ครีมกันแดด ยี่ห้อไหนดี 2024

ภาวะโลกร้อนทำให้ชั้นบรรยากาศโอโซนถูกทำลาย รังสี UVA และ UVB ผ่านเข้ามายังชั้นผิวโลกมากขึ้น นำมาสู่ปัญหาผิวที่หลายคนต้องประสบพบเจอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองไทยเอง ที่แทบจะทุกฤดูกาลมีแต่คำว่าร้อน และแดดจัด อยู่แค่นั้น 

ยิ่งทำให้ไม่ว่าจะคนหนุ่มหรือคนสาวล้วนพบปัญหาผิวที่เกิดจากการทำลายชั้นผิวหรือการสร้างเม็ดสีที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นผลมาจาก UVA และ UVB หากคุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงแสงแดดได้จริง ๆ คำแนะนำคือ คุณต้องทาครีมกันแดด วันนี้เราจะพาคุณมาเรียนรู้ให้หัวข้อ ซื้อครีมกันแดดยี่ห้อไหนดี ตามมาดูกันเลย

9 ครีมกันแดด

1. เนื้อบางเบาที่ดีที่สุดSUPERGOOP Lazada/Shopee
2. ดีที่สุดสำหรับคนผิวมัน
Eucerin Lazada/Shopee
3. ดีที่สุดสำหรับผิวแห้งBSC Lazada/Shopee
4. ดีที่สุดสำหรับรอยดำSpectraBAN Lazada/Shopee
5. ดีที่สุดสำหรับผิวแพ้ง่ายMizuMi Lazada/Shopee
6. สำหรับการว่ายน้ำและชายหาด: Neutrogena Lazada/Shopee
7. ดีที่สุดสำหรับผิวหน้าSupergoop Lazada/Shopee
8. ดีที่สุดสำหรับเด็ก: Banana Boat Lazada/Shopee
9. สเปรย์กันแดดที่ดีที่สุด: KA Spray Lazada/Shopee

ครีมกันแดด ยี่ห้อไหนดี 2024

1. SUPERGOOP! – PLAY Everyday Lotion

กันแดดเนื้อบางเบาที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • ครีมกันแดดซึมเร็ว
  • ไม่เหนียวเหนอะหนะ
  • กันน้ำ กันเหงื่อ
  • ทาได้ทั้งหน้าและลำตัว มี SPF50
ข้อเสีย

ผลิตภัณฑ์กันแดดนั้น มีหลากหลายชนิด และหากคุณต้องการกันแดดที่มีเนื้อบางเบาเราขอแนะนำ กันแดดที่มีเนื้อเป็นแบบโลชั่นหรือน้ำ ซึ่งผลิตภัณฑ์ตัวนี้ก็เป็นโลชั่นกันแดดที่มี SPF สูงถึง 50 ที่ยังมีความบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ เกลี่ยง่าย บวกกับคนที่มีผิวแพ้ง่ายไม่ต้องกังวลไป เพราะผลิตภัณฑ์นี้ปราศจากพาราเบน ซัลเฟต และน้ำหอมที่ส่วนมากเป็นสารก่อการแพ้ และนอกจากประสิทธิภาพสุดล้ำกันได้ทั้ง UVA, UVB และ Infrared นั้น

ยังมีสารสกัดมากมาย ทั้งสารสกัดจากดอกทานตะวัน สารสกัดจากโรสวู้ด สารสกัดจากรำข้าว น้ำหอมระเหยจากเปลือกส้ม เปลือกเลม่อน และใบโรสแมรี่ ที่มีวิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระ AHAs ที่มีส่วนช่วยให้ผลิตภัณฑ์นี้ปกป้องริ้วรอย ช่วยลดปัญหาผิวแห้งกร้าน เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และยังทำให้ให้รู้สึกผ่อนคลายตอนทาเพราะกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากน้ำมันหอมระเหยที่อยู่ในสูตร เรียกได้ว่าหากคุณกำลังมองหากันแดดที่มีเนื้อครีมที่มีคุณประโยชน์คับคั่งและเนื้อบางเบาต้องอย่าลืมเลือกตัวนี้ไว้ในใจ

2. Eucerin – Sun Dry Touch Oil Control Face SPF50+

ครีมกันแดดที่ดีที่สุดสำหรับคนผิวมัน

ข้อดี
  • ครีมกันแดด เนื้อเจล
  • ครีมปกป้องรังสียูวีและลดการทำร้ายผิวจากรังสีเข้มข้นสูงจากแสงที่มองเห็น (High Energy Visible Light) จากแสงแดด
  • พร้อมผสานนวัตกรรมบรอด สเปคตรัม ออกซิแดนท์ ฟิลเตอร์
  • ลดปัญหาผิวคล้ำเสียและจุดด่างดำ
ข้อเสีย

ใครผิวมันแล้วกำลังตามหาครีมกันแดดที่จะไม่ทำให้หน้าเยิ้มกว่าเดิม  ขอแนะนำครีมกันแดด ใช้ทาบริเวณผิวหน้า โดยผลิตภัณฑ์กันแดดของยูเซอรีน สูตรนี้ มีลักษณะเป็นเนื้อเจลครีม แต่เมื่อทาแล้วรู้สึกว่ามีความแมท และบางเบา เวลาทาก็ค่อนข้างเกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่ทิ้งคราบ หรือดูมันวาว คุณประโยชน์ก็ล้นหลาม ทั้งในเรื่องของการปกป้องแดดทั้งรังสี UVA และแสงสีฟ้าที่อันตรายต่อผิวไม่แพ้กัน ทั้งนี้ยังช่วยคุมมันได้ด้วย เนื่องจากมีสารสำคัญอย่าง L-carnitine

ที่ช่วยทำให้คุมความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้ถึง 86% คุมได้นานถึง 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว พร้อมทั้งผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่อุดตันรูขุมขัน ทำให้สามารถช่วยลดการเกิดสิวได้ แถมด้วย สารค้านอนุมูลอิสระ และยังมี SPF และ PA สูง แถมซึมลงชั้นผิวได้อย่างล้ำลึก ใครที่กังวลเรื่องฝ้าแดดสะสมตัวนี้ช่วยได้แน่นอน นอกจากประสิทธิภาพที่ดีสำหรับคนผิวมันแล้ว ผลิตภัณฑ์นี้ยังเหมาะกับผู้มีผิวบอบบางแพ้ง่าย เพราะปราศจากน้ำหอม สี และพาราเบน พร้อมกับผ่านการทดสอบเกี่ยวกับผิวแพ้ง่ายได้

3. BSC – CRYSTAL AURA SUNSCREEN SPF 50 PA+++

ครีมกันแดดที่ดีที่สุดสำหรับผิวแห้ง

ข้อดี
  • กันแดดที่พัฒนาให้เนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ
  • เบาสบาย ซึมเข้าสู่ผิวทันทีที่ใช้ เหมาะกับทุกสภาพผิว
  • พร้อมสารกันแดดประสิทธิภาพสูงเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด
  • “Triple Action Technology” สามารถปกป้องแสงแดด
  • ที่เป็นสาเหตุของผิวแห้งหยาบกร้าน ริ้วรอยก่อนวัย
  • หมองคล้ำ ได้ทั้ง 3 กลไกในหนึ่งเดียว
  • ด้วยค่า SPF 50 PA+++ และมีความคงตัวสูง (Photo stability)
  • ไม่เสื่อมสลายง่าย เมื่อโดยแสงแดด
  • และเพิ่มการดูแลเป็นพิเศษด้วย Vitamin C&E และ B3
  • ช่วยให้ผิวหน้าแลดูกระจ่างใสเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ
  • Sodium Hyaluronate และ Ronacare Ectoin
  • ช่วยบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้น มีสุขภาพดีแลดูอ่อนวัย
  • เสริมการปกป้องผิวจากมลภาวะและแสงแดดด้วย Pollustop
ข้อเสีย

แนะนำครีมกันแดดสำหรับชาวผิวมันไปแล้ว อีกหนึ่งครีมกันแดดที่จะแนะนำก็เป็นครีมกันแดดเนื้อโลชั่นบางเบา เกลี่ยง่าย เบาสบายผิว และซึมเร็วมาก ที่เหมาะกับชาวผิวแห้ง แต่ที่แนะนำสำหรับคนผิวแห้งนั่นก็เพราะผลิตภัณฑ์กันแดดสูตรนี้ มีส่วนผสมของสารกันแดดที่เป็นเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงอย่าง Triple Action Technology ที่ช่วยปกป้องแสงแดดได้ทีเดียวหลายกลไก ช่วยป้องกันแสงแดดด้วย SPF 50/ PA+++ ลดสาเหตุของการเกิดผิวแห้งกร้าน ริ้วรอย และความหมองคล้ำ ทั้งจากแสงแดดและมลภาวะ 

บวกกับสารช่วยฟื้นฟูผิวให้ชุ่มชื้น แลดูสุขภาพดี ช่วยผิวดูกระจ่างใสดูเป็นธรรมชาติ อันเกิดจากส่วนผสมที่ทางแบรนด์ได้ใส่สารสำคัญหลายตัวมาช่วยให้เกิดประสิทธิภาพดังกล่าว เช่น sodium hyaluronate, ronacare ectoin, vitamin C, vitamin E, vitamin B3 แถมด้วยค่า SPF 50/ PA+++ ครีมกันแดดตัวนี้เคลมไว้ว่ากันน้ำ และคุมความมันได้ดีอีกด้วยนะ เพราะฉะนั้นนอกจากเหมาะกับคนผิวแห้ง ยังสามารถใช้กับสภาพผิวอื่น ๆ ได้อีกด้วย หากใครสนใจก็ลองไปตำกันได้

4. SpectraBAN – SPF50+

ครีมกันแดดที่ดีที่สุดสำหรับรอยดำ

ข้อดี
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีกิจกรรมกลางแจ้ง หรือผู้ที่มีผิวมีแนวโน้มไวต่อแสงแดด
  • ปกป้องผิวแบบ Double Protection
  • ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย และการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ จากแสงแดด
  • สูตรกันน้ำ กันเหงื่อได้ยาวนาน (Very Water Resistant)
  • ปราศจากน้ำหอม สารแต่งสี
ข้อเสีย

มาต่อกันด้วยครีมกันแดดสำหรับทาได้ทั้งผิวหน้า และผิวกายกันบ้างดีกว่า หลายคนต้องเคยเห็นแบรนด์นี้วางอยู่ตามร้านขายยาผ่านตามาบ้าง ผลิตภัณฑ์นี้เป็นครีมกันแดดเนื้อครีม ที่ค่อนข้างเหนียว ทาแล้วแอบจะเกลี่ยยากนิด ๆ เริ่มเกลี่ยตอนแรก ๆ มีเนื้อสีขาวชัดมาก พอเกลี่ยไปอีกนิดก็ซึมเขาผิวแล้วทำให้ผิวบริเวณที่ทาดูขาวสว่างขึ้น นั่นก็อาจจะเพราะว่ามีส่วนผสมของ microfine zinc oxide 9.8% ที่เคลือบด้วย dimethicone ซึ่ง zinc oxide

จะเป็นสารสำคัญที่ช่วยสะท้อนรังสี UVA และ UVB จากแสงแดดได้ มี SPF 50 PA+++ ทำให้ช่วยลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร และป้องกันรอยด่างดำจากแสงแดด ลดการเกิดฝ้า กระ แถมยังมีส่วนผสมของวิตามินอีที่ช่วยปกป้องผิวด้วยฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ สูตรนี้ได้รับการเคลมด้วยว่ากันน้ำ กันเหงื่อได้ดีสุด ๆ ไปเลย เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับทุกสภาพผิว และยังเหมาะกับผิวแพ้ง่ายที่แพ้น้ำหอม เพราะผลิตภัณฑ์นี้ปราศจากน้ำหอมด้วย

5. MizuMi – UV Water Serum SPF50+/PA++++

ครีมกันแดดที่ดีที่สุดสำหรับผิวแพ้ง่าย

ข้อดี
  • ครีมกันแดดสูตรน้ำ หลอดสีฟ้าสำหรับใช้ทุกวัน
  • ปราศจากสารกันแดดแบบเคมี 100%
  • เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายและผิวเป็นสิว
  • เนื้อสัมผัสบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ
  • ไม่ทิ้งคราบหลังเซทตัว ใช้ได้ทุกคนในครอบครัว
  • ปราศน้ำมัน น้ำหอม พาราเบน แอลกอฮอล์ และสีสังเคราะห์
ข้อเสีย

พูดถึงกันแดดเนื้อครีมไปก็มากแล้ว มาพูดถึงกันแดดเนื้อเซรั่ม หรือจะเรียกว่ากันแดดสูตรน้ำ เนื้อบางเบา ซึมง่าย ซึมไวมาก ไม่มีขาววอก เกลี่ยทั่ว ๆ ซึมเลย ผิวดูกระจ่างขึ้นมากอีกนิด เรื่องประสิทธิภาพของสูตรนี้ไม่ได้มาจากสารกันแดดแบบเคมี แต่ก็ยังมีประสิทธิภาพในการปกป้องอันตรายจาก UVA1, UVA2, UVB ที่มากับแสงแดด ด้วย SPF และ PA ที่สูงมากกว่าครีมกันแดดหลาย ๆ ยี่ห้อ พร้อมทั้งยังลดโอกาสผิวถูกทำร้ายจากสารอนุมูลอิสระในสภาพแวดล้อม ด้วยในสูตรมีสารสกัดจาก Yuki extract และ วิตามินอี ที่มีความคงตัวสูง ทำให้มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอย

และลดความหมองคล้ำได้อย่างดี แถมยังช่วยคุมมันลดการอุดตันรูขุมขนบนผิว สุดท้ายที่เด่นมาก ๆ คือกันแดดยี่ห้อนี้ปราศจากทั้งน้ำมัน น้ำหอม พาราเบน แอลกอฮอล์ และสีสังเคราะห์ใด ๆ ไม่ต้องห่วงเรื่องสารก่อแพ้เลย เพราะสารที่ทางแบรนด์นี้ไม่ได้ใส่ลงไปแทบจะครอบคลุมสารก่อแพ้ที่มักเป็นตัวต้นเหตุให้เกิดการแพ้บนผิวหนังแล้ว ใครที่ผิวแพ้ง่ายต้องอย่าลืมเลือกเซรั่มกันแดดสูตรนี้ไปใช้กัน แต่ต้องบอกว่าอาจจะต้องระวังเรื่องการกันน้ำกันเหงื่อ เพราะทางแบรนด์ไม่ได้เคลมไว้ในเรื่องนี้ รวมถึงเสียงจากผู้ใช้ก็พบว่าไม่ค่อยกันน้ำกันเหงื่อเท่าไหร่

6. Neutrogena – Ultra Sheer Dry-Touch Sunblock 

ครีมกันแดดที่ดีที่สุดสำหรับการว่ายน้ำและชายหาด

ข้อดี
  • แก้ปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมได้ทั้งหมด
  • แก้ปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมได้ทั้งหมด
  • กลิ่นหอมติดทนตลอดทั้งวัน
  • เหมาะกับสภาพเส้นผมทุกรูปแบบ
ข้อเสีย
  • ตัวครีมเข้มข้นล้างออกค่อนข้างยาก

เอาใจสายชอบการว่ายน้ำไม่ว่าจะในสระว่ายน้ำ หรือว่าจะไปเที่ยวทะเล เดินหาดไปเล่นน้ำในทะเลกันบ้างดีกว่า เจอแสงแดดที่แผดเผาทุกอณู แต่ด้วยความรักในกิจกรรมการว่ายน้ำ และการออกกำลังกายก็ต้องหาตัวช่วยไม่ให้ผิวเสีย อย่างครีมกันแดดที่เคลมเรื่องการกันน้ำ และกันเหงื่อได้อย่างดี ซึ่งครีมกันแดดสูตรนี้ของ Neutrogena นั้น ก็เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ด้วยเทคโนโลยี Helioplex ซึ่งเป็นเอกสิทธิเฉพาะของทางแบรนด์เอง

เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการป้องกันรังสี UVA และ UVB ที่มากับแดด ไม่ให้เกิดการทำร้ายผิวทั้งชั้นผิวภายนอก และชั้นผิวที่อยู่ลึก ป้องกันการเกิดฝ้าแดด กระ และฝ้าแดดสะสม แต่นอกจากประสิทธิภาพแล้ว ด้านความน่าใช้ของผลิตภัณฑ์กับกลุ่มผู้ที่ชอบการว่ายน้ำนั้น คือ ทาแล้วแห้งไว ไม่เหนอะหนะ พร้อมลงไปลุยต่อได้ทั้งที ซึ่งทางแบรนด์ก็ได้ระบุไว้แล้วว่าใช้ dry technology เคลมเรื่องการทาแล้วเกลี่ยง่าย ซึมไวไว้อย่างดี อีกอย่างคือไม่ต้องกลัวว่าจะรู้สึกมัน เพราะสูตรนี้ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน 

7. Supergoop – Unseen Sunscreen SPF 40 PA+++

กันแดดที่ดีที่สุดสำหรับผิวหน้า

ข้อดี
ข้อเสีย

เชื่อว่าคุณต้องเคยใช้กันแดดสำหรับผิวหน้ากันมามากก็น้อย ยิ่งใครที่แต่งหน้าแล้วต้องอย่าลืมที่จะลงกันแดดก่อนหนึ่งชั้นเพื่อเตรียมผิว ผลิตภัณฑ์กันแดดสูตรนี้ที่ได้รับขนานนามว่า ครีมกันแดดเนื้อเจลล่องหน ที่ไร้น้ำหนัก ไม่ต้องกังวลว่าจะหนาเหนอะหน้า ไร้กลิ่น ไร้สี ไม่ต้องห่วงเรื่องทิ้งคราบ และช่วยทำให้เครื่องสำอางติดทนมากยิ่งขึ้นไปอีก และดูสวยปังเรียบเนียนสะดุดตา ด้วยคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่ช่วยคุมความมันอันเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องสำอางไม่ติดทน ได้อย่างยาวนาน

พร้อมทั้งบำรุงผิวไปในตัวเนื่องจากมีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระด้วย แต่สำหรับครีมกันแดดตัวนี้มีค่า SPF 40 ซึ่งต่ำกว่าที่รีวิวมา และ PA+++ แต่ก็ยังสามารถปกป้องผิวจากรังสี UVA, UVB รวมทั้งแสงสีฟ้าที่มากับหน้าจอคอม และโทรศัพท์ที่เราเล่นกันอยู่ประจำด้วย อันนี้แอบแนะนำสำหรับทุกคนที่มีหัวใจรักการแต่งหน้า แต่เพื่อปกป้องผิวก็อย่าลืมพิจารณาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ตัวนี้ และเลือกมาบำรุงผิวหน้าก่อนแต่งหน้าจริงกันนะ 

8. Banana Boat – Ultra Protect Sunscreen Lotion SPF50+/PA+++

ครีมกันแดดที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก

ข้อดี
ข้อเสีย

ส่วนคุณแม่คุณพ่อคนไหนกำลังมองหาผลิตภัณฑ์กันแดดที่เหมาะกับลูกที่กำลังอยู่ในวัยชอบเล่นซนอยากรู้อยากลองไปหมด จะห้ามว่าออกไปเล่นกลางแจ้งเดี๋ยวไม่สบายก็ไม่อาจห้ามได้แล้ว ดังนั้นการหาตัวช่วยอย่างโลชั่นกันแดดซักตัว เพื่อช่วยปกป้องผิวของเด็กน้อย ก็ย่อมเป็นทางเลือกที่ดี ซึ่งทางแบรนด์ได้เคลมไว้ว่า สามารถใช้ได้ในเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 2 ขวบขึ้นไป หรือผู้ใหญ่ที่มีผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้

เป็นโลชั่นกันแดดที่มี SPF50+ และ PA+++ ที่ลดปริมาณสารเคมีในสูตรลงถึง 25% ไม่มีพาราเบน น้ำมัน น้ำหอม สารกลุ่ม oxybenzone จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการแพ้ และการการระคายเคืองกับเด็กของเด็ก ๆ รวมทั้งทางแบรนด์ยังเคลมอีกว่าไม่แสบตาด้วย และยังสามารถกันน้ำกันเหงื่อได้อย่างดี เหมาะกับการออกไปวิ่งเล่นกลางแดด หรือ ว่ายน้ำ ลงทะเล สร้างประสาททรายใด ๆ ก็ทำได้ พูดมาถึงขนาดนี้ หวังว่าคุณพ่อคุณแม่ จะแอบเก็บผลิตภัณฑ์ตัวนี้ ไปเป็นลิสต์ในใจของการไปเที่ยวกับลูก ๆ ครั้งต่อไปกันแล้ว

9. KA – UV Extreme Protection Spray

สเปรย์กันแดดที่ดีที่สุด

ข้อดี
ข้อเสีย

ผลิตภัณฑ์กันแดดตัวสุดท้ายก็มาในรูปแบบที่แตกต่างจากที่กล่าวมา คือมาในรูปแบบของสเปรย์ เหมาะกับทุกสภาพผิว พ่นได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย แล้วยิ่งหากคุณเป็นคนที่เหงื่อออกง่าย ต้องเจอแสงแดด และมลภาวะอยู่บ่อย ๆ หรือออกกำลังกายกลางแจ้งเป็นประจำ ขอแนะนำกันแดดในรูปแบบสเปรย์ตัวนี้ไว้ให้พิจารณาเลย เพราะทางแบรนด์เองก็โด่งดังในเรื่องของผลิตภัณฑ์กันแดดทั้งแบบครีมและโลชั่นเรื่องประสิทธิภาพก็ไม่ต้องกังวลไป

สามารถปกป้องได้ทั้งรังสี UVA/UVB รังสีอินฟราเรด และมลภาวะต่าง ๆ ได้อีกด้วย รวมถึงทางแบรนด์ยังใช้นวัตกรรม EX-Solar TM Protection มาใช้ รับรองว่าประสิทธิภาพการปกป้องครอบคลุมทุกผิวได้อย่างดี ไม่ต้องเสียเวลาบีบครีมใส่มือแล้วทา เนื้อสัมผัสของสเปรย์ก็เบาสบายซึมไว นุ่มราวกับละอองนุ่ม ไม่มัน ไม่ทิ้งคราวขาว ให้ดูขาววอก กันน้ำ กันเหงื่อได้ดี และที่สำคัญสามารถสเปรย์เพิ่มได้ระหว่างวันแม้ผิวจะมีเหงื่ออยู่ เหมาะกับคนที่ต้องเจอแสงแดดบ่อย ๆ แล้วต้องการความสะดวกสบายในการใช้ขอแนะนำสิ่งนี้เลย

คู่มือการซื้อครีมกันแดด

คู่มือการซื้อครีมกันแดด

วิธีการเลือกซื้อครีมกันแดดที่ดีที่สุดมาใช้ ให้เหมาะสำหรับสภาพผิวของคุณ

สำหรับการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์กันแดดซักยี่ห้อหนึ่งนอกจากราคาหรือโปรโมชั่นที่สะดุดตา ล่อตาล่อใจหลายคนให้ซื้อแล้วนั้น อาจต้องพิจารณาถึงประสิทธิภาพ และความเหมาะสมกับผิวและกิจกรรมการใช้ชีวิตของผู้ใช้ร่วมด้วย จึงจะเหมาะสม และคุ้มค่ามากที่สุด โดยสิ่งที่เราจะเสนอต่อไปนี้ เป็นจุดเล็ก ๆ ที่อยากให้ทุกคนลองสังเกตบนผลิตภัณฑ์ก่อนเลือกซื้อมาใช้ 

การป้องกันคลื่นความถี่กว้าง

ที่มักเห็นเขียนบนฉลากผลิตภัณฑ์ คำนี้สื่อถึงว่า ผลิตภัณฑ์กันแดดที่เลือกซื้อ ควรมีประสิทธิภาพในการป้องกันอันตรายจากรังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้หลายความยาวคลื่น ยกตัวอย่างรังสีที่อันตรายต่อผิว เช่น UVA, UVB, Infrared เป็นต้น ซึ่งโดยทั่วไป อย่างน้อยครีมกันแดดควรป้องกันครอบคลุมทั้ง UVA และ UVB ที่อยู่ในแสงแดด ถึงจะเคลมว่าเป็นครีมกันแดดที่สามารถป้องกันคลื่นความถี่กว้างได้

ค่า SPF และ ค่า PA

มาดูทีละค่า เริ่มที่ SPF ซึ่งเป็นค่าที่บอกความสามารถของครีมกันแดดว่ามีสามารถป้องกันการไหม้แดงของผิว ที่เกิดจากรังสี UVB ได้มากน้อยแค่ไหน โดยพิจารณาจากว่า หากเราทาครีมกันแดดตัวนี้ก่อนออกไปอยู่กลางแดดจัด ๆ ใช้เวลานานแค่ไหน ผิวถึงจะไหม้แดงเมื่อเทียบกับกรณีที่ไม่ได้ทากันแดด ดังนั้นค่ายิ่งสูงยิ่งป้องกันได้นาน แต่ที่แนะนำเบื้องต้นอยู่ที่ SPF 30 เป็นต้นไปก็เพียงพอ ส่วนค่า PA คือ ค่าที่แสดงระดับความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสี UVA ที่ทำลายชั้นผิวลึก ๆ

โดยพิจารณาว่าหากทากันแดดไปเจอแสง สามารถช่วยป้องกันความหมองคล้ำได้มากน้อยแค่ไหนเมื่อเทียบกับกรณีที่ไม่ได้ทาครีมกันแดด ดังนั้น หากค่ายิ่งสูง ยิ่งป้องกันได้ดี แนะนำอยู่ที่ PA+++ ไม่จำเป็นต้องหาสูตรที่ SPF และ PA สูง ๆ เสมอไป เพราะต้องลองพิจารณาประกอบกับกิจกรรมที่ทำว่าอยู่กลางแจ้งหรือไม่ เจอแดดบ่อยแค่ไหน แต่ละครั้งเจอแดดนานไหมมาเกี่ยวข้องด้วย

ความสามารถในการกันน้ำ และกันเหงื่อ

โดยเฉพาะคนที่มีกิจกรรมระหว่างวัน ต้องเผชิญกับแดดจ้า และอากาศร้อนบ่อย ๆ หรือนักกีฬากลางแจ้ง รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ชอบไปเที่ยวทะเลบ่อย ๆ ควรมองหาผลิตภัณฑ์กันแดดที่เคลมเรื่องของการกันน้ำ กันเหงื่อไว้ด้วย แต่หากใครเป็นสายนั่งออฟฟิศชิว ๆ อาจจะไม่ต้องพิจารณาส่วนนี้มักก็ได้

ประเภทของครีมกันแดด

  • เนื้อโลชั่น เนื้อสัมผัสมีความเหลว ไหลลื่นไปกับผิว มักจะทาง่าย ซึมเร็วเหมาะกับทาผิวบริเวณกว้างอย่างทั่วร่างกาย
  • เนื้อครีม เนื้อสัมผัสจะมีความเหนอะ การไหลมาเทียบกับโลชั่นจะไหลได้น้อยกว่า มักมีส่วนประกอบของสารให้ความชุ่มชื้นกับผิว เหมาะกับผิวหน้าที่แห้ง หรือผิวบริเวณอื่น ๆ ที่แห้งก็ทาได้
  • เนื้อเจล เนื้อสัมผัสจะมีความไม่เหนอะหนะ เกลี่ยง่าย ซึมไว บางสูตรไร้สี ไม่ต้องกังวลทิ้งคราบ เหมาะกับคนผิวมัน และเป็นสกินแคร์ก่อนแต่งหน้า
  • รูปแบบสเปรย์ เนื้อสัมผัสเป็นละอองฝอย ฉีดสเปรย์ได้ครอบคลุมทุกบริเวณผิว แห้งเร็ว ไม่ต้องเลอะมือเยอะ เหมาะกับคนที่ออกกำลังกายกลางแจ้งบ่อย ๆ ต้องการเติมระหว่างวัน เน้นความสะดวก
  • รูปแบบแท่ง เนื้อสัมผัสมันจะมีความเหนอะ หนืด เกลี่ยบนผิวค่อนข้างยากกว่าสูตรอื่น ๆ แต่มีดีตรงพกพาง่าย เติมระหว่างวันได้

ครีมกันแดดชนิดเคมี  vs ครีมกันแดดชนิดกายภาพ

ครีมกันแดดชนิดเคมี (Chemical Sunscreen) และ ครีมกันแดดชนิดกายภาพ (Physical Sunscreen) มีความต่างกันที่ส่วนประกอบที่เป็นสารกันแดดที่มีกลไกในการปกป้องผิวจากแสงแดดแตกต่างกัน ทั้งนี้โดยส่วนมากผลิตภัณฑ์กันแดดมักทำออกมาในรูปแบบผสมทั้งสารแบบที่เป็นชนิดเคมี และชนิดกายภาพผสมกัน เริ่มอธิบายจาก ครีมกันแดดชนิดเคมี ก่อน ซึ่งครีมกันแดดชนิดนี้ จะมีสารกันแดดที่ช่วยดูดซับรังสีที่มาตกกระผิวชั้นนอกสุดไว้

ไม่ให้เข้ามาที่ชั้นผิวได้ เช่น octyl salicylate, octyl methoxycinnamate เป็นต้น แต่ข้อเสียคือมักทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว อาจก่อให้เกิดการแพ้ได้ ส่วนครีมกันแดดชนิดกายภาพ จะมีสารกันแดดที่ช่วยสะท้อนรังสีออกจากผิว ที่จะเห็นส่วนประกอบของครีมกันแดดชนิดนี้ก็คือจะมีพวก Titanium Dioxide และ Zinc Oxide อยู่ด้วย แต่มันก็ยังมีข้อเสียในความที่จะมีความขาววอกไป บวกกับบางสูตรมีสารพวกนี้มากเกินไป มันจะรู้สึกทาแล้วมันฝืด ๆ เกลี่ยยาก ไม่ถูกใจสำหรับบางคนได้

รู้จักประเภทผิวของคุณ

ผิวของคนเรามีความแตกต่างกันไป ซึ่งหากต้องการทราบว่าผิวของแต่ละคนมีลักษณะอย่างไรต้องใช้แบบทดสอบสภาพผิว เพื่อเป็นเครื่องมือประเมิน สาเหตุที่แต่ละคนควรรู้สภาพผิวของตนเอง ก็เพื่อที่จะให้เลือกบำรุงผิวหน้า หรือเลือกสกินแคร์ให้เหมาะสม ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เห็นผลลัพธ์ตามที่ต้องการ

ทั้งนี้ต้องขออธิบายเกี่ยวกับผิวปกติก่อนว่า มันคือผิวที่มีลักษณะที่มีความสมดุลระหว่างความมันและความแห้งแบบพอดี ๆ แต่ก็ยังมีสภาพผิวอื่น ๆ ที่ควรรู้จักกัน โดยสภาพผิวที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อเทียบกับสภาวะของผิวปกติแล้ว แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้

ผิวมัน

เป็นผิวที่ต่อมผลิตน้ำมันใต้ผิวหนังทำงานผิดปกติ ผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป จะเห็นว่าหน้าจะมันบ่อย ๆ รูขุมขนจะกว้าง มักพบสิวขึ้นบ่อย หากพิจารณาเลือกผลิตภัณฑ์กันแดด อาจต้องเน้นเรื่องของสูตรที่ปราศจากน้ำมัน และช่วยคุมความมัน เพื่อไม่ให้หน้ามันเกินไป

ผิวแห้ง

เป็นผิวที่ชั้นผิวเสียความชุ่มชื้นไป รวมถึงได้รับการถูกทำร้ายและทำลาย จากแสงแดดและมลภาวะ มักพบว่าผู้ที่มีผิวแห้ง จะให้ผิวมีความแห้งแตกหยาบกร้าน จับไปรู้สึกแข็ง ๆ ไม่นุ่มเด้ง มีขุยขาว ๆ ผิวดูหมองกว่าปกติ  หากพิจารณาเลือกผลิตภัณฑ์กันแดด ที่มีคุณประโยชน์ในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และปกป้องผิวจากมลภาวะอื่น ๆ ร่วมกับการปกป้องแสงแดดเพียงอย่างเดียว

ผิวผสม

เป็นผิวที่มีทั้งผิวปกติ ผิวมัน ผิวแห้ง อยู่บริเวณเดียวกันอย่างบนใบหน้าของคนผิวผสม ก็จะมีผิวมันบริเวณทีโซนเป็นหลัก มีใกล้ ๆ จมูกอาจเป็นผิวแห้ง หากพิจารณาเลือกผลิตภัณฑ์กันแดด ก็ต้องเน้นว่าหนึ่งผลิตภัณฑ์เคลมเรื่องการคุมความมัน และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ด้วย

Best Sunscreen

คำถามและคำตอบ

ฉันควรทาครีมกันแดดซ้ำบ่อยแค่ไหน

โดยปกติแล้วหากทากันแดดตามคำแนะนำที่เหมาะสมคือ ทาก่อนออกแดดประมาณ 30-60 นาทีก่อนออกไปเจอแดด ก็ควรกลับมาทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง แต่ทว่าหากคุณไปทำกิจกรรมที่เจอน้ำเยอะ ๆ เช่นเล่นน้ำสงกรานต์ ว่ายน้ำ เป็นต้น หรือกิจกรรมที่ทำกลางแจ้ง แดดร้อน ๆ เหงื่อออกเยอะ ก็ควรที่ทาซ้ำบ่อย ประมาณทุก ๆ 1 ชั่วโมง หรือ 1 ชั่วโมงครึ่งแทน เพราะกิจกรรมเหล่านั้นอาจทำให้กันแดดหลุดออกไปได้ 

คนผิวคล้ำต้องการครีมกันแดดหรือไม่?

 คนผิวคล้ำ แม้ว่าหากเกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระต่าง ๆ อาจมองไม่เห็นชัดเท่ากับคนผิวขาวกว่า แต่ทว่าอันตรายจากแสงแดดก็ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวอยู่ดี ทั้งอาจก่อให้เกิดผิวแห้งกร้าน หรือริ้วรอยก่อนวัยอันควร ที่อันตรายไปอีกขั้นคือหากปล่อยละเลยอาจเกิดเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้ จึงแนะนำว่าในคนผิวคล้ำก็ยังควรทาครีมกันแดดเหมือนกัน โดยหากกังวลเรื่องผิวขาววอก อาจพิจารณาเลือกซื้อครีมกันแดดที่เกลี่ยง่าย ซึมไว เคลมว่าไม่ทำให้ขาววอก ทาแล้วกลืนเข้ากับผิวได้ทุกสีผิว

Photo of author

Sutthida

สุทธิดามีใจรักในการเขียนและทำอาหาร หลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เธอตัดสินใจหางานทำวารสารศาสตร์ เธอใฝ่ฝันที่จะอาศัยอยู่ริมชายหาดพร้อมระเบียงที่มองเห็นวิวทะเล เธอชอบติดตามผู้มีอิทธิพลในโซเชียลมีเดียบน Instagram หรือดูรายการทีวีหรือภาพยนตร์ในเวลาว่าง