เต็นท์ยี่ห้อไหนดี 2024

สำหรับใครที่หลงรักไลฟ์สไตล์แบบสโลว์ไลฟ์ที่จะได้ใช้ชีวิตท่ามกลางความเงียบสงบของธรรมชาติ แน่นอนว่า การออกแคมป์ไปในที่สวยงามและสงบคือคำตอบ ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่นักเดินทางสายแคมป์ปิ้งไม่ควรพลาดและต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้น ๆ ก็คือเรื่องที่เต็นท์

ซึ่งในในบทความนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกันเต็นท์แต่ละชนิด ทั้งเต็นท์เดินป่าที่เหมาะกับการนอนคนเดียว ป้องกันฝน และพายุลมแรง เต็นท์ที่เหมาะกับการแคมป์ปิ้งกับครอบครัว และเต็นท์สำหรับสายชิว รวมถึงเต็นท์สำหรับอาบน้ำอีกด้วย นอกจากนี้เรายังได้แนะนำคู่มือในการเลือกซื้อเต็นท์แต่ละประเภทเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของผู้ใช้งานแต่ละคนด้วยค่ะ

8 เต็นท์

1. โดยรวมดีที่สุด: Naturehike – Brighten 6.4 Lazada/Shopee
2. งบประมาณที่ดีที่สุดGS SPORT-JS41BL Lazada/Shopee
3. กันน้ำได้ที่ดีที่สุดVidalido – Waterproof Automatic Lazada/Shopee
4. อัตโนมัติที่ดีที่สุดCAMEL – Outdoor Automatic Lazada/Shopee
5. สำหรับเทศกาลดนตรีAUTING – 1 Second Tent Lazada/Shopee
6. ขนาดใหญ่ที่ดีที่สุดGS Sport – เต็นท์ครอบครัว Lazada/Shopee
7. สำหรับเดินป่าที่ดีที่สุด: MSR – Elixir 2 V2 Lazada/Shopee
8. สำหรับคนเดียวที่ดีที่สุดNaturehike – Cloud up Lazada/Shopee
9. เต็นท์อาบน้ำที่ดีที่สุด: AiTents – Pop-Up Shower Lazada/Shopee

เต็นท์ยี่ห้อไหนดี 2024

1. Naturehike – Brighten 6.4

เต็นท์โดยรวมที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • เต็นท์ขนาดใหญ่ นอนได้หลายคน
  • เสาเต็นท์คุณภาพดี น้ำหนักเบาแต่ทนทาน
  • ดีไซน์สวยและเข้ากับธรรมชาติ ใช้เป็นพร็อบถ่ายรูปได้เหมาะ
ข้อเสีย
  • ราคาสูง

หากคุณเป็นสายแคมป์ปิ้งตัวจริง และหลงรักการได้เสพบรรยากาศของธรรมชาติยามค่ำคืน หรือการตื่นมาจิบกาแฟยามเช้า แน่นอนว่าการเลือกเต็นท์ดี ๆ สักหลังต้องช่วยสร้างบรรยากาศการพักผ่อนให้คุณได้อย่างดี ซึ่งสำหรับ Naturehike รุ่น Brighten จึงนับว่าเหมาะกับคุณมาก เพราะด้วยดีไซน์ของโครงสร้างเต็นท์ที่ออกแบบมาในทรงคล้ายกระโจมหรือแบบระฆังคว่ำ ในโทนสีกากี ทำให้ดูเข้ากับธรรมชาติสุด ๆ และยังผลิตจากวัสดุผ้าคอตตอนคุณภาพดี ที่เคลือบด้วย PVC มาพร้อมโครงเต็นท์ที่เลือกใช้เป็นอะลูมิเนียม อัลลอย มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรงทนทาน

จึงไม่ต้องกังวลกับการใช้งาน ทั้งนี้ยังมีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ ขนาด 12.3 สำหรับนอน 5 – 8 คน และขนาด 6.4 เหมาะสำหรับนอน 3 – 4 คนค่ะเต็นท์ขนาด 12.3 เป็นเต็นท์ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่และมีความสูงกว่า 2.8 เมตร กว้างกว่า 4.1 เมตร ทำให้มีพื้นที่ภายในเต็นท์เยอะไม่รู้สึกอึดอัด ส่วนเต็นท์ขนาด 6.4 มีความสูง 2.1 เมตร และมีความกว้าง 3.5 เมตร เป็นขนาดที่กำลังพอดี หากพักกัน 2 คนก็จะมีพื้นที่สำหรับเก็บของสัมภาระและมีนั่งพักผ่อนภายใน แต่หากจะพักกัน 3 – 4 คน ก็นับว่านอนได้พอดีค่ะ

2. GS SPORT – JS41-BL

เต็นท์งบประมาณที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • ราคาย่อมเยา แต่ใช้งานได้ดี
  • เป็นแบบกางอัตโนมัติ
  • มีการเคลือบสารกันรังสี UV
  • น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
  • ระบายอากาศได้ดี
ข้อเสีย
  • วัสดุไม่สามารถกันน้ำได้ 100% ต้องมีฟลายชีทคลุมเพิ่ม

หากคุณเป็นมือใหม่สายแคมป์ปิ้ง แต่อยากได้เต็นท์คุณภาพดี ในราคาประหยัด เราขอแนะนำเต็นท์เดินป่าจาก GS SPORT รุ่น JS41-BL ตัวนี้ เพราะนอกจากจะมีราคาไม่แพงมากแล้ว ยังสามารถใช้งานได้อย่างสมบุกสมบันและเหมาะกับการพักแรมในพื้นที่ป่าเขาที่ไม่สามารถหาที่ปักสมอบกได้ด้วย เนื่องจากเต็นท์ตัวนี้มีระบบกางอัตโนมัติทำให้ไม่ต้องพึ่งสมอบกในการยึดขาเต็นท์ ทั้งยังใช้งานได้ง่ายและสะดวกกว่ามาก มาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำได้ดีและมีน้ำหนักเบา

ช่วยให้พกพาได้ง่าย ทั้งยังเคลือบสารป้องกันรังสียูวี กันละอองน้ำและหมอกได้ โครงเต็นท์ออกแบบให้สามารถระบายอากาศได้ดีด้วยระบบ Air Cooling แบบ 3 มิติ จึงเหมาะกับการเดินป่าเมืองไทย ที่มีสภาพอากาศร้อนชื้นมาก ๆ ค่ะเต็นท์ GS SPORT รุ่น JS41-BL เป็นเต็นท์ขนาดปานกลางที่สามารถจุได้ 3 -4 คน มีขนาดกว้าง 2.1 เมตร และสูง 1.3 เมตร แต่มีน้ำหนักเบา เพียง 2.9 กิโลกรัมเท่านั้น มีให้เลือกด้วยกัน 6 สี ได้แก่ สีเขียว, ลายพรางทหาร, ลายลิลลี่, สีเขียวขาว, สีฟ้าขาว และสีฟ้า

3. Vidalido Waterproof Automatic

เต็นท์กันน้ำได้ที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • กันน้ำได้ 100% มีฟลายชีทในตัว
  • เป็นแบบกางอัตโนมัติ
  • ระบบโครงสร้างแบบ Dubble Layer ทั้งทนทานและใช้งานสะดวก
  • เนื้อผ้าหนา ตัดเย็บดี แข็งแรง
  • มีประตู 2 ฝั่ง
ข้อเสีย
  • ราคาค่อนข้างสูง

การออกเดินทางตั้งแคมป์ตามสถานที่ธรรมชาติหรือในป่าเขา บ่อยครั้งที่เรามันเจออุปสรรคอย่างฝนตก ทำให้หลาย ๆ คนต้องมีการพกพาฟายชีทซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันฝนได้อีกขั้น แต่หากคุณเลือกซื้อเต็นท์ที่มีคุณสมบัติในการกันน้ำได้ 100% อย่าง Vidalido รุ่น Waterproof Automatic อาจจะช่วยให้คุณลดความกังวลและขั้นตอนในการเตรียมพื้นที่สำหรับพักผ่อนไปได้มากทีเดียวเพราะ ซึ่งสำหรับเต็นท์รุ่นนี้ เป็นแบบโครงสร้าง Duble Layer

ซึ่งชั้นในจะเป็นตาข่ายป้องกันแมลงและช่วยระบายอากาส และชั้นนอกเป็นวัสดุผ้าใบเนื้อหนาคุณภาพดีที่ทนทานและกันน้ำได้ดี นอกจากนี้ยังเป็นแบบกางอัตโนมัติช่วยให้ใช้งานได้ง่ายและสะดวกขึ้นด้วยค่ะส่วนในเรื่องของขนาดเต็นท์นั้น ภายในจะมีความสูง 1.7 เมตร กว้าง 2.4 เมตร เหมาะสำหรับนอน 3 -5 คน มีน้ำหนักรวม 8. 2 กิโลกรัม มาพร้อมประตู 2 ฝั่งเข้าออกสะดวก และซิป 2 ชั้น ทั้งยังมีให้เลือก 2 สี คือสีเขียวและสีกาแฟ

4. CAMEL Outdoor Automatic

เต็นท์กางอัตโนมัติที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • เนื้อผ้า Oxford เคลือบ PU กันน้ำได้ดี
  • เป็นแบบกางอัตโนมัติ
  • ระบบโครงสร้างแบบ Dubble Layer ทั้งทนทานและใช้งานสะดวก
  • มีประตู 2 ฝั่ง
  • น้ำหนักเบา
ข้อเสีย
  • ราคาค่อนข้างสูง

หลาย ๆ ครั้งที่การกางเต็นท์ อาจกินเวลานาน และหากใครที่ไม่มีความชำนายอาจกางผิดวิธีได้ ดังนั้นการเลือกเต็นท์ที่กางแบบอัตโนมัติอาจเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยคลายความกังวลของคุณได้ค่ะ ซึ่งเราขอแนะนำ CAMEL Outdoor Automatic ซึ่งเป็นเต็นท์เดินป่า ที่เหมาะกับการเดินทางผจญภัยหรือค้างแรมในป่า เพราะนอกจากจะกางได้อย่างสะดวกและง่ายดายแล้ว

ยังมาพร้อมวัสดุเนื้อผ้า Oxford เคลือบ PU มีคุณสมบัติกันน้ำและกันฝนได้อย่างดี และที่สำคัญคือมีน้ำหนักเบาเพียง 3. 4 กิโลกรัม เท่านั้น โครงสร้างเต็นท์ออกแบบมาให้เหมาะกับนักดินทางสำหรับสภาพอากาศป่าเขตร้อน เพราะมี 2 ประตูช่วยระบายอากาศได้ดีและมีโถงขนาดใหญ่ สูงกว่า 2 เมตร กว้าง 1.8 เมตร สามารถนอนได้ 3 -5 คน มีให้เลือก 3 สีคือ สีส้ม สีฟ้า และสีเขียวค่ะ

5. AUTING – 1 Second Tent

เต็นท์ที่ดีที่สุดสำหรับเทศกาลดนตรี

ข้อดี
  • กันน้ำและรังสียูวีได้
  • เป็นแบบกางอัตโนมัติ กางง่ายภายใน  1 นาที
  • มีประตู 2 ฝั่ง และหน้าต่าง ระบายอากาศได้ดี
  • ราคาไม่แพง
  • น้ำหนักเบา
ข้อเสีย
  • โครงสร้างเต็นท์เชื่อมกันทุกจุก ดังนั้นหากมีตรงไหนพัง จะทำให้เต็นท์ใช้งานไม่ได้

สำหรับสายชิว ที่ต้องการเต็นท์เดินป่าสำหรับใช้งานอย่างอเนกประสงค์และสะดวก ไม่ต้องยุ่งยากในการประกอบเต็นท์ AUTING – 1 Second นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งค่ะ เนื่องจากเป็นเต็นท์ที่กางง่ายมาก ๆ เพราะออกแบบมาเหมือนมุ้งพับ เพียงนำออกมาจากถุงเก็บและคลี่ออกเท่านี้คุณก็กางเต็นท์ได้ภายใน 1 นาที แต่เห็นแบบนี้คุณสมบัติก็ไม่น้อยหน้าเลยค่ะ เพราะเต็นท์รุ่นนี้สามารถกันน้ำและรังสียูวีได้ดี ทั้งยังมีทั้งประตูและหน้าต่างที่ช่วยระบายอากาศได้ด้วย

มาพร้อมกับผ้าใบด้านหน้า ด้านหลัง ที่สามารถกางออกมาเป็นหลังคาเสริมซิป 2 ชั้น ป้องกันยุงและแมลง พร้อมทั้งมีที่ห้อยโคมไฟสำหรับห้องโถงด้านในด้วยค่ะส่วนในเรื่องพื้นที่ใช้สอย AUTING – 1 Second มีขนาดความสูง 2.5 เมตร กว้าง 1.5 เมตร เหมาะสำหรับนอน 2 – 3 คน และมีน้ำหนักเบา 2.4 กรัม พกพาสะดวก ประหยัดพื้นที่จัดเก็บ และมีให้เลือก 2 สี คือ สีฟ้าและสีส้ม และที่สำคัญราคาไม่แพงด้วยค่ะ

6. GS Sport

เต็นท์ครอบครัว

ข้อดี
  • เต็นท์ขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับครอบครัว
  • มีการจัดสัดส่วนเป็น 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น
  • สามารถกันลม กันแดด และกันฝนได้
ข้อเสีย
  • ไม่ใช่แบบกางอัตโนมัติ อาจใช้เวลากางนานเพราะเป็นเต็นท์ขนาดใหญ่

ครอบครัวไหนที่กำลังมองหาเต็นท์สำหรับตั้งแคมป์ขนาดใหญ่ เพื่อให้พอดีกับจำนวนสมาชิกอยู่ละก็ เราขอแนะนำ GS Sport ซึ่งเป็นเต็นท์ขนาดความจุได้ 8 – 12 คน แบ่งเป็นสัดส่วน 2 ห้องนอนปละ 1 ห้องนั่งเล่น ให้คุณและครอบครัวได้ใช้เวลาเพลิดเพลินด้วยกันอย่างอบอุ่น แต่ไม่อึดอัด สำหรับวัสดุเนื้อผ้าเป็นใยโพลีเอสเตอร์ ทำหน้าที่ทั้งป้องกันลมและยังเป็นฉนวนกันความร้อนและสงแดด โครงและเสาเต็นท์เป็นท่อเหล็กและแท่งใยแก้ว สำหรับประกอบต่อเอง

ทั้งยังมีมีช่วงเสริมที่ต่อออกมาจากตัวเต็นท์สำหรับประกอบอาหารหรือนั่งรับลมชิว ๆ ระบบซิป 2 ชั้นป้องกันแมลง มีที่แขวนโคมไฟภายในเต็นท์ และมีผ้าใบสำหรับคลุมกันฝนมาให้อีกด้วยด้วยขนาดโถงภายในกว้าง 4 เมตรและสูงกว่า 2 เมตร ทำให้เต็นท์มีขนาดใหญ่มีน้ำหนักค่อนข้างมากถึง 15 กิโลกรัม จึงเหมาะกับการค้างแรมพักผ่อนในสถานที่ที่รถเข้าถึงสะดวก และเหมาะสำหรับผู้ที่เคยมีประสบการณ์กางเต็นท์มาก่อน เพราะรายละเอียดค่อนข้างเยอะและอาจใช้เวลาในการกางเต็นท์นาน เพราะไม่ใช่แบบกางอัตโนมัติค่ะ

7. MSR – Elixir 2 V2

เต็นท์เดินป่าที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • วัสดุคุณภาพดีกันน้ำและทนทานต่อแรงลมพายุ
  • สามารถเลือกกางได้ทั้งแบบตาข่ายธรรมดาหรือแบบมีผ้าคลุมกันฝน
  • น้ำหนักเบาพกพาสะดวก
  • ระบายอากาสได้ดี เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทย
ข้อเสีย
  • ไม่ใช่แบบกางอัตโนมัติ

MSR หนึ่งในผู้ผลิตอุปกรณ์เดินป่ายอดนิยม และโดนเฉพาะเต็นท์เดินป่า ที่มีความโดดเด่นเรื่องการเลือกใช้วัสดุคุรภาพดี และน้ำหนักเบา ทำให้เหมาะกับการพกพาสำหรับนักเดินทางเป็นอย่างมาก โดยสำหรับ MSR เต๊นท์น้ำหนักเบา Elixir 2 V2 นี้ เหมาะกับการนอนพัก 2 คน แต่ทรงเต็นท์อกแบบให้มีความกะทัดรัด และสามารถปรับได้ 2 แบบ คือแบบเต็นท์ตาข่าย ที่โล่ง ระบายอากาศได้ดี เหมาะสมกับการเดินทางในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว หรือหากต้องใช้ในการเดินทางช่วงฤดูฝน

ก็เพื่อใช้ผ้าคลุมอีกชั้น ที่สามารถกันน้ำได้อย่างดี และทนทานต่อแรงลมอีกด้วย นอกจากนี้โครงเต็นท์ยังใช้อะลูมิเนียมซึ่งเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทาน ไม่ผุกร่อนหรือหักง่าย และยังมีน้ำหนักเบากว่าโครงเหล็กทั่วไปด้วยค่ะ ขนาดของเต็นท์ห้องโถงภายในส฿ง 2.1 เมตร กว้าง 2.4 เมตร ออกแบบรูปทรงให้ระบายอากาศได้ดี มีสีเขียวใบไม้เข้ม ให้ความรู้สึกสงบเป็นธรรมชาติเข้ากันกับป่า และยังเหมาะสำหรับนักเดินทางตัวจริง ที่ต้องเจอกับสภาพอากาสแปรปรวนหรือต้องเดินทางระยะไกลบ่อย ๆ ด้วย

8. Naturehike – Cloud up

เต็นท์คนเดียวที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา
  • วัสดุคุณภาพดี สามารถกันลม กันแดด และกันฝนได้
  • กางได้ 2 รูปแบบ เหมาะสมกับสภาพอากาศเมืองไทย
ข้อเสีย
  • ไม่ใช่แบบกางอัตโนมัติ อาจใช้เวลากางนานเพราะเป็นเต็นท์ขนาดใหญ่

นักเดินทางมักมีไลฟ์สไตล์ทีชื่นชอบอิสระ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลาย ๆ คนจะชอบการเดินทางลำพังคนเดียว ดังนั้นหากคุณเป็นที่เดินทางคนเดียวบ่อย ๆ การมีเต็นท์ที่เหมาะสำหรับพักคนเดียวก็นับว่าเหมาะกับคุณมาก เพราะนอกจากจะไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณแล้ว ยังประหยัดพื้นที่ น้ำหนักเบา ช่วยให้คุณคล่องตัวมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ และสำหรับเต็นท์จาก Naturehike รุ่น Cloud up ก็เป็นเต็นท์ที่คุณภาพดี โครงสร้างผ้าใบเต็นท์เป็นแบบ Double Layer

วัสดุด้านในเป็นเส้นใยโพลีเอสเตอร์ และตาข่าย วัสดุภาพนอกเป็นไนลอนผสมโพลีเอสเตอน์ และยังมีผ้าคลุมเต็นท์ผ้าออกฟอร์ดที่กันน้ำได้ด้วย จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความทนทาน เพราะสามารถใช้งานได้ทุกสภาพอากาศในเรื่องขนาดนั้น เนื่องจากเป็นเต็นท์สำหรับนอนคนเดียวจึงมีขนาดเล็กกะทัดรัด สูง 1 เมตร กว้าง 1 เมตร และยาว 2.1 เมตร สามารถกางได้ 2 รูปแบบตามความเหมาะสม หากอยากตากอากาศเย็นสบายก็ไม่ต้องใช้ผ้าคลุม แต่หากมีฝนตก ลมแรง ก็กางผ้าคลุมเต็นท์ทับได้อย่างง่ายดาย มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว สีส้ม และสีเขียวค่ะ

9. Pop Up Shower

เต็นท์อาบน้ำที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • เป็นอุปกรณ์เสริมที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง
  • ราคาย่อมเยา
  • ใช้งานได้หลายครั้ง เพราะใช้วัสดุคุณภาพดี
  • ผ้ากันน้ำและกันรังสียูวี
ข้อเสีย

การออกเดินทางค้างแรมในป่า เป็นไปได้ว่าอาจทำให้หลาย ๆ คนไม่สะดวกในการทำกิจกรรมส่วนตัว เช่น การอาบน้ำ ขับถ่าย หรือเปลี่ยนเสื้อผ้า โดยเฉพาะคุณผู้หญิง ดังนั้นหากได้เต็นท์พกพาสำหรับอาบน้ำโดยเฉพาะ ก็จะเป็นวิธีช่วยอำนวยความสะดวกและคลายความกังวลให้คุณได้ค่ะ และสำหรับเต็นท์อาบน้ำรุ่นที่เรานำมาแนะนำนี้

เป็นรุ่นที่มีความทนทาน สามารถใช้งานซ้ำได้หลายครั้ง เพราะผลิตจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์อย่างหนา เคลือบสารป้องกันรังสียูวี โครงเต็นท์เป็นเหล็ก มีความยืดหยุ่นแต่ทนทาน มีช่องสำหรับต่อสายฝักบัว และกระเป๋าสำหรับเก็บของใช้สำคัญ และออกแบบให้มีช่องหลังคาด้านบนระบายอากาศตัวเต็นท์มีขนาดความสูง 1.9 เมตร กว้างฝั่งละ 1.2 เมตร พกพาง่าย เพราะมีน้ำหนักเบาเพียง 1.9 กิโลกรัม  ทั้งยังติดตั้งได้ง่ายเพียงไม่กี่นาที มีให้เลือกเป็นสีเขียวและสีฟ้า

คู่มือการซื้อ เต็นท์

เต็นท์พักแรม

หลังจากที่เราได้ทราบถึงคุณสมบัติและข้อดี ข้อเสีย ของเต็นท์แต่ละประเภทไปแล้ว ต่อจากนี้เราจะขอแนะนำคู่มือการซื้อเต็นท์ที่เหมาะสมกับผู้ใช้งานที่มีจุดประสงค์แตกต่างกัน ซึ่ง

ข้อควรพิจารณาในการซื้อเต็นท์

ก่อนจะเลือกซื้อสิ่งของแต่ละชนิด สิ่งที่เราจะต้อรู้ไม่ใช่แค่วัตถุประสงค์ในการใช้งานเท่านั้น แต่เราจำเป็นต้องรู้ด้วยว่าผลิตภัณฑ์ที่เราจะซื้อมีคุณสมบัติสำคัญอะไรที่เราต้องพิจารณา และเหมาะกับการใช้งานแบบไหน คุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายมากน้อยเพียงใด เหมือนกันกับการเลือกซื้อเต็นท์ ที่นับว่าเป็นเสมือนบ้านหลังที่สองของนักเดินทางค่ะ

  • จะใช้เต็นท์บ่อยแค่ไหน เต็นท์สำหรับเดินป่า ส่วนใหญ่ออกแบบมาเพื่อให้ทนทานต่อสภาพอากาศและการใช้งาน ดังนั้นจึงมีราคาที่สูงกว่าเต็นท์นอนทั่วไป และหากคุณเป็นคนที่เดินทางบ่อย ต้องใช้เต็นท์เดินป่าอยู่เสมอ การพิจารณาเลือกซื้อเต็นท์ที่ดี มีคุณภาพสูง ทนทาน และช่วยให้คุณนอนหลับได้อย่างสบาย จึงเป็นสิ่งสำคัญ กลับกันเพราะหากนาน ๆ ครั้งจะได้เดินป่าค้างแรม ซึ่งหมายความว่าจะไม่ได้ใช้งานเต็นท์บ่อยนัก แต่กลับเลือกเต็นท์ราคาสูงมาก ก็อาจทำให้ไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป ดังนั้นในการเลือกซื้อจึงควรคำนึงถึงความถี่ในการใช้งานเต็นท์ด้วยค่ะ
  • กี่คนที่จะไปแคมป์ปิ้งกับคุณ ขนาดของเต็นท์ก็เป็นอีก 1 ประเด็นหลักในการเลือกซื้อ เพราะเต็นท์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น จะมีขนาดความกว้าง ความยาว ความสูง ที่แตกต่างกัน ซึ่งมีผลทำให้ราคาต่างกันตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น ซึ่งส่วนใหญ่จะระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเหมาะสำหรับนอนกี่คน ดังนั้นก่อนเลือกซื้อเต็นท์ คุณควรต้องรู้ว่าจะมีสมาชิกในที่จะออกเดินทางแคมป์ปิ้งด้วยกันกี่คน และสามารถนอนรวมกันในเต็นท์ขนาดใหญ่ได้หรือไม่ เพราะการเลือกซื้อเต็นท์ใหญ่ที่เหมาะกับครอบครัวนอกจากจะช่วยประหยัดทั้งเงิน และไม่ต้องเสียเวลากางหลายเต็นท์แล้ว ยังเป็นการช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้สมาชิกที่ร่วมเดินทางได้ด้วยค่ะ
  • ต้องแบกไปไกลๆ หากคุณเป็นนักเดินป่า หรือเคยเดินป่ามาบ้าง ย่อมรู้ดีว่าน้ำหนักของอุปกรณ์เป็นอีกอุปสรรคสำคัญที่ทำให้เรารู้สึกล้าและหมดแรงได้ง่าย ดังนั้นหากคุณต้องเดินป่าระยะไกลหรือต้องเดินทางเป็นเวลานาน การเลือกเต็นท์นอนที่มีน้ำหนักเบาจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากคุณต้องแบกเต็นท์ที่นำหนักเยอะและเมื่อรวมกับสัมภาระต่าง ๆ อีกนอกจากจะทำให้เหนื่อยล้าแล้วอาจมีอาการปวดหลังและไหล่ตามมาด้วยค่ะ
  • คุณต้องการเต็นท์ประกอบง่ายแค่ไหน บ่อยครั้งที่เราต้องเสียเวลาในการกางเต็นท์ร่วมชั่วโมง และหากเป็นสภาพภูมิประเทศที่จำกัด เป็นโขดหินหรือไม่มีต้นไม้ใหญ่ให้ผู้ติดแล้วละก็ ยิ่งทำให้การกางเต็นท์ยากลำบาก แต่ปัจจุบันได้มีเต็นท์แบบกางอัตโนมัติที่คุณเพียงดึงลักตรงส่วนหัวเต็นท์ ก็สามารถกางออกมมาได้อย่างง่ายดาย โดยเต็นท์แบบกางอัตโนมัตินี้เหมาะที่จะใช้งานในทุกพื้นที่ และเหมาะกับมือใหม่ แต่อาจจะมีราคาแพงกว่าเต็นท์แบบกางด้วยมือเล็กน้อยค่ะ 
  • ขนาดและความจุในการนอน สำหรับนักเดินป่าทั้งหมาย มักใช้เต็นท์เป็นที่นอนหลับพักผ่อนในยามค่ำคืน เพื่อเติมพลังในการตื่นมารับพลังงานความสดชื่นของธรรมชาติในเช้าวันใหม่ ดังนั้นหลาย ๆ คนจึงให้ความสำคัญกับขนาดของเต็นท์ ซึ่งที่เราแนะนำคือหากเป็นเต็นท์สำหรับนอนคนเดียว แม้จะมีพื้นที่ไม่มาก แต่ควรเลือกให้มีพื้นที่ให้พลิกตัวไปมาได้สะดวก หากเป็นเต็นท์สำหรับนอน 2 ก็ควรเลือกขนาดที่กว้างพอให้แต่ละคนนอนไม่อึดอัดเกินไป และหากเป็นเต็นท์ขนาดตั้งแต่ 3 – 5 คน ก็ต้องมีขนาดใหญ่และมีพื้นที่สำหรับให้แต่ละคนวางสำภาระหรือเข้าออกได้สะดวก และหากเป็นเต็นท์ขนาดใหญ่ สำหรับครอบครัวก็ควรเลือกเต็นท์ที่จัดแบ่งเป็นสัดส่วน เพื่อให้แต่ละคนดี้พื้นที่ในการทำกิจกรรมพักผ่อนอย่างสบายใจค่ะ
  • อากาศและฤดูกาล เนื่องจากประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อนชื้น ดังนั้นคุณสมบัติของเต็นท์ที่เราแนะนำคือ ควรมีโครงสร้างที่ออกแบบมาเพื่อระบายอากาศได้ดี และสามารถป้องกันรังสียูวีได้ ทั้งนี้หากคุณเลือกที่จะเดินป่าหน้าฝนก็ไม่ควรลืมดูเต็นท์ที่มีคุณสมบัติกันน้ำ และทนทานต่อแรงลมด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกใช้เป็นผ้าออกฟอร์ด หรือการเคลือบกันน้ำ และนอกจากเนื้อผ้าก็ควรตรวจสอบโครงเหล็ก ต้องเป็นโครงคุณภาพดี ไม่หักง่าย และมีน้ำหนักเบา เพื่อให้พกพาสะดวกและใช้งานได้ยาวนานค่ะ
  • วัสดุและการระบายอากาศ วัสดุเต็นท์เดินป่าจะแบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือวัสดุผ้าเต็นท์และโครงสร้างเหล็ก

ประเภทของเต็นท์

เมื่อได้รู้จักทริคการเลือกซื้อเต็นท์กันไปแล้ว สิ่งที่เราอยากให้คุณได้รู้เพิ่มเติมคือประเภทของเต็นท์แต่ละชนิด ที่ได้จำแนกออกมา เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาและเลือกคุณสมบัติให้เหมาะสมดังนี้ค่ะ

  • เต็นท์ป็อปอัพ เต็นท์เดินป่าที่เราเห็นทั่ว ๆ ไป และที่นิยมใช้กันมากในนักเดินป่า คือเต็นท์แบบป็อปอัพ ที่จะมีขนาดพอดีกับคนนอน มีทั้งแบบที่กางอัตโนมัติและกางด้วยตนเอง ส่วนใหญ่เน้นความทนทาน การใช้งานที่สะดวกและพกพาง่ายเป็นหลัก ซึ่งเหมาะกับคนที่เดินป่าเป็นประจำ
  • เต็นท์โดม เต็นท์โดมจะมีลักษณะรูปทรงสวยงาม ยอดหลังคาแหลมสูงคล้ายโดม พื้นที่ใช้สอยด้านในโอ่โถงกว้างขวาง ส่วนใหญ่ใช้ในการออกแคมป์หรือกิจกรรมตามสถานที่พักผ่อนตากอากาศ หรือตามรีสอร์ทส่วนใหญ่ที่มีธรรมชาติและทิวทัศน์สวยงามมักเลือกเต็นท์โดมเป็นห้องสำหรับให้นักท่องเที่ยวได้เข้าพักเพื่อดื่มด่ำและซึมซับบรรยากาศธรรมชาติมากขึ้นค่ะ
  • เต็นท์ครอบครัว สำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ ที่ชื่นชอบการเดินทางแคมป์ปิ้ง การเลือกเต็นท์แบบขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนได้ทั้งครอบครัวอย่างเต็นท์ครอบครัว นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากค่ะ เพราะนอกจากตัวเต็นท์จะมีขนาดใหญ่จุคนมากกว่า 8 – 12 คนแล้ว ยังมีการออกแบบแบ่งสัดส่วนเป็นพื้นที่นอนและพื้นที่นั่งเล่นทำกิจกรรมร่วมกันของสมาชิกในครอบครัวอีกด้วย แม้จะมีราคาสูง แต่หากครอบครัวไหนที่ชอบเดินทางบ่อย ๆ ซื้อไว้เพื่อเป็นที่นอน แทนการนอนพักที่โรงแรมหรือรีสอร์ทก็นับว่าคุ้มค่าค่ะ
  • เต็นท์ผ้าใบ เต็นท์ผ้าใบ หรือเต็นท์แบบฟลายชีท อีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญที่คนเดินป่าควรพกติดกระเป๋า เพื่อเป็นการป้องกันเต็นท์หรืออุปกรณ์ภายในไม่ให้เปียกเมื่อโดนพายุฝน ทั้งยังช่วยกันลมและแสงแดดได้อีกด้วย ซึ่งเต็นท์ผ้าใบจะมีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก ไม่เปลืองพื้นที่จัดเก็บทั้งยังมีราคาย่อมเยา และใช้งานได้อเนกประสงค์มากค่ะคลิกที่นี่เพื่อดูอุปกรณ์เดินป่าที่ยอดเยี่ยมอื่นๆ เช่น กระเป๋าเดินป่า รองเท้าเดินป่า และกางเกงเดินป่า
เต็นท์ที่ดีที่สุด

คำถามและคำตอบ

คุณต้องการอะไรอีกในการตั้งเต็นท์ของคุณ


เมื่อคุณมีเต็นท์แล้ว อุปกรณ์ที่ต้องใช้คู่กันได้แก่ 
เชือกซึ่งส่วนใหญ่อาจมีมาให้แล้วพร้อมเต็นท์ แต่มักมีความยาวไม่เพียงพอหรือไม่แข็งแรงเท่าที่ควร 
ผ้าใบปูรองเต็นท์ แม้เต็นท์เดินป่าส่วนใหญ่จะการันตีว่ามารถกันน้ำได้ แต่สำหรับพื้นเต็นท์ที่อาจต้องเจอน้ำไหลผ่านเมื่อฝนตกหนักนั้น อาจไม่สามารถทนความเปียกชื้นอนั้นได้ ดังนั้นก่อนกางเต็นท์จึงควรมีผ้าปุรองพื้นก่อนค่ะ
ฟลายชีท หากคุณมีเต็นท์ที่กันน้ำและแรงลมได้ดี ทาจไม่ต้องใช้ฟลายชีท แต่หากเต็นท์ไม่ได้มีคุณสมบัติกันน้ำได้ 100% ทั้งยังไม่ทนทานต่อแรงลมพายุ การกางฟลายชีทไว้เหนือหลังคาเต็นท์จะเป็นเหมือนเกราะป้องกันฝนและพายุให้คุณได้ค่ะ
สมอบก อุปกรณ์ตัวน้อยที่มาพร้อมกับเต็นท์ แต่บ่อยครั้งที่เราอาจไม่ได้ใส่ใจกับชิ้นส่วนเล็ก ๆ นี้มากนัก ทั้งที่สมอบกเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ยึดเต็นท์ให้กับพื้นไม่ให้ปลิวไปเมื่อเจอลมแรง หรือขยับเมื่อคุณพลิกตัว

รูปทรงของเต็นท์ส่งผลต่อความทนทานต่อสภาพอากาศหรือไม่


หลาย ๆ คนอาจสงสัยว่าทำไมเต็นท์เดินป่าส่วนใหญ่ที่มืออาชีพนิยมใช้จึงมีลักษณะกะทัดรัดและโค้งมน นั่นก็เพราะการออกแบบให้เต็นท์เพรียวและลู่ลมจะเป็นการช่วยลดแรงต้านลมเมื่อเกิดพายุฝน ช่วยให้เต็นท์ไม่พังหรือเสียหาย และวัสดุหรือเนื้อผ้าส่วนใหญ่ที่มีความพริวและยืดหยุ่นก็เพื่อรองรับการใช้งานในสภาพอากาสที่แปรปรวนเช่นนี้นั่นเองค่ะ

Photo of author

Tanawat

ธนวัฒน์ชอบแกดเจ็ตและเทคโนโลยี เขาสนุกกับการทดสอบ ทบทวน และเล่นกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อื่นๆ เขาชอบดูการแข่งขันพรีเมียร์ลีก เดินป่า และท่องเที่ยวไปต่างประเทศ

Leave a Comment