าเหมาะสำหรับท่านใดที่ชื่นชอบความล้ำสมัยและอยากใช้มือถือที่เทคโนโลยีจัดเต็มครบวงจรและใส่ฟีเจอร์ต่างๆมาไม่อั้น
  • Y Series สำหรับมือถือ Vivo Series Y จะเป็นซีรีส์ที่ราคาเริ่มต้นที่หลักพันนิดๆไปจนถึงประมาณช่วง 8,000 บาท โดยเป็นตัวที่อยู่ในช่วงราคาระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับกลาง ซึ่งมาพร้อมกับความโดดเด่นก็คือเรื่องของขนาดหน้าจอที่มีขนาดใหญ่และใส่แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานครอบคลุมการใช้งานอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวันได้อีกด้วย ที่สำคัญยังตอบโจทย์ทุกการใช้งานพื้นฐานได้เป็นอย่างดีและทำให้ทุกท่านสามารถใช้งานได้อย่างไหลลื่นเลยทีเดียว ดังนั้นจึงต้องยกว่าถ้าหากท่านใดที่อยากได้มือถือราคาประหยัด Series Y จะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ให้ทุกท่านได้อย่างแน่นอน ที่สำคัญยังมีรุ่นออกมาให้เลือกใช้งานได้อย่างหลากหลายอีกด้วย 

สิ่งที่ต้องมองหาเมื่อเลือกโทรศัพท์ Vivo 

ข้อมูลจำเพาะ

สำหรับการเลือกซื้อมือถือของแบรนด์ Vivo สิ่งสำคัญอย่างแรกเลยก็คือการใส่ใจรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลจำเพาะของตัวเครื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรุ่น สเปกต่างๆ หน่วยความจำของตัวเครื่องซึ่งจะต้องเลือกให้ตอบโจทย์การใช้งานของทุกท่านยิ่งถ้าหากจะใช้สำหรับการทำงานหรือใช้สำหรับการถ่ายรูปก็ควรที่จะเลือกมือถือที่มีหน่วยความจำขนาดใหญ่ นอกจากนี้เรื่องของขนาดหน้าจอก็เป็นสิ่งสำคัญควรเลือกให้ตอบโจทย์ความต้องการทั้งเรื่องของการพกพาไปตามสถานที่ต่างๆ

อีกทั้งความจุของแบตเตอรี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ควรให้ความสนใจเป็นอย่างมากเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องของฟังก์ชั่นต่างๆภายในตัวเครื่องก็จะยิ่งเป็นตัวที่สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานทุกท่านได้มากกว่าเดิมอีกด้วย ยิ่งถ้าหากท่านใดที่มีจุดประสงค์ในการใช้งานอย่างชัดเจน อาทิเช่น เพื่อเล่นเกมก็จะเป็นต้องเลือกหน่วยประมวลผลและชิปเซ็ตของตัวเครื่องให้เหมาะสมกับการใช้งานเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด 

ราคา

เรื่องของราคาก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรใส่เข้าไปในการตัดสินใจเลือกซื้อมือถือ Vivo โดยจำเป็นต้องเลือกรุ่นที่ครอบคลุมงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ แต่ที่สำคัญเลยก็คือควรที่จะได้สเปกตามที่ต้องการด้วยเพื่อให้ซื้อไปและใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริงไม่ทำให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง ซึ่งด้วยความที่ราคาของมือถือ Vivo มีให้เลือกอย่างหลากหลายดังนั้นการเลือกซื้อมือถือจากแบรนด์นี้จึงควรใส่ใจเรื่องของสเปกต่างๆและทำการเปรียบเทียบให้ดีเพื่อให้ได้มือถือที่ตอบสนองความต้องการของท่านได้ ซึ่งจะต้องมาในราคาที่เหมาะสมอีกด้วย 

โมดูลกล้องขั้นสูงในราคาประหยัด

สำหรับท่านใดที่ชื่นชอบในการถ่ายรูปเรื่องของกล้องก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม โดยควรเลือกที่มีคุณภาพสูงเป็นพิเศษเพื่อตอบโจทย์การถ่ายรูปละถ่ายวิดีโอได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกท่านได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากประหยัดพื้นฐานไม่ต้องแบกกล้องขนาดใหญ่ไปตามสถานที่ต่างๆแต่สามารถเลือกถ่ายรูปผ่านโทรศัพท์กันได้เลย แต่ที่สำคัญเลยก็คือควรเลือกให้สมเหตุสมผลกับราคาที่ตั้งไว้ด้วย

เนื่องจากในปัจจุบันกล้องที่คุณภาพสูงที่มาในราคาไม่สูงตามก็มีให้เลือกเช่นกัน ดังนั้นถ้าหากอยากได้โมดูสกล้องขั้นสูงในราคาประหยัดก็สามารถเลือก Vivo รุ่นที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการถ่ายรูปโดยเฉพาะได้ โดยนับว่าเรื่องของกล้องเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำคัญที่ทุกๆท่านควรใช้ประกอบการตัดสินใจในการซื้อมือถือ Vivo อีกด้วยเนื่องจากในแต่ละรุ่นจะมีความละเอียดของตัวกล้องที่แตกต่างกันออกไป 

โทรศัพท์ Vivo ราคาเท่าไหร่และต้องจ่ายเท่าไหร่

บางท่านอาจมีความคิดว่ามือถือแบรนด์ Vivo จะมีแต่ราคาหลักพันแต่แท้จริงแล้วแบรนด์นี้ได้มีการพัฒนามือถือออกมาเป็นจำนวนมาก โดยเริ่มต้นตั้งแต่ 2,000 บาท ไปจนถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว โดยทุกท่านจะสามารถเลือกรุ่นที่แต่ละคนต้องการกันได้อย่างเต็มที่ ซึ่งต้องบอกกันเลยว่าด้วยช่วงราคาที่มีขนาดกว้างทำไมทุกท่านสามารถเลือกได้ในงบประมาณที่ต้องไว้แต่ยังได้รับคุณภาพตามที่ต้องการได้อีกด้วย ดังนั้นจะต้องทำความเข้าใจกันใหม่เลยว่ามือถือดีๆไม่จำเป็นต้องมาในราคาที่สูงมากแต่จะใส่ใจเรื่องของการตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานเป็นหลัก โดยสามารถเลือกราคาที่จะซื้อกันได้ตามงบประมาณที่แต่ละท่านตั้งไว้กันเลย 

หากคุณกำลังมองหาโทรศัพท์ที่ออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ คุณอาจต้องการอ่านบทวิจารณ์ โทรศัพท์สำหรับเล่นเกมที่ดีที่สุดของเราได้ทดสอบรุ่นและแบรนด์ต่างๆ มากมาย และเราสามารถช่วยคุณค้นหารุ่นที่ตรงตามความต้องการของคุณได้ ไม่ว่าคุณจะสนใจโทรศัพท์ Oppo รุ่น Samsung อุปกรณ์ RealMe ใหม่ หรืออย่างอื่นทั้งหมด เราสามารถช่วยให้คุณไปในทิศทางที่ถูกต้องได้

Best Vivo Mobile Phone

คำถามและคำตอบ

Vivo อัพเดท Android บนโทรศัพท์รุ่นเก่าหรือไม่

สำหรับมือถือของแบรนด์ Vivo จะใช้ระบบปฏิบัติการของ Android ซึ่งมีการอัพเดทมาอยู่เรื่อยๆในทุกๆปี แต่สำหรับมือถือรุ่นเก่าก็มั่นใจได้เลยว่าจะยังมีการให้อัพเดทในเรื่องของซอฟแวร์ความปลอดภัยกันอยู่อย่างแน่นอน ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าถ้าหากใช้งานมือถือ Vivo รุ่นเก่าและจะไม่ได้อัพเดท Android แต่สำหรับการอัพเดทในเรื่องอื่นๆก็จะมีการจำกัดรุ่นที่รองรับได้ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละปีแต่โดยส่วนใหญ่มักจะมีการให้อัพเดทสำหรับรุ่นย้อนหลังประมาณ 3-5 ปีด้วยกัน

UPS ของแบรนด์/สมาร์ทโฟน Vivo คืออะไร

สำหรับ UPS จะเป็นแหล่งสำรองการจ่ายไฟ ซึ่งสำหรับสมาร์ทโฟนของแบรนด์ Vivo โดนส่วนใหญ่จะมีการออกแบบความจุแบตเตอรี่มาเพียงพอต่อการใช้งานในแต่ละวัน และจะมีการรองรับการชาร์จแบตเตอรี่ทั้งผ่านสายชาร์จที่เป็นตัว USB C และในบางรุ่นก็สามารถรองรับการใช้งานการชาร์จแบบไร้สายได้อีกด้วย 

Photo of author

Tanawat

ธนวัฒน์ชอบแกดเจ็ตและเทคโนโลยี เขาสนุกกับการทดสอบ ทบทวน และเล่นกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อื่นๆ เขาชอบดูการแข่งขันพรีเมียร์ลีก เดินป่า และท่องเที่ยวไปต่างประเทศ