แนวโน้มที่สังคมโลกในอนาคตจะมีปริมาณผู้สูงอายุจำนวนมาก ทำให้หลาย ๆ คนตื่นตัวและเริ่มเห็นความสำคัญของอุปกรณ์ในการใช้ชีวิตเมื่อเป็นสูงอายุมากขึ้น รถเข็นผู้ป่วย ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่เราอาจคุ้นตาเมื่อไปโรงพยาบาล แต่ทราบไหมคะ ว่าจริง ๆ แล้ว ตอนนี้รถเข็นกลายเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่สำคัญมากสำหรับผุ้สูงอายุซึ่งก็คือคุณพ่อคุณแม่ของเรา แถมยังมีราคาไม่แพงอย่างที่คิด และยังมีฟังก์ชันการใช้งานที่ช่วยอำนวยความสะดวกและปลอดภัยต่อผู้ใช้ด้วย ดังนั้นในบทความนี้เราจึงขอนำทริคในการเลือกซื้อรถเข็นผู้ป่วย รวมทั้งตัวอย่างรถเข็นแต่ละประเภทมาแชร์ให้ทุกคนทราบกันค่ะ
รถเข็นวีลแชร์ที่ดีที่สุด
NEO BLUE I
ข้อดี
ข้อข้อเสีย
สำหรับท่านใดที่กำลังมองหารถเข็นผู้ป่วยแบบพับได้ และสามารถพกพาได้อย่างสะดวก ทั้งยังน้ำหนักเบา แต่ใช้งานได้คุ้มค่าคุ้มราคา เราขอแนะนำรถเข็นผู้ป่วยจาก NEO BLUE I ที่นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสูง และยังมีคุณภาพดี การันตีจากยอดขายและผู้ซื้อจริง ด้วยเพราะคุณสมบัติพิเศษที่เน้นการใช้งานเป็นหลัก ทั้งการเลือกใช้ผ้าระบายอากาศและความชื้นทำเป็นเบาะรองนั่งและพนักพิง, ใช้ล้อแม็กขอบ 16 นิ้ว ทำให้ทนต่อแรงเสียดทาน ทำให้เคลื่อนที่ได้ง่ายกว่า, โครงวัสดุเป็นอะลูมิเนียม มีน้ำหนักเบาเพียง 9.8 กิโลกรัม แต่ทนทาน ใช้งานได้ยาวนานไม่เกิดสนิม ทั้งยังออกแบบมาให้สามารถพับเก็บได้ง่าย ไม่เปลื้องพื้นที่แม้จะใส่ในรถยนต์ ช่วยให้พกพาไปได้สะดวกกว่าในทุกที่เลยค่ะ
และในส่วนของฟังก์ชันการใช้งานก็เรียกได้ว่าทำออกมาตอบโจทย์ความต้องการในระดับที่น่าพอใจ เพราะมีทั้งที่พักแขนที่แถมที่รองแก้วมาให้ ที่พักเท้าที่สามารถปรับระดับได้ตามต้องการ ทั้งยังสามารถเอนพนักพิงหลังได้อีก 5 องศา ช่วงรองรับสรีระของผู้ใช้งานได้อย่างดี
รถเข็นวีลแชร์ราคาประหยัดที่ดีที่สุด
HIMIWAY MALL
ข้อดี
ข้อข้อเสีย
HIMIWAY MALL นับว่าเป็นรถเข็นผู้ป่วยที่มีราคาย่อมเยา แต่สามารถใช้งานได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพไม่แพ้รุ่นอื่น ๆ ซึ่งนอกจากจุดเด่นเรื่องราคาถูกแล้วยังสามารถพับเก็บได้ง่ายและพกพาได้สะดวกสบาย เพราะกินพื้นที่ไม่มาก และมีน้ำหนักเบาเพียง 11 กิโลกรัมเท่านั้น แต่สามารถรองรับน้ำหนักตัวได้สูงสุดถึง 100 กิโลกรัมเลยทีเดียว ทั้งยังมีโครงสร้างเป็นเหล็กแบบหนาทำให้ใช้งานได้ยาวนาน ทนทานยิ่งขึ้น ส่วนในเรื่องดีไซน์นั้น ได้เลือกใช้ผ้ารองนั่งที่เป็นวัสดุถ่ายเทอากาศ มีความอ่อนนุ่มนั่งสบาย แต่ไม่อับชื้นและทนความร้อน ช่วยลดอาการแผลกดทับเมื่อต้องนั่งนาน ๆ ได้ด้วย ส่วนพนักพิงก็สามารถปรับได้หลายระดับทั้งยังพับเก็บได้ พิเศษสุดคือการใช้ล้อยางแบบใส้ในตัน ที่ไม่ว่าจะใช้งานสมบุกสมบันหรือเหยียบของแหลมคม ก็ไม่ต้องกังวลว่ายางจะรั่วหรือเปลี่ยนรูปอีกด้วย
แม้จะเป็นรถเข็นแบบแมนนวลที่ต้องใช้มือเข็น แต่ทางผู้ผลิตก็ออกแบบส่วนมือจับที่ยื่นออกมาจากล้อให้นับได้สะดวกขึ้น ทั้งยังมีระบบเบรกมือ ช่วยเพิ่มความสะดวกและปลอยภัยสำหรับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี จึงนับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ทั้งประหยัดและคุ้มค่ามาก ๆ เลยค่ะ
รถเข็นวีลแชร์น้ำหนักเบาที่ดีที่สุด
Jing Wang
ข้อดี
ข้อข้อเสีย
รถเข็นผู้ป่วยรุ่นอัพเกรดตัวนี้ เป็นรุ่นที่นับว่าคุ้มค่าและมีฟังก์ชันโดดเด่นที่ทำออกมาได้ดีและตอบโจทย์ผู้ใช้งานอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโครงสร้างตัวรถที่ใช้เหล็กท่อหนาแต่กลับมีน้ำหนักเบาเพียง 11 กิโลกรัม สามารถพกพาง่ายกว่าเดิม และในส่วนราวจับยังมีการเคลือบแฟลชสีทองเพื่อป้องกันการเกิดสนิมและมีสีสันสวยงามขึ้น ทั้งยังสามารถยกขึ้นลงได้เพิ่มความสะดวกเมื่อต้องก้าวขึ้นรถหรือนอนบนเตียง ในส่วนของล้อหน้าและล้อยางหลังใช้เป็นแบบยางตัน มีความทนทานและช่วยซับพอร์ตแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม ส่วนในเรื่องการออกแบบนั้นก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน โดยเลือกใช้วัสดุรองนั่งเบาะตาข่ายสามมิติ 2 ชั้น ที่ทำให้นั่งสบายและระบายอากาศได้ดีขึ้นมาก ทั้งยังสามารถถอดออกมาซักและง่ายดาย ลดการหมักหมมของคราบสกปรก
ส่วนเรื่องระบบความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวก ในรุ่นอัพเกรดได้มีระบบเบรกให้ทั้งเบรกเท้าและเบรกมือที่เพิ่มที่ล็อคล้อมาให้ด้วย และยังมีที่รองเท้าเป็นวัสดุคุณภาพดี ABS พื้นกันลื่น ทนทานไม่ต้องกลัวเวลาทิ้งน้ำหนักตัวเหยียบลงไปอีกด้วยค่ะ
รถเข็นไฟฟ้าที่ดีที่สุด
Beauti House
ข้อดี
ข้อข้อเสีย
หากใครกำลังมองหารถเข็นที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับทั้งผู้ดูแลและผู้ป่วย รถเข็นผู้ป่วยระบบไฟฟ้าจาก Beauti House นับเป็นตัวเลือกที่ดี ที่เราขอแนะนำ เพราะเป็นรถที่ใช้เทคโนโลยีการเคลื่อนที่โดยใช้แรงขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 250 วัตต์ ความจุแบตเตอรี่ 24 โวลต์ สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 20 ชั่วโมง ควบคุมการทำงานทั้งการเคลื่อนที่ ซ้าย ขวา เดินหน้า ถอยหลัง และหมุนได้ 360 องศา โดยใช้รีโมทบังคับเพียงปลายนิ้ว นอกจากนี้ยังมีล้อแบบยางตันที่ทนทานและปลอดภัยไม่ต้องกังวลใจเรื่องยางรั่ว ทั้งยังเคลื่อนที่ได้นิ่มยิ่งกว่าเพราะมีโช้คคู่ในตัว จะเจอหลุมหรือเนินก็หมดกังวลกับแรงกระแทก นอกจากนี้ยังออกแบบมาให้พับเก็บได้ง่าย พกพาได้สะดวก ไม่เปลื้องพื้นที่ด้วยค่ะ
ในส่วนของเบาะรองนั่งและพนักพิง เป็นเส้นใยตาข่ายนุ่มพิเศษ และระบายอากาศได้ดีเยี่ยม ผู้ป่วยจึงรู้สึกสบายตลอดเวลา ทั้งยังสามารถเลื่อนปรับระดับได้ 4 แบบ ทั้งนั่งตรง, นั่งพิง, เอนนอน และแบบนอนลง ซึ่งวัสดุก็นับว่าทนทานแข็งแรง รองรับน้ำหนักได้กว่า 120 กิโลกรัมทีเดียวค่ะ
ลูกกลิ้งเดินที่ดีที่สุด
Acare Rollator
ข้อดี
ข้อข้อเสีย
รถเข็น Acare Rollator เป็นรถเข็นฝึกเดินแบบแมนนวล ที่ใช้วัสดุอะลูมิเนียมในการทำโครง ทำให้มีน้ำหนักเบาเพียง 7.6 กิโลกรัม แต่มีความแข็งแรงทนทาน ไม่แพ้วัสดุที่เป็นเหล็ก ทั้งยังไม่เกิดสนิมจึงใช้งานได้ยาวนานขึ้น โดยตัวของรถเข็นได้ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการทำกายภาพหัดเดิน ดังนั้นจึงมีทั้งส่วนที่เป็นเบาะนั่งและส่วนที่เป็นที่จับสำหรับพยุงเดินสามารถปรับระดับความสูงได้ 6 ระดับ และที่จับยังมีระบบเบรกมือ เพื่อใช้ในยามฉุกเฉินหรือในต้อนที่ต้องการหยุดเดินกระทันหันอีกด้วย ส่วนล้อทั้ง 4 ล้อ ด้านหน้าและด้านหลังก็ใช้ยางตันที่ป้องกันการรั่วซึมได้ 100% นอกจากนี้ยังมีส่วนของตะกร้าขนาดใหญ่สำหรับใส่ขวดน้ำ และอุปกรณ์ที่จำเป็นของผู้ป่วยเองด้วย
เห็นเป็นสินค้าราคาย่อมเยาและใช้งานได้หลากหลายแบบนี้ แต่ในเรื่องคุณภาพก็นับไม่เป็นรองใคร เพราะสามารถรองรับน้ำหนักได้มากกว่า 100 กิโลกรัม ใช้งานได้กับคนทุกเพศทุกวัยเลยค่ะ
รถเข็นปรับระดับได้ดีที่สุด
HIMIWAY
ข้อดี
ข้อข้อเสีย
นับว่าเป็น Wheelchair ที่เข้าใจผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ต้องใช้ชีวิตวันละหลายชั่วโมงบนรถเข็น ทาง HIMIWAY จึงได้ทำที่เบาะนั่งและพนักพิงที่ช่วยซับพอร์ตการนั่งและทำกิจกรรมต่าง ๆ บนรถเข็นได้อย่างดี โดยจุดเด่นที่ทางผู้ผลิตนำเสนอคือ ความสามารถในการปรับระดับพนักพิงได้ถึง 6 ระดับ ทั้งยังมาพร้อมกับวัสดุที่ใช้ทำเบาะรองแบบรังผึ้ง ซึ่งจะมีลักษณะเป็นโพรงตาข่ายสามารถระบายอากาศได้ดี แต่มีความนุ่มสบาย ทั้งยังมีขนาดกว้างและสูงถึงระดับศีรษะ ดังนั้นจึงใช้ได้ทั้งเป็นแบบรถเข็นและแบบเตียงผู้ป่วย นอกจากนี้ยังออกแบบพนักพิงแบบมีรอยหยักที่ช่วยลดอาการปวดหลังเมื่อนั่งนาน ๆ ได้อีกด้วย ตัวพนักพิงและเบาะนั่งสามารถถอดออกมาซักทำความสะอาดได้ง่ายและแห้งไว ไม่สะสมเชื้อโรคด้วยค่ะ
ในส่วนของโครงรถเข็นเป็นวัสดุทำจากเหล็ก มีความแข็งแรงรับน้ำหนักได้มากถึง 140 กิโลกรัม แต่จะมีน้ำหนักมากกว่ารุ่นอื่น ๆ คือ 20 กิโลกรัม ถึงอย่างนั้นก็ยังสามารถพับเก็บและพกพาได้สะดวกไม่ต่างกันค่ะ
คู่มือการซื้อรถเข็น
ประเภทของเก้าอี้รถเข็นสำหรับผู้สูงอายุ
ก่อนที่คุณจะเลือกซื้อรถเข็นผู้ป่วย สิ่งที่ต้องรู้อันดับแรกคือเรื่องของประเภทรถเข็น ซึ่งปัจจุบันมีด้วยกัน 3 ชนิดหลัก ๆ คือรถเข็นแบบมาตรฐานที่เหมาะกับคนพิการและผู้สูงอายุ, รถเข็นขนาดเล็กน้ำหนักเบา ที่คลอบคลุมไปถึงรถเข็นหัดเดิน และรถเข็นไฟฟ้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้ป่วยและผุ้ดูแล ซึ่งแต่ละชนิดจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
รถเข็นคนพิการมาตรฐาน
รถเข็นแบบมาตรฐาน ส่วนใหญ่เป็นรถเข็นแบบระบบแมนนวลหรือใช้แรงคนในการขับเคลื่อน โครงสร้างส่วนใหญ่จะเป็นเหล็กท่อกลวง ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเกิดสนิม ดังนั้นจึงควรซื้อแบบที่มีการเคลือบหรือทาสีกันสนิมหรือหากงบประมาณมากหน่อยแนะนำให้เลือกแบบที่เป็นวัสดุอะลูมิเนียมค่ะ ด้านของล้อแนะนำให้เลือกแบบล้อยางตัน เพื่อป้องกันการเกิดอุบิติเหตุยารั่ว ยางแตก เป็นต้น ส่วนเบาะและพนักพิง ควรเลือกซื้อแบบที่เบาะนิ่ม นั่งสบายและระบายอากาศได้ดี และควรปรับระดับพนักพิงได้ สุดท้ายคือระบบเบรก หากเป็นผู้ป่วยอัมพฤก อัมพาต ที่ขยับตัวได้ไม่มาก แนะนำให้เลือกแบบมีระบบเบรกมือด้วยค่ะ
เก้าอี้คู่มือน้ำหนักเบา
รถเข็นน้ำหนักเบาหรือรถเข็นขนาดเล็ก ที่คลอบคลุมไปถึงรถเข็นหัดเดินด้วย ส่วนใหญ่โครงสร้างจะผลิตจากอลูมิเนียมทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดสนิม และควรเลือกล้อรถแบบยางตัน จะปลอดภัยไร้กังวลกว่า ส่วนเบาะและพนักพิงแนะนำให้เลือกแบบระบายอากาศได้ดีหรือหากนั่งนิ่มนั่งสบายด้วยก็จะช่วยให้ผู้ป่วยสบายตัวขึ้น ที่สำคัญควรพิจารณาระบบเบรกว่าใช้งานได้ดีและเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละอาการด้วยค่ะ
รถเข็นไฟฟ้า
สำหรับใครที่ต้องการความสะดวกสบายและมีงบประมาณมากพอ การเลือกซื้อรถเข็นแบบไฟฟ้านับว่าคุ้มค่าและตอบโจทย์ได้หลายอย่าง เพราะปัจจุบันเขาได้เน้นเรื่องของการทำงานที่มีประสิทธิภาพทั้งระยะเวลาในการใช้งานต่อเนื่องนานกว่า 20 ชั่วโมง ทั้งระบบความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกก็ครบครัน ทั้งระบบการเคลื่อนที่ที่สามารถสั่งการได้ทั้งรีโมทและบางรุ่นสั่งการด้วยเสียงได้ด้วย การมีโช้คอัพช่วยซับพอร์ตเมื่อต้องผ่านเส้นทางขรุขระหรือต้องขึ้นลงเนิน เป็นต้น
สิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อซื้อรถเข็นสำหรับผู้สูงอายุ
สไตล์กรอบ Frame
Frame หรือโครงสร้างของรถเข็นผู้ป่วย ส่วนใหญ่จะเป็นเหล็กท่อกลวง ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเกิดสนิม ดังนั้นจึงควรซื้อแบบที่มีการเคลือบหรือทาสีกันสนิมหรือหากงบประมาณมากหน่อยแนะนำให้เลือกแบบที่เป็นวัสดุอะลูมิเนียม ที่นอกจากจะกันสนิมได้แล้วยังมีน้ำหนักเบากว่าด้วยค่ะ
ช่วงล่าง
ระบบช่วงล่างส่วนใหญ่จะเน้นที่การเสริมความแข็งแรงโดยมีเหล็กดามคู่เป็นรูปตัว X ซึ่งช่วยให้พับเก็บได้ง่าย และยังเน้นเรื่องการเคลื่อนที่อย่างลื่นไหล ซึ่งในรุ่นที่ราคาแพงหรือเป็นระบบไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมีโช้คมาให้ 1 คู่ เพื่อซับพอร์ตขณะเคลื่อนผ่านบริเวณขรุขระหรือต้องปรับระดับพื้นผิวบ่อย ๆ
ขนาด
รถเข็นผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีขนาดแค่เท่ากับ 1 คนนั่งหรือประมาณความกว้าง 18 นิ้ว ส่วนความสูงจะแล้วแต่ผู้ผลิต ในบางยี่ห้อจะมีความสูงรับเอว ซึ่งนับว่าสะดวกต่อผู้ดุแลในการเข็นผู้ป่วย และบางยี่ห้อเป็นแบบพนังพิงสูงที่รองรับช่วงศรีษะได้ด้วย แบบนั้นก็จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วยได้มากและนั่งสบายกว่าด้วยค่ะ
ที่พักแขน
ที่พักแขนเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ควรให้ความใส่ใจ ซึ่งหากซื้อรุ่นที่เป็นโครงเหล็กส่วนใหญ่ที่พักแขนจะเป็นเหล็กด้วย ดังนั้นจึงแนะนำให้เลือกแบบที่เคลือบเหล็กบริเวณที่พักแขน เพื่อป้องกันการเกิดสนิม และผุกร่อน นอกจากนี้ที่พักแขนควรยกขึ้นหรือเลื่อนลงได้ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเคลื่อนที่ไปบนเตียงหรือรถได้อย่างสะดวกค่ะ
ที่พักเท้าและที่วางเท้า
กว่า 90% ของผู้ป่วยขณะที่จะก้าวเดินไปนั่งบนรถเข็นมักเหยียบจากที่พักเท้าขึ้นไป ดังนั้นในส่วนนี้จึงเป็นอีกจุดสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งที่พักเท้าที่เราแนะนำควรพลาสติกที่แข็งแรง เช่น พลาสติก ABS และต้องมีการสลักลายกันลื่นไว้ด้วย
เอียงหรือเอนนอน ในส่วนเรื่องของการเอียงหรือเอนนอน เกี่ยวข้องโดยตรงกับความสามารถในการปรับระดับของพนักพิง ซึ่งเราขอแนะนำให้เลือกแบบ 6 ระดับ เพราะสามารถปรับได้ตั้งแต่ระดับคอ, ปรับเอียงให้นั่งพิงได้, เอนลง และระดับราบที่เป็นเตียงนอนได้เลย จึงช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเปลี่ยนอิริยาบถได้สะดวกกว่าค่ะ
คำถามและคำตอบ
ใครเหมาะที่สุดสำหรับรถเข็นธรรมดา
รถเข็นธรรมดา เป็นรถเข็นที่ไม่ได้มีการออกแบบมาเพื่อใช้งานในระยะยาว เพราะด้วยตัวโครงสร้างที่ไม่ได้ทนทานมากนัก อีกทั้งเบาะรองนั่งและพนักพิงที่ส่วนใหญ่ใช้เป็นผ้าระบายอากาศแบบธรรมดา ดังนั้น รถเข็นแบบธรรมดาจึงเหมาะที่จะใช้กับผู้ป่วยที่ไม่สามารถเดินได้ชั่วคราว เช่น ประสบอุบัติเหตุและผู้ป่วยที่ต้องทำกายภาพ เป็นต้น ซึ่งหากเป็นผู้ป่วยเรื้อรัง, ผุ้ป่วยอัมพาต หรือผู้สูงอายุ แนะนำให้เลือกใช้รถเข็นแบบมาจรฐานหรือแบบไฟฟ้าจะช่วยอำนวยยความสะดวกและยังทำให้ผู้ป่วยสบายตัวกว่าด้วยค่ะ
คุณวางแผนที่จะใช้ที่ไหน
คงปฏิเสธไม่ได้ว่ารถเข็นผู้ป่วยส่วนใหญ่จะใช้ที่โรงพยาบาล แต่ปัจจุบันรถเข็นเหล่านี้มีให้เลือกซื้อหลายแบบหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละแบบก็ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ต่างกัน ทั้งยังมีราคาให้เลือกตั้งแต่หลักพันไปถึงหลักหมื่น ดังนั้นไม่ว่าใครก็สามารถเลือกซื้อได้ทั้งนั้น ทั้งยังใช้งานได้แทบทุกที่ เพราะส่วนใหญ่สามารถพับเก็บได้ และใส่ในรถโดยไม่กินพื้นที่มากมาย