9 ครีมรักษาฝ้าที่ดีที่สุดช่วยลดจุดด่างอายุและซ่อมแซมผิวที่เสียหาย 2024

ปัญหาฝ้า เป็นหนึ่งในปัญหาผิวหน้าที่ทำให้หลายคนกังวลใจ รู้สึกไม่มั่นใจ เป็นปัญหาผิวที่พบเจอได้ไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือเพศหญิง แม้แต่งหน้ากลบก็ยังรู้สึกว่าไม่มั่นใจ กลัวรอยดำจากฝ้าจะโผล่ออกมาให้ใครต่อใครเห็น ซึ่งจริง ๆ แล้วสาเหตุการเกิดฝ้านั้น มีได้หลายเหตุ 

เช่น แสงแดดทำร้ายชั้นผิว พันธุกรรม การทานยาคุมกำเนิด เป็นต้น ที่สาเหตุที่มักเป็นตัวต้นเหตุหลัก นั่นก็คือ แสงแดด ที่เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะฤดูไหน ๆ แสงแดดก็พร้อมแผดเผาทำลายชั้นผิวได้ตลอด ทำให้หลายคนที่เริ่มมีฝ้า ต้องตามหา ครีมรักษาฝ้าที่ดีที่สุด มาใช้สำหรับตนเอง บทความนี้จะมาแนะนำครีมท้าฝ้าให้กับทุกคนได้เป็นตัวเลือก ติดตามกันได้เลย

9 ครีมทาฝ้า

1. ลดเลือนจุดด่างดำที่ดีที่สุดNivea  Lazada/Shopee
2. ป้องกันรังสี UVA
Amela Ex Lazada/Shopee
3. ครีมที่ดีที่สุดประจำวันConcept  Lazada/Shopee
4. สำหรับผิวแพ้ง่ายProX by Olay Lazada/Shopee
5. โทนเนอร์รักษาฝ้าที่ดีที่สุดOleHenriksen Lazada/Shopee
6. ครีมลดฝ้าผิวสองสีที่ดีที่สุด: Wuttisak Lazada/Shopee
7. งบประมาณที่ดีYanhee Lazada/Shopee
8. ตัวแก้ไขจุดด่างดำที่ดีที่สุด: Eucerin Lazada/Shopee
9. มาร์คต่อต้านฝ้าข้ามคืนที่ดีที่สุด: Provamed Lazada/Shopee

  • ครีมกันแดด ยี่ห้อไหนดีที่จะซื้อในปีนี้
  • แนะนำ Eucerin อะไรดี ปี 2023 ลดสิว ฝ้า กระและจุดด่างดำ

ครีมทาฝ้ายี่ห้อไหนดี 2024

1. Nivea – Luminous630 Spotclear Treatment

ครีมลดเลือนจุดด่างดำที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • เหมาะกับผู้มีปัญหาฝ้าสะสมนาน และช่วยป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
  • นอกจากช่วยลดฝ้า ยังช่วยฟื้นบำรุงผิวให้ดูมีสุขภาพดี
  • เกลี่ยง่ายซึมไวไม่เหนอะหนะ
ข้อเสีย

ทรีทเม้นท์ของนีเวียสูตรนี้บอกเลยว่า ใครที่มีปัญหาฝ้ารุมเร้า สะสมมาเป็นเวลานานนี่ต้องเลือกซื้อเลือกหามาไว้เลย เพราะทางแบรนด์นี้เขาได้เคลมประสิทธิภาพของส่วนผสม Luminous 630 ในการรักษาฝ้าแดดที่สะสมมานานกว่า 10 ปีให้แลดูลดเลือนจางลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อใช้ต่อเนื่องกัน 4 สัปดาห์ คำเคลมนี้ไม่ได้มาเล่น ๆ นะ มาจากผลการวิจัยที่ทางแบรนด์ทำร่วมกับแพทย์ผิวหนัง แถมกลุ่มประชากรยังเป็นหญิงไทยอีก เรียกได้ว่าเหมาะมาก ๆ ที่สาว ๆ

ชาวไทยที่มีปัญหาฝ้า กวนใจต้องไปตำ และหากกังวลว่าคุณสมบัติดีเลิศขนาดนี้จะมีฤทธิ์รุนแรงกัดหน้า ผิวลอก บอกเลยว่าตัวนี้ไม่มีผลข้างเคียงให้ต้องคิดมาก และทรีตเมนท์เนื้อ 2 สีนี้ ยังผสานความดีงามจากวิตามินอี และไฮยาลูรอน ช่วยให้รู้ขุมขนดูกระชับ ผิวอิ่มฟู ชุ่มชื่น ดูสุขภาพดีอีกด้วย เนื้อสัมผัสบางเบา ทาได้เช้าเย็น แพ็กเกจใช้ง่ายเพียงกดหัวปั๊มลงบนมือ แต้มไปยังผิวหน้าแล้วเกลี่ย เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนอะหนะ แม้ว่าทางแบรนด์จะโดดเด่นเรื่องรักษาฝ้าสะสมแต่หากใครที่เริ่มเป็นฝ้าก็หามาใช้ได้

2. Amela Ex – Anti Melasma Cream

สุดยอดครีมฝ้าที่มีสารป้องกันรังสี UVA

ข้อดี
  • เหมาะกับผู้ที่มีรอยด่างดำ และป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
  • สามารถช่วยลดริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้ด้วย
  • เนื้อบางเบาเกลี่ยง่าย
ข้อเสีย

อีกหนึ่งครีมทาแก้ฝ้าที่ใคร ๆ ก็ต้องหามาจับจอง เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีรอยด่างดำบนหน้า จะเป็นฝ้าหรือกระ รวมถึงริ้วรอยต้องบอกว่าทางแบรนด์นี้เขาเคลมไว้หมดเลยว่าสามารถลดเลือนปัญหารอยด่างดำ ฝ้ากระ ริ้วรอยก่อนวัยได้  ความโดดเด่นของนวัตกรรมที่เอกสิทธิ์เฉพาะของทางแบรนด์ อย่าง PEM-C™ (Pazana Effective Melanin Control) ที่ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารทางวิชาการด้านการแพทย์ระดับนานาชาติ อย่าง Current Therapeutic Research 2010

ซึ่งได้เคลมไว้ว่าผลิตภัณฑ์นี้ช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิวใต้ผิวหนังที่มากผิดปกติ อันเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า ทำให้ฝ้า รอยดำต่าง ๆ แลดูจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ แถมปราศจากอันตรายต่อผิว ในด้านประสิทธิภาพการปกป้องผิวจากแสงแดดที่มี UV ตัวร้าย ทั้ง UVA และ UVB ผลิตภัณฑ์นี้ก็มี ค่า PA +++ และ SPF 50+ ช่วยป้องกันไม่ให้ถูกทำลายจนเสื่อมสภาพนำไปสู่การเกิดริ้วรอยก่อนวัย และยังปกป้องผิวไม่ให้หมองคล้ำ บวกกับฤทธิ์ของสารสกัดจากธรรมชาติอย่าง Alpaflor Extracts ที่ช่วยลดอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวทำให้เกิดริ้วรอย และจุดด่างดำ เนื้อสัมผัสบางเบา ทาได้ทั้งเช้าและเย็น

3. Concept – Anti Melasma Cream 

ครีมต่อต้านฝ้าที่ดีที่สุดประจำวัน

ข้อดี
  • มี alpha-arbutin สูง และมีสารสกัดที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีได้อย่างดีหลากหลายตัวผสมกัน
  • เนื้อบางเบาซึมไว 
ข้อเสีย
  • ตัวครีมเข้มข้นล้างออกค่อนข้างยาก

หนึ่งในครีมรักษาฝ้าที่ใครหลายคนตามหาในหลายแหล่งช้อปปิ้งคงต้องมีลิสต์ของครีมสูตรนี้ เป็นครีมที่มีส่วนผสมที่ผสมผสานกันมาเพื่อเน้นการรักษาฝ้า กระ รอยดำให้ดูจางลง ไม่ว่าจะเป็น alpha-arbutin 1.2 % ในสูตร ช่วยให้ฝ้า รอยด่างดำ แลดูจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ได้แบบทาปุ๊บขาวขึ้นทันที แต่หากใช้ติดต่อกันอย่างน้อย 3 สัปดาห์ก็จะเห็นผล รวมทั้งยังมีสรรพคุณจากสารสกัดจากพืช อย่างสารสกัดจากว่านหางจระเข้

สารสกัดจากหญ้าคา และวิตามิน ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ให้ผิวดูสุขภาพดี และ วิตามิน บี 3 บวกกับสารสกัดจากชะเอม สารสกัดจากเมล็ดถั่ว โอดีเอ ไวท์ ที่ช่วยเสริมให้หน้าดูขาวสว่างกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติไม่ใช่ขาววอก ไม่ต้องกังวลจากอาการข้างเคียงพวกผิวบางหรือผิวลอก เพราะ ผลิตภัณฑ์นี้ปราศจากสารไฮโดรควิโนน, สารปรอท และ กรดเรทิโนอิก ที่เป็นสาเหตุของอาการข้างเคียงดังกล่าว เนื้อครีมสีขาว บางเบา ซึมไว ทาแล้วไม่รู้สึกหนักหน้า ทาทั่ว ๆ หน้าและเน้นที่เป็นฝ้า ทาได้ทั้งเช้าและเย็น ควรค่าแก่การมีมาติดบ้าน

4. ProX by Olay – Brightening Spot Essence Serum

ครีมทาฝ้าที่ดีที่สุดสำหรับผิวแพ้ง่าย

ข้อดี
  • เนื้อเป็นแบบเซรั่มใส ๆ ไม่เหมือนครีมทาแก้ฝ้ารุ่นอื่น ๆ 
  • เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย 
  • นอกจากช่วยเรื่องลดเลือนริ้วรอย ยังช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
ข้อเสีย

มาแหวกแนวจากครีมทาฝ้าตัวอื่น ๆ เพราะตัวนี้มาด้วยเนื้อเซรั่ม ไม่ใช่เนื้อครีมเหมือนยี่ห้อที่กล่าวมา สัมผัสได้ถึงความเบาบาง เกลี่ยง่าย ซึมไวอย่างแน่นอน เห็นเป็นเซรั่มใส ๆ แบบนี้ไม่ต้องกังวลว่าประสิทธิภาพการลดเลือนมันจะไม่มีเหมือนพวกสูตรครีมสีขาวทึบ ๆ เพราะว่ากว่าจะได้เจ้าเซรั่มนี้ออกมาทีมนักวิจัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ที่ศึกษาเข้าใจไปยันระดับจีโนมของชั้นผิว ได้ร่วมกันคิดหาส่วนผสมสำคัญ หาสูตรที่เหมาะสมและได้ทำงานวิจัยรองรับด้านประสิทธิภาพการลดเลือนจุดด่างดำ เผยผิวให้ขาวสว่างกระจ่างใส ด้วยเทคโนโลยีที่คิดค้นอย่าง

SACCHARINA-GLY-N COMPLEX ซึ่งเป็นคอมเพล็กซ์จากสารสกัดจากสาหร่ายสีน้ำตาล Laminaria Saccharina จากประเทศฝรั่งเศส ผสานเข้ากับ Undecylenoyl Phenylalanine จึงช่วยลดเลือนการเปลี่ยนแปลงของสีผิวได้อย่างดีเยี่ยม และป้องกันการเกิดจุดด่างดำ นอกจากนี้ในเซรั่มยังมี Niacinamide ที่ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น รูขุมขนกระชับ ผิวดูเรียบเนียน สีผิวดูสม่ำเสมอ ใช้ต่อเนื่องอย่างน้อยสองสัปดาห์จะเห็นผลได้ดี และหากใครที่เป็นคนผิวแพ้ง่าย โดยเฉพาะแพ้พวกน้ำหอม ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะกับคุณแน่นอน เพราะทางแบรนด์เคลมไว้เลยว่าปราศจากน้ำหอม 100%

5. OleHenriksen – Glow2OH Dark Spot Toner

โทนเนอร์รักษาฝ้าที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • รูปแบบแปลกใหม่มาในรูปแบบโทนเนอร์น้ำ เช็ดทำความสะอาดผิว 
  • เหมาะกับผู้ที่ตามหาผลิตภัณฑ์ที่อัดแน่นด้วยสารสกัดจากพืช 
ข้อเสีย

ช่วยบำรุงให้ผมเงางามอยู่ตลอด เพียงแค่สระและทิ้งไว้แค่ 3 นาทีเท่านั้น ทุกคนก็จะเนรมิตผมนิ่มสลวย บำรุงได้ถึงรากผมและหนักศีรษะช่วยเสริมความแข็งแร่งให้กับเส้นผม ไม่ว่าจะประสบปัญหาเส้นผมรูปแบบไหนทั้งผมแตกปลาย ผมไม่มีน้ำหนัก รังแค หรือผมขาดหลุดร่วง ทุกปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมเคราตินตัวนี้สามารถจัดการได้ทั้งหมด

เคราตินหมักผมที่เราจะแนะนำว่าดีที่สุดสำหรับผมธรรมดาคือเคราตินของแบรนด์ JOJI Charcoal Keratin ซึ่งต้องบอกเลยว่าตัวนี้ทำความสะอาดเส้นผมและความมันได้อยู่มัด มีส่วนผสมหลัก 3 ชนิด คือ ผงชาโคลที่จะช่วยดูดซับสิ่งสกปรก เคราตินที่ช่วยบำรุงเส้นผม และสารสกัดเมล็ดมะรุมที่จะลดการขาดหลุดร่วง เนื้อเคราตินมีความหนาแน่นเข้มข้น กลิ่นหอมติดทน ที่สำคัญการที่เลือกใช้สารสกัดจากธรรมชาติทำให้เหมาะกับผมธรรมดา

6. Wuttisak – Arbutin White Plus Cream

ครีมลดฝ้าผิวสองสีที่ดีที่สุดสำหรับฝ้า

ข้อดี
  • เหมาะกับผู้ที่ตามหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบเป็นออร์กานิก และผู้มีผิวแพ้ง่าย
  • ราคาจับต้องได้ คุ้มค่าคุ้มราคา
ข้อเสีย

หากจะมองหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยลดเลือนฝ้าที่เกิดจากการสร้างเม็ดสีเมลานินที่เพิ่มมากขึ้นและสะสมจนทำให้เกิดความหมองคล้ำ คงจะต้องมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีสารลดการสร้างเม็ดสีเพื่อยับยั้งที่ต้นต่อของความหมองคล้ำ และผลิตภัณฑ์นั้นควรได้รับการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้รู้สึกว่ามีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย  ทางแบรนด์วุฒิศักด์เอง ก็ขึ้นชื่อเรื่องความชำนาญด้านการดูแลผิว จึงได้มีผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากมะนาวคาเวียร์จากออสเตรเลีย ช่วยผลัดเซลล์ผิวให้ผิวเตรียมพร้อมสำหรับซึมซับส่วนผสมอื่น ๆ ได้ดี

ยังมี alpha-arbutin จากเกาหลี และวิตามินบี 3 ที่มีฤทธิ์ลดการสร้างเม็ดสี คืนความกระจ่างใจให้ผิวพรรณดูมีสุขภาพดี รวมกับ hyaluronic acid และสารสกัดจากชะเอมเทศจากประเทศญี่ปุ่น ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวอย่างอ่อนโยน นอกจากฝ้าแล้วยังช่วยลดเลือนจุดด่างดำ กระ ให้ดูจางลงอีกด้วย และเหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย เพราะผลิตภัณฑ์นี้มีสารสกัดจากธรรมชาติที่เป็นแบบออร์แกนิค รวมทั้งปราศจากน้ำหอม และพาราเบนในสูตรด้วย สามารถทาได้เป็นประจำเช้าเย็น 

7. Yanhee – Mela Cream

ครีมลดฝ้า งบประมาณที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • เหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย และหวังผลการฟื้นฟูผิวให้ดูขาวกระจ่างใส
  • ราคาถูก
ข้อเสีย

หลายยี่ห้อที่ผ่านมาราคาอาจจะอยู่ที่เกือบ 300++ อาจจะสูงไปสำหรับบางคน อีกหนึ่งทางเลือกครีมทาฝ้าในราคาพอกรุบกริบหลักร้อยต้น ๆ ก็คงต้องเป็นครีมทาฝ้าของยันฮีหลอดนี้ เคลียร์ได้ทั้งฝ้า กระ จุดด่างดำ และเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในเมืองไทยแนะนำ เห็นผลรอยด่างดำลดเลือนลงได้ภายใน 2 สัปดาห์ หากใช้อย่างต่อเนื่อง ครีมตัวนี้เป็นสูตรที่อุดมไปด้วยสารสกัดเข้มข้นที่ออกฤทธิ์ลดรอยด่างดำ แต่ก็ยังมีความอ่อนโยนต่อผิว ไม่ระคายเคืองผิว

ช่วยฟื้นฟูผิวให้ดีขึ้น ลดความหมองคล้ำ ทำใให้ผิวหน้าแลดูกระจ่างใสขึ้น แถมยังช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น สารสกัดเข้มข้นนั้นก็คือ Tranexamic acid และ Glycolic Acid กรดผลไม้ที่ช่วยผลัดผิวให้ดูขาวสว่างกระจ่างใส โดยเฉพาะบริเวณฝ้าจะเห็นได้ชัด ลดเลือนริ้วรอยได้อีกด้วย ผสมผสานกับ สารสกัดจากชะเอมเทศช่วยประโลมผิว และช่วยให้เผยผิวกระจ่างใส ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เนื้อครีมจะมีสีขาว เนื้อแอบหนักไปซักนิด ติดจะเหนอะหนะไปซักหน่อย แต่เมื่อลองเกลี่ยไปซักพักก็ยังเรียกว่าซึมไวอยู่

8. Eucerin – Anti-Pigment Spot Corrector

ตัวแก้ไขจุดด่างดำที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • เหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย 
  • เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเรื่องการลดเลือนจุดด่างดำมานาน และแพทย์ผิวหนังมักเลือกใช้
  • ราคาสูง แต่ถ้าเทียบว่าใช้ได้นานก็นับว่าคุ้มค่า
ข้อเสีย

หลายยี่ห้อที่ผ่านมาราคาอาจจะอยู่ที่เกือบ 300++ อาจจะสูงไปสำหรับบางคน อีกหนึ่งทางเลือกครีมทาฝ้าในราคาพอกรุบกริบหลักร้อยต้น ๆ ก็คงต้องเป็นครีมทาฝ้าของยันฮีหลอดนี้ เคลียร์ได้ทั้งฝ้า กระ จุดด่างดำ และเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในเมืองไทยแนะนำ เห็นผลรอยด่างดำลดเลือนลงได้ภายใน 2 สัปดาห์ หากใช้อย่างต่อเนื่อง ครีมตัวนี้เป็นสูตรที่อุดมไปด้วยสารสกัดเข้มข้นที่ออกฤทธิ์ลดรอยด่างดำ แต่ก็ยังมีความอ่อนโยนต่อผิว

ไม่ระคายเคืองผิว ช่วยฟื้นฟูผิวให้ดีขึ้น ลดความหมองคล้ำ ทำใให้ผิวหน้าแลดูกระจ่างใสขึ้น แถมยังช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น สารสกัดเข้มข้นนั้นก็คือ Tranexamic acid และ Glycolic Acid กรดผลไม้ที่ช่วยผลัดผิวให้ดูขาวสว่างกระจ่างใส โดยเฉพาะบริเวณฝ้าจะเห็นได้ชัด ลดเลือนริ้วรอยได้อีกด้วย ผสมผสานกับ สารสกัดจากชะเอมเทศช่วยประโลมผิว และช่วยให้เผยผิวกระจ่างใส ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เนื้อครีมจะมีสีขาว เนื้อแอบหนักไปซักนิด ติดจะเหนอะหนะไปซักหน่อย แต่เมื่อลองเกลี่ยไปซักพักก็ยังเรียกว่าซึมไวอยู่

9. Provamed – Anti Melasma Overnight Mask

มาร์คต่อต้านฝ้าข้ามคืนที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • เหมาะกับผู้ที่หวังผลทั้งลดเลือนฝ้า และช่วยฟื้นบำรุงผิวให้กลับมาดูมีชีวิตชีวา ราคาความคุ้มค่าอยู่ในระดับดี
ข้อเสีย

ปิดท้ายด้วยผลิตภัณฑ์ลดเลือนความหมองคล้ำจากฝ้า กระ จุดด่างดำ ที่มาในรูปแบบของมาส์กที่ใช้มาส์กทิ้งไว้ข้ามคืน ถึงแม้อาจจะลดเลือนจุดด่างดำไม่ได้เห็นผลทันตาชั่วข้ามคืน แต่ผิวหน้าดูเรียบเนียนและดูกระจ่างใสแลดูอิ่มน้ำขึ้นจริงหลังตื่นนอน ด้วยผลิตภัณฑ์นี้อุดมไปด้วยสารสำคัญหลากหลายชนิดที่มีหลากหลายกลไกทั้งช่วยลดการสร้างเม็ดสี ช่วยผลัดเซลล์ผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว อย่างTranexamic Acid, Alpha Arbutin, Niacinamide

รวมถึงสาร Nanowhite ที่ช่วยลดจุดด่างดำ ฝ้า กระ ให้แลดูจางลง โดยเฉพาะ และยังมี Hydractin สารสำคัญที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะโปรวาเมด ที่โด่งดังเรื่องการช่วยเติมพลังให้กับผิว และมอบความชุ่มชื้นให้กับผิวทันทีหลังตื่นนอน พร้อมกับสารสกัดจากว่านหางจระเข้ ที่ช่วยบำรุงผิวให้สดใสเนียนนุ่มเด้ง ทำให้ใครที่มีปัญหาหน้าล้า หน้าแห้งกลับมารู้สึกว่าหน้าเฟรชพร้อมต้อนรับวันใหม่ เนื้อสัมผัสจะเป็นเจลเข้มข้น ทาทั่วหน้า อาจต้องใช้เวลาซักพักถึงจะรู้สึกว่าซึมเข้าหน้าแล้ว แต่ด้วยความที่มาส์กแบบไม่ต้องล้างออก หลังจากทาแม้จะยังซึมไม่หมดก็หลับตานอนหงายเข้าสู่นิทราไปได้เลย

ครีมรักษาฝ้า คู่มือการซื้อ

ครีมรักษาฝ้า คู่มือการซื้อ

ฝ้าคืออะไร

ฝ้า คือ หนึ่งในปัญหาผิวที่มักเกิดขึ้นบนใบหน้า ซึ่งเกิดจากการสร้างเม็ดสีที่ชื่อว่า เมลานิน ที่อยู่ในชั้นผิวหนังผิดไปจากปกติ โดยการสร้างเม็ดสีเหล่านั้น จะมีการสร้างจำนวนเพิ่มมากขึ้น 

และเซลล์ที่สร้างเมลานินก็ขยันทำงานขึ้นมากผิดปกติด้วย จนทำให้เห็นเป็นปื้นหรือแผ่นสีน้ำตาล มีตั้งแต่ระดับอ่อนถึงเข้ม เห็นชัดเพราะมันมีสีต่างจากผิวเดิม หากเป็นแล้วค่อนข้างรักษายาก ต้องใช้เวลาและการรักษาหลายรูปแบบผสมผสานกันจึงจะเห็นผลดีและเร็วขึ้น

ใครบ้างที่เป็นฝ้าได้บ้าง

โดยปกติด้วยเชื้อชาติมักพบว่าชาวยุโรปมักพบการเกิดฝ้า แล้วเห็นได้ชัดมากกว่า คนเอเชีย หรืออาจบอกได้ว่าคนที่มีผิวขาว มักมีโอกาสเกิดฝ้าได้มากกว่าผิวเข้ม ฝ้านั้น สามารถพบได้ทั้งชายและหญิง แต่มักพบในเพศหญิงมากกว่า และช่วงวัยที่พบอยู่ประมาณวัยกลางคน อายุ 30-40 ปี 

สาเหตุหลักของฝ้าคืออะไร

ปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้านั้นมีหลากหลาย ตั้งแต่ปัจจัยด้านพันธุกรรมที่หากครอบครัวมีประวัติเป็นฝ้ามาหลายรุ่นคุณก็อาจจะเป็นได้ ปัจจัยภายในอีกอย่างหนึ่งก็คือ ปัจจัยด้านฮอร์โมนในร่างกายโดยเฉพาะในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ หรือรับประทานยาคุมกำเนิด ก็มักจะมีโอกาสเกิดฝ้าได้มาก นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น สารเคมีในเครื่องสำอาง

ความเครียด การอดนอน เป็นต้น แต่สาเหตุหลัก ๆ ที่มักจะทำให้เกิดฝ้าจริง ๆ แล้ว นั่นก็คือ แสงแดดที่แฝงไปด้วย UVA และ UVB รังสีที่ทำลายชั้นผิว และกระตุ้นให้เกิดฝ้า ทั้งที่เกิดแล้วเป็นมากขึ้นหายยาก และแม้หายแล้วเจ้ารังสีน่ากลัวทั้งสองก็ยังสามารถทำให้กลับมาเป็นฝ้าได้อีก นำไปสู่ที่มาในการบอกหนุ่มสาวว่า หากไม่อยากเป็นฝ้าก็อย่าลืมทากันแดดเพื่อป้องกัน UVA/UVB อย่างเป็นประจำ

ครีมทาเฉพาะที่สำหรับฝ้าทำงานอย่างไร

ต้องเกริ่นก่อนว่าจริง ๆ กลไกการทำงานของครีมทาฝ้าแบบเฉพาะที่นั้นก็มีหลายกลไก และตัวครีมเองก็มีแบบที่ใช้ในทางการรักษาในโรงพยาบาลคือมีตัวยาผสมอยู่ และแบบที่เป็นเวชสำอางหาซื้อตามร้านขายยา หรือร้านสะดวกซื้อทั่วไปได้ โดยกลไกการทำงานก็มีหลายรูปแบบ หากเป็นรูปแบบยาก็จะมียาที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสี ไม่ได้ทำลายเม็ดสีที่สร้างแล้วนะ เช่น ยาสเตียรอยด์ ยาไฮโดรควิโนน กรดวิตามินเอ ซึ่งหากเป็นครีมที่เป็นยานั้น

ต้องถูกสั่งจ่ายโดยแพทย์และติดตามอย่างใกล้ชิดเพราะผลข้างเคียงมันค่อนข้างรุนแรงหากซื้อใช้เอง และหากเป็นรูปแบบเวชสำอาง ก็จะมีสารที่มีกลไกลดการสร้างเม็ดสี แต่ผลข้างเคียงน้อยกว่า เช่น สารสกัดจากชะเอมเทศ อาร์บูติน วิตามินซี kojic acid เป็นต้น และบางทีอาจพบสารที่มีกลไกผลัดเซลล์ผิวผสมอยู่ด้วยเพื่อให้สารที่มีกลไกลดการสร้างเม็ดสีดูดซึมเข้าไปในชั้นผิวได้ดีขึ้น เช่น AHAs BHAs อาจทำให้รู้สึกแสบ ๆ นิด หากผลิตภัณฑ์นั้นผสมสารผลัดเซลล์ผิวมากเกินไป

นานแค่ไหนกว่าฝ้าจะหายไป

ในทางการแพทย์นั้น แบ่งฝ้าออกเป็นหลายระดับ และใช้วิธีการรักษาฝ้าแตกต่างกันไปในผู้ที่มีปัญหาผิวแต่ละราย ทั้งนี้ฝ้าแบบตื้นก็จะใช้เวลารักษาอย่างน้อยก็ต้อง 2 เดือนขึ้นไป โดยจะต้องใช้ยาตามแพทย์สั่งเสมอ และป้องกันตัวเองจากแสงแดด แต่หากเป็นฝ้าลึกและหนา บริเวณกว้างก็จะต้องใช้เวลารักษานานขึ้นไปอีก

ทั้งนี้ย้ำอีกครั้งว่าค่อนข้างตอบยากว่าฝ้าจะหายไปจริง ๆ แบบภายในกี่วันกี่เดือน ขึ้นอยู่กับทั้งพฤติกรรมป้องกันตัวเองจากแสงแดด ขจัดปัจจัยเสี่ยง หมั่นทายาหรือเวชสำอาง รวมถึงบางรายแพทย์พิจารณาใช้เลเซอร์เข้ามาช่วยระยะเวลาการทำให้ฝ้าหายไปก็จะต่างกัน

สิ่งที่ต้องมองหาเมื่อซื้อการรักษาฝ้า

หากจะต้องการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ด้วยตนเอง เน้นเป็นกลุ่มเวชสำอางเพื่อมารักษาฝ้า คำแนะนำแรกคืออย่างน้อยควรไปซื้อจากแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือ อย่างร้านยาที่มีเภสัชกรให้คำแนะนำ หรือร้านยา chain บนห้างที่มีพนักงานให้คำแนะนำของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ โดยเฉพาะ เพราะนอกจากจะได้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย

เภสัชกรก็จะสามารถช่วยประเมินระดับของปัญหาฝ้าว่าตื้นลึกมากแค่ไหน เพื่อช่วยเลือกเวชสำอางให้เหมาะกับคุณมากที่สุด แต่หากคุณเลือกซื้อเองตามหน้าร้านออนไลน์ มีความกังวลเรื่องความน่าเชื่อถือ ก็ต้องมองหาผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นทะเบียนจดแจ้งตามกฎหมายอย่างถูกต้อง สามารถนำเลขจดแจ้งไปเสิร์ชในเว็บอย.ได้ และต้องมองหาให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่มีไฮโดรควิโนน สเตียรอยด์ และกรดวิตามินเอ เพราะยาเหล่านี้ให้ใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

รวมถึงต้องไม่มีปรอทปนมา เพราะเจ้าตัวนี้มีพิษอันตรายอย่างมาก ผลิตภัณฑ์ไหนมีตัวนี้เจือปนถือว่าผิดกฎหมายด้วยนะ และอย่างสุดท้ายที่จะมองหานั่นก็ สารที่มีกลไกลดการสร้างเม็ดสี หรือช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น AHAs BHAs อาร์บูติน สารสกัดจากชะเอมเทศ รวมถึงสารสกัดจากธรรมชาติอื่น ๆ หรือสารที่เป็นนวัตกรรมเอกสิทธิ์เฉพาะของทางแบรนด์ที่มีงานวิจัยที่มีมาตรฐานรองรับ ว่าสามรถลดเลือนฝ้ากระจุดด่างดำได้จริง 

Best Blemish Cream

คำถามและคำตอบ

ควรไปพบแพทย์เกี่ยวกับฝ้าเมื่อใด

จริง ๆ แล้ว เมื่อพบว่าเริ่มมีจุดด่างดำเห็นชัดขึ้นบนใบหน้า ควรเริ่มไปปรึกษาแพทย์ เพราะคำว่า ปัญหาจุดด่างดำ มันมีทั้งฝ้าและกระ มีทั้งแบบตื้นลึกหนาบาง อาจต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญช่วยวินิจฉัย 
รับคำแนะนำจากแพทย์ เพื่อให้เกิดผลการรักษาที่ดีที่สุด ไม่ควรรอให้เป็นมากขึ้นค่อยไปรักษา เพราะหากยิ่งเป็นมาก ก็อาจจะต้องรักษานาน รักษาหลายวิธี อาจสิ้นเปลืองเงินมากกว่าเดิม

ทำไมผู้หญิงถึงมีฝ้าขณะตั้งครรภ์

เนื่องมาจากขณะที่ผู้หญิงกำลังตั้งครรภ์ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเพศอย่าง estrogen และ progesterone ออกมาค่อนข้างสูง 
ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้เองที่มีฤทธิ์กระตุ้นการสร้างเม็ดสีเพิ่มขึ้น จึงมักพบผิวหนังคล้ำบริเวณต่าง ๆ ตามร่างกาย ทั้งหน้า คอ ขาหนีบ ซึ่งปกติแล้วหลังคลอดจะหายได้เอง แต่หากไม่ระวังให้ดี ไม่หลบเลี่ยงแสงแดด หรือไม่ทาครีมกันแดดให้เหมาะสม
ก็อาจจะทำให้จากฝ้าที่เกิดจากฮอร์โมน รุนแรงมากขึ้นเพราะมีปัจจัยกระตุ้นคือแสงแดด จนทำให้ฝ้าจากบาง ๆ กลายเป็นลึกและกว้างขึ้น ทำให้รักษาหายได้ยากขึ้นตามไปด้วย

Photo of author

Sutthida

สุทธิดามีใจรักในการเขียนและทำอาหาร หลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เธอตัดสินใจหางานทำวารสารศาสตร์ เธอใฝ่ฝันที่จะอาศัยอยู่ริมชายหาดพร้อมระเบียงที่มองเห็นวิวทะเล เธอชอบติดตามผู้มีอิทธิพลในโซเชียลมีเดียบน Instagram หรือดูรายการทีวีหรือภาพยนตร์ในเวลาว่าง

Leave a Comment