แคลเซียมยี่ห้อไหนดีที่สุดในปี 2024 รีวิว 10 อันดับแรกของแบรนด์

โดยปกติแล้วร่างกายคนเราควรได้รับสารอาหารต่าง ๆ ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย สารอาหารบางอย่างอย่างแคลเซียมนั้น ร่างกายจำเป็นต้องได้การรับประทานจากแหล่งอาหารในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดการนำไปใช้ประโยชน์เรื่องการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก และฟัน แต่ทั้งนี้ด้วยพฤติกรรมการบริโภค

รวมถึงความเสื่อมตามวัยของแต่ละคน อาจทำให้แต่ละคนได้รับปริมาณแคลเซียมในปริมาณที่ต่ำกว่าปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน ทำให้การมองหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อช่วยเสริมแคลเซียมให้กับร่างกายจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยวันนี้เราจะพาทุกคนมาเลือกแคลเซียมยี่ห้อไหนดีที่เหมาะสมกับคุณ 

10 แคลเซียม

1. โดยรวมที่ดีที่สุดOMG Lazada/Shopee
2. งบประมาณที่ดีที่สุด
MegaWeCare Calcium D Lazada/Shopee
3. สำหรับหลังวัยหมดประจำเดือน: Real Elixir Vit D Lazada/Shopee
4. เครื่องดื่มผงที่ดีที่สุด: Natwell – I Calcium Lazada/Shopee
5. สำหรับโรคกระดูกพรุน: Clover Plus Lazada/Shopee
6. ดีที่สุดสำหรับเด็ก: Now Kids Lazada/Shopee
7. โดสสูงที่ดีที่สุด: The Nature Lazada/Shopee
8. สำหรับสุขภาพกระดูก: Swisse Ultiboost Lazada/Shopee
9. ออร์แกนิคที่ดีที่สุด: MyKind Organics Lazada/Shopee
10. ซิเตรตที่ดีที่สุด: Kirkland Lazada/Shopee

แคลเซียม ยี่ห้อไหนดี 2024

1. OMG – Caltinum

แคลเซียมโดยรวมที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • ประสิทธิภาพค่อนข้างดี ตามผลการวิจัย
  • มาตรฐานการรับรองความปลอดภัยหลากหลายที่ยืนยัน
  • มีเกลือแคลเซียมที่ดูดซึมได้ดีที่สุดเป็นส่วนประกอบ
ข้อเสีย
  • ราคาค่อนข้างสูง

แคลตินั่ม เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงกระดูกและข้อต่อ โดยในผลิตภัณฑ์นี้จะมีส่วนประกอบของ Calcium L-Threonate ล้อตามชื่อผลิตภัณฑ์เลย เป็นส่วนประกอบหลัก โดยเกลือของแคลเซียมรูปนี้ เกิดจากกรดอะมิโน ที่ชื่อว่า L-threonic acid ที่มีส่วนช่วยกระตุ้นการดูดซึมวิตามินซี ซึ่งวิตามินซีมีประโยชน์ต่อการสร้างคอลลาเจนในกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อ เป็นเกลือที่ดูดซึมเข้าร่างกายได้อย่างดี รวมทั้งยังมีส่วนประกอบของคอลลาเจน type II ที่ช่วยเสริมคอลลาเจนที่ข้อต่อ และส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น โปรตีนสกัดจากถั่วเหลือง สารสกัดจากเคลป์ ผงแดนดิไลออน ผงน้ำมันปลา ผงใบบัวบก เป็นต้น

เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุน หรือโรคที่เกี่ยวกับกระดูกและข้อ ต้องการเสริมแคลเซียมเข้าไปบำรุงกระดูกและข้อ โดยผลิตภัณฑ์นี้มีงานรับรองว่าประสิทธิภาพสูงกว่า glucosamine และ chondroitin ถึง 2.6 เท่า ช่วยให้ข้อต่อมีความยืดหยุ่นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพิ่มมวลกระดูก ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับมาตรฐานแสดงความปลอดภัยทั้งมาตรฐานการผลิตรับรองโดย GMP ผ่านการตรวจสอบการปนเปื้อนสเตียรอยด์โลหะหนักเชื้อจุลินทรีย์ พร้อมกับได้รับการรับรองความปลอดภัยจากองค์กรระดับโลกอย่าง European Food Safety Authority (EFSA) 

2. MegaWeCare – Calcium D

แคลเซียม งบประมาณที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • ราคาสบายกระเป๋า ถือว่าถูกมาก หากจะเริ่มกิน 
  • มีรีวิวมากมาย หาซื้อง่าย
  • แบรนด์มีความน่าเชื่อถือและเป็นที่นิยมในท้องตลาด
ข้อเสีย
  • เกลือแคลเซียมในผลิตภัณฑ์อาจดูดซึมได้ไม่ดีเท่าบางยี่ห้อ

หากจะพูดถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยี่ห้อดังในประเทศไทยไปที่ร้านยาที่ไหนก็จะพบเห็นได้ก็คงหนีไม่พ้นแบรนด์ Mega Wecare ซึ่งหนึ่งในอาหารเสริมที่ทางแบรนด์ได้ทำออกมาขาย ก็คือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงกระดูกที่มีส่วนประกอบหลักเป็นแคลเซียมและวิตามินดี มาดูประโยชน์ของส่วนประกอบหลักแต่ละตัว เริ่มจากแคลเซียม

เกลือแคลเซียมที่แบรนด์นี้เลือกใช้จะเป็น Calcium carbonate การดูดซึมอยู่ในระดับไม่สูงมาก แต่ส่วนมากผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดก็จะใช้เกลือรูปนี้ เพราะมี หลักฐานการใช้มานาน หนึ่งเม็ดจะมีปริมาณแคลเซียม 600 mg และอีกหนึ่งส่วนประกอบหลักก็คือวิตามินดี 3 มีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย เหมาะกับ ผู้ที่มองหาผลิตภัณฑ์ช่วยสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง

3. Real Elixir – Cal-Cal Plus Vit D

แคลเซียม ดีที่สุดสำหรับหลังวัยหมดประจำเดือน

ข้อดี
  • มีส่วนผสมของวิตามินเคเพิ่มขึ้นมาต่างจากแบรนด์อื่นในท้องตลาด
  •  ราคาถูก
ข้อเสีย

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยบำรุงกระดูก ที่มีส่วนประกอบของcalcium carbonate , vitamin D และ vitamin K ซึ่งสองตัวแรกมักเจอในหลากหลายแบรนด์ แต่วิตามิน K นั้นพบไม่เยอะนัก สำหรับประโยชน์ของแคลเซียม ก็คือช่วยให้ร่างกายมีระดับแคลเซียมที่เหมาะสม ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง โดยในกลุ่มที่เป็นสตรีวัยหมดประจำเดือนนั้นโดยปกติแล้วระดับแคลเซียมอาจลดลงได้ สัมพันธ์กับระดับฮอร์โมนเพศที่ลดลง

ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุน แคลเซียมจึงมีความสำคัญอย่างมากในผู้หญิงกลุ่มนี้ รวมถึงบุคคลอื่นๆ ที่ขาดแคลเซียมต้องการทานเสริม ก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์นี้ได้เข่นกัน ส่วนประโยชน์ของวิตามินดีมันจะช่วยดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ไปบำรุงกระดูก และวิตามินเค จะช่วยเข้าไปเสริมสร้างองค์ประกอบของกระดูกและฟัน ทั้งนี้ขออธิบายต่อเกี่ยวกับแคลเซียมในผู้หญิง อย่างที่บอกมาแล้วว่าในวัยหลังหมดประจำเดือนจะมีโอกาสแคลเซียมลด จึงแนะนำให้ผู้หญิงทานแคลเซียมให้เพียงพอเสมอตั้งแต่อายุยี่สิบปลายๆ ถึงสามสิบต้นๆ ซึ่งใครที่คิดว่าตัวเองทานไม่พอก็อาจจะทานเสริมได้ 

4. Natwell – I-Calcium Powdered orange flavor drink

แคลเซียม เครื่องดื่มผงที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • รูปแบบเป็นเครื่องดื่มเป็นผงชงน้ำ
  • พกพาสะดวก ทานง่าย
  • เหมาะกับคนไม่ชอบทานรูปแบบเม็ด
  • มีส่วนประกอบอย่างอินนูลินที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม
  • รวมถึงช่วยประโยชน์ด้านทางเดินอาหารต่าง ๆ
  • ขับถ่าย ประบสมดุลลำไส้
ข้อเสีย
  • ราคาค่อนข้างสูง

ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มาในรูปแบบเครื่องดื่มมีส่วนผสมหลักอย่างอินนูลิน และส่วนประกอบรองลงมาจะเป็น Calcium-L-Threonate, Collagen type II, green tea extract พร้อมทั้งแร่ธาตุและวิตามินอื่น ๆ อีกมากมาย ทางแบรนด์เคลมเรื่องผลิตภัณฑ์ช่วยบำรุงกระดูกช่วยภาวะกระดูกพรุนบำรุงกระดูกอ่อนช่วยเรื่องข้อเข่าอักเสบ ซึ่ง ถ้าดูจากส่วนประกอบที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ตัวนี้ก็สามารถเคลมเรื่องดังกล่าวได้จริง

โดยตัวเกลือแคลเซียมที่อยู่ในผลิตภัณฑ์นี้สามารถดูดซึมได้ดี ลดผลข้างเคียงในเรื่องของท้องผูกถ้าเทียบกับเกลืออื่นๆ ส่วน collagen type II สกัดมาจากหนังปลาแซลมอน ช่วยเสริมสร้างกระดูกอ่อน และสำหรับความแตกต่างของเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของแคลเซียมแบรนด์นี้คือส่วนประกอบหลักอย่างอินนูลิน ซึ่งถือว่าเป็นพรีไบโอติกตัวหนึ่งมีเส้นใยอาหารสูง มีส่วนช่วยทั้งในเรื่องรวชาติของเครื่องดื่ม พร้อมทั้งยังช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมไปยังกระดูก ปิดท้ายด้วยมาตรฐานรับรองในผลิตภัณฑ์นี้ คือ มาตรฐาน HACCP และสัญลักษณ์ตราอาหารฮาลาล

5. Clover Plus – CalCad Calcium Plus 

แคลเซียม ดีที่สุดสำหรับโรคกระดูกพรุน

ข้อดี
  • ชูเรื่องวิตามินบีรวม มาเพิ่มเติม
  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องกระดูก
  • บวกกับอาการอ่อนล้า
  • ราคาถูกมาก
ข้อเสีย

อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงกระดูกและฟัน เหมาะกับคนที่กลุ่มเสี่ยงเข้าสู่ภาวะขาดแคลเซียม หรือเสี่ยงต่อการเกิดโรคข้อเสื่อม กระดูกพรุน กระดูกหักง่าย เล็บเปราะหักง่าย อันเกิดจากปัจจัยด้านอายุ เพศและพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเคท ได้เคลมข้อดีที่เหนือกว่าแบรนด์อื่น ๆ ไว้ว่า ผลิตภัณฑ์นี้มีส่วนประกอบของวิตามิน ที่ช่วยเรื่องการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย และไม่ทำให้ท้องผูก

หรือเกิดการท้องผูกน้อยกว่าแบรนด์ที่ใช้ calcium carbonate ตัวเดียว ตัวแคลเซียมประกอบด้วยเกลือแคลเซียม 2 ตัว คือ calcium carbonate และ calcium amino acid chelate และmagnesium amino acid chelate+ วิตามินดี 3 + วิตามิน C ที่ทุกคนทราบดีแล้วว่าสารอาหารเหล่านี้มีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกได้อย่างดี นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์นี้ยังมีส่วนผสมของวิตามินบีรวม ที่ช่วยลดอาการอ่อนล้าได้ 

6. Now – Kids Calcium +Vitamin D+ Magnesium Chewable

แคลเซียม ดีที่สุดสำหรับเด็ก

ข้อดี
  • ผลิตภัณฑ์ที่คิดมาเพื่อเด็กโดยเฉพาะ
  • มีเกลือแคลเซียมที่ไม่ค่อยมีผลให้ท้องผูก
  • มีมาตรฐานรับรองความปลอดภัยกำกับชัดเจน
ข้อเสีย
  • ราคาค่อนข้างสูง

ว่าด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเซียมที่เป็นรูปแบบของเม็ดแคปซูลและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแคลเซียมไปแล้ว อันนี้มาในอีกรูปแบบเหมาะกับเด็ก ๆ รูปแบบเม็ดที่เคี้ยวได้ รสส้ม หอมอร่อย รสชาติหวานกำลังดี โดยใช้สารทดแทนความหวานอย่างหญ้าหวานมาเป็นตัวทำให้เกิดรสหวาน มีส่วนประกอบแคลเซียมที่เหมาะกับความต้องการแคลเซียมต่อวันในช่วงวัยเด็ก และยังมี แมกนีเซียม วิตามินเอ และวิตามินรวมอยู่ด้วยในหนึ่งเม็ด

รูปเกลือแคลเซียมเป็นเกลือซิเตรต ที่ดูดซึมได้ดี มีผลข้างเคียงเรื่องท้องผูกน้อย สำหรับวิตามินเอ ที่มีเข้ามา จะช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ทำให้เคลมเรื่องบำรุงกระดูกและฟันของเด็ก มีส่วนช่วยเพิ่มความสูง ผลิตภัณฑ์นี้ เป็นผลิตภัณฑ์ ที่มีมาตรฐานรับรองความปลอดภัย อย่าง มาตรฐานการผลิต GMP และรับรองว่าผลิตภัณฑ์นี้ไม่เป็น GMO ส่งตรงมาจากประเทศอเมริกา  เด็กที่แพ้นมวัวสามารถทานผลิตภัณฑ์นี้เสริมแคลเซียมได้

7. The Nature – Calcium Plus 1000mg

แคลเซียม โดสสูงที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • มีส่วนประกอบหลักที่ ช่วยบำรุงกระดูกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิงที่เริ่มเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน
  • ราคาถูก
ข้อเสีย

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรูปแบบเม็ดที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกระดูก ช่วยป้องกันกระดูกเปราะ เพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก ด้วยส่วนผสมหลักทั้งแคลเซียม คอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึก และโปรตีนจากถั่วเหลือง รูปแบบของเกลือแคลเซียมจะเป็นคาร์บอเนต การดูดซึมอาจไม่ดีเท่าเกลืออื่น มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงเรื่องท้องผูก ส่วนคอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึกนอกจากจะได้เรื่องกระดูกอ่อน แล้วยังช่วยเรื่องผิว

และโปรตีนจากถั่วเหลืองมีส่วนประกอบของสารที่มีลักษณะคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่เรียกว่า phytoestrogen ซึ่งตามร่างกายปกติโดยเฉพาะในกลุ่มหญิงที่ยังมีประจำเดือนจะมีการผลิตเอสโตรเจนอยู่ ตัวเอสโตรเจน เป็นสารที่มีบทบาทสำคัญในการดูดซึมแคลเซียมเมื่อหญิงใกล้เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนระดับฮอร์โมนตัวนี้ก็จะค่อยลดลง และจากที่มีส่วนประกอบจากปลาทะเลน้ำลึก ผู้ที่แพ้อาหารทะเลอาจจะต้องระมัดระวังการใช้

8. Swisse Ultiboost Calcium with Vitamin-D

แคลเซียม ดีที่สุดสำหรับสุขภาพกระดูก

ข้อดี
  • แบรนด์ค่อนข้างมีชื่อเสียง
  •  เป็น vegetarian friendly
  • ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาลเพิ่มความหวาน, lactose, gluten ไม่มีสารแต่งกลิ่น สี รส สังเคราะห์
  • ราคาถูก
ข้อเสีย
  • ตัวครีมเข้มข้นล้างออกค่อนข้างยาก

ต่อกันด้วยแบรนด์อาหารเสริมแคลเซียมที่มาในรูปแบบของเม็ดอีกแล้ว แต่เขาเคลมว่าของแบรนด์เขาเป็นรูปแบบเม็ดที่ได้รับการเคลือบสารบางอย่างทำให้เป็นรูปแบบเม็ดที่กลืนได้ง่าย มีแคลเซียมและวิตามินดีสามเป็นส่วนประกอบในแต่ละเม็ด ซึ่งทั้งสองส่วนประกอบ มีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูก สำหรับผู้ที่เสี่ยง ต่อการขาดแคลเซียม

หรือมีความต้องการได้รับแคลเซียมให้เพียงพอในแต่ละวัน ทั้งนี้ทางแบรนด์พยายามชี้ให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์นี้เกิดมาจากพื้นฐานความรู้ที่ได้มาจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพและความปลอดภัย จุดเด่นอื่นๆ ที่น่าทึ่งคือแบรนด์ SWISS เป็น แบรนด์อาหารเสริมอันดับหนึ่งของออสเตรเลีย ในส่วนของผลิตภัณฑ์ตัวนี้ เป็น vegetarian friendly ไม่ใส่น้ำตาล ไม่เติม lactose  ไม่เติม gluten ไม่มีสารแต่งกลิ่น สี รส สังเคราะห์ 

9. MyKind Organics – Organic Plant Collagen Builder

แคลเซียม ออร์แกนิคที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • ผลิตภัณฑ์ออร์กานิค รับรองโดยองค์กรที่น่าเชื่อถือ 
  • ไม่มีส่วนผสมของถั่ว หรือหอย ที่อาจทำให้แพ้ได้
ข้อเสีย
  • เน้นบำรุงผิว ไม่เน้นบำรุงกระดูก

แบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เคลมเรื่องความออร์แกนิคนำเข้าจากประเทศอเมริกาตัวนี้ ไม่ได้มีส่วนประกอบของแคลเซียม หรือวิตามินดี แต่จะเน้นส่วนประกอบที่เป็นวิตามินและแร่ธาตุรวม พร้อมกับสารสกัดจากธรรมชาตินานาชนิด เช่น สารสกัดจาก spinach leaf, สารสกัดจาก Sesbania grandifora leaf, สารสกัดจาก ผลของ amla berry, สารสกัดจากผลและใบฝรั่ง, สารสกัดจากผลแอปเปิ้ล, สารสกัดจากผลไม้ตระกูลเบอรี่ เป็นต้น

ซึ่ง ทำให้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมนี้มีคุณประโยชน์ในการช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใสบำรุงผมและเล็บให้แข็งแรง กระชับรูขุมขนริ้วรอยต่างๆให้ดูเลือนลง และอย่างที่ได้กล่าวเอาไว้ผลิตภัณฑ์สารสกัดทุกชนิดได้รับการรับรองว่าเป็น ออร์แกนิค จากองค์กร USDA ไม่ต้องกังวลเรื่องส่วนผสมที่อาจทำให้เกิดการแพ้อย่างถั่ว ไม่มีส่วนผสมของสีสังเคราะห์และสารกันเสีย

10. Kirkland – Signature Calcium Citrate Magnesium and Zinc

แคลเซียมซิเตรตที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • มีส่วนผสมของ zinc ที่ทางแบรนด์ชูให้เด่นขึ้นมา
  • เม็ดขนาดไม่ใหญ่มากเกินไป
  • ไม่มีส่วนประกอบของสีสังเคราะห์
  • สารปรุงแต่งรสสังเคราะห์
  • ไม่มียีสต์ หรือกลูเตน และแลคโตส
  • มีมาตรฐานการรับรองจาก USP
  • ราคาค่อนข้างถูก
ข้อเสีย
  • ไม่ได้ชูเรื่องการได้รับการรับรองจากองค์กรในเมืองไทย

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรูปแบบของแคลเซียมตัวสุดท้ายที่ จะนำมาฝากทุกคนในวันนี้ ก็คือ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมตัวนี้ มีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงกระดูกทั้งแคลเซียมที่มาในรูปแบบของเกลือซิเตรต ดูดซึมค่อนข้างดี ลดผลข้างเคียงเรื่องอาการท้องผูกเมื่อเทียบกับบางยี่ห้อที่เป็นเกลือคาร์บอเนต อีกทั้งยังมี vitamin D3 , magnesiumที่ช่วยส่งเสริมเรื่องการดูดซึมแคลเซียมเข้าไปบำรุงกระดูก และ zinc

ที่มีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันผ่านเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการ ในด้านของมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ได้รับการรับรองจากหัวข้อทดสอบตาม USP และมั่นใจเรื่องความปลอดภัยจากการแพ้ พวกสารสังเคราะห์หรือสารก่อแพ้บางอย่าง เพราะผลิตภัณฑ์นี้ไม่มีส่วนประกอบของสีสังเคราะห์ สารปรุงแต่งรสสังเคราะห์ ไม่มียีสต์ หรือกลูเตน และไม่มีส่วนผสมของแลคโตส 

คู่มือการซื้อ แคลเซียม

คู่มือการซื้อ แคลเซียม

แคลเซียมคืออะไร และมีผลต่อร่างกายอย่างไร

แคลเซียม เป็นหนึ่งในแร่ธาตุที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของส่วนประกอบในร่างกายอย่างกระดูกและฟัน พบประมาณ ร้อยละ 99 ซึ่งตัวแคลเซียม จะเป็นตัวที่มีส่วนช่วยทำให้ โครงสร้างของกระดูกและฟันแข็งแรง และเพิ่มมวลกระดูก นอกจากแคลเซียม จะอยู่ในเนื้อกระดูกแล้ว แคลเซียม ยังอยู่ในกระแสเลือด เพื่อสมดุลไอออนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบอวัยวะอื่น เช่น ระบบกล้ามเนื้อ แคลเซียมจะมีส่วนเกี่ยวกับกับกลไกการเกิดการหดตัวและคลายตัวของกล้ามเนื้อ

ระบบขับถ่าย ผ่านไต ออกมาในรูปแบบปัสสาวะ แคลเซียมจะมีส่วนช่วยในการรักษาสมดุลของไอออน ระบบหัวใจและหลอดเลือด แคลเซียมจะเข้าไปมีผลต่อการเต้นของหัวใจ เป็นต้น จะเห็นได้ว่าในภาวะปกติแคลเซียมมีประโยชน์อย่างมากต่อร่างกาย ทั้งนี้หากร่างกายของคนเราขาดแคลเซียมไป อันเนื่องมาจากสาเหตุต่าง ๆ ทั้ง การรับประทานอาหารแคลเซียมไม่เพียงพอ หรือเหตุจากวัย อย่างที่เห็นได้ชัดคือ หญิงวัยหมดประจำเดือน โดยปกติแล้วฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีในเพศหญิงวัยเจริญพันธุ์มีส่วนสำคัญในการดูดซึมแคลเซียมเข้ากระดูก เ

มื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ฮอร์โมนดังกล่าวจะลดลง ทำให้ร่างกายเกิดภาวะแคลเซียมน้อยลง ร่างกายจึงสั่งให้สลายแคลเซียมในกระดูกออกมา จนทำให้สมดุลของการสลายกระดูกและสร้างกระดูกผิดปกติ จนทำให้โครงสร้างของกระดูกไม่แข็งแรงดังเดิม นำไปสู่โรคกระดูกพรุน และเสี่ยงต่อการเกิดการกระดูกหักได้ ดังนั้นเมื่อเห็นความสำคัญของแคลเซียมแล้ว หากคุณรู้ว่าคุณเป็นคนที่ค่อนข้างจะขาดพฤติกรรมการที่ดี ทานอาหารไม่ครบถ้วน การมองหาอาหารเสริมจึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ

ประโยชน์ต่อสุขภาพของแคลเซียมมีอะไรบ้าง

  • ป้องกันการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูกและฟัน เช่น โรคข้อเสื่อม โรคกระดูกพรุนโดยเฉพาะที่มักเกิดกับหญิงวัยหมดประจำเดือน โรคฟันผุ เป็นต้น เนื่องจากแคลเซียม จะเข้าไปช่วยเสริมสร้างมวลกระดูกและความแข็งแรงของกระดูกให้ไม่เปราะหักง่าย 
  • เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง และ เติบโตเหมาะสมกับช่วงวัย
  • ทำให้การควบคุมการหดคลายกล้ามเนื้อเป็นไปอย่างปกติ
  • ช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินบี 12
  • มีส่วนช่วยในการนำสัญญาณของระบบประสาทให้เร็วขึ้น
  • เป็นหนึ่งในองค์ประกอบของพวกเอนไซม์ในระบบทางเดินอาหาร

ปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวันให้เหมาะสมกับแต่ละคนอยู่ที่เท่าไหร่

ตามคำแนะนำของกรมอนามัย ปริมาณแคลเซียมที่แต่ละคนควรได้รับเข้าสู่ร่างกาย คือ  600-800 มิลลิกรัมต่อวันสำหรับผู้ที่อายุน้อยกว่าหรือเท่ากับ 50 ปี และ 1,000 มิลลิกรัมต่อวันสำหรับผู้ที่มีอายุ 51 ปีขึ้นไป หากเป็นหญิงตั้งครรภ์

หรือให้นมบุตรอยู่ก็ควรได้รับ 1,000-1,500  มิลลิกรัมต่อวัน อย่าให้ขาดเด็ดขาด สำหรับกลุ่มวัยอื่น ๆ เช่น ทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน ควรได้รับ 210 มิลลิกรัมต่อวัน, ทารก 6-12 เดือน ควรได้รับ 260 มิลลิกรัมต่อวัน, เด็กอายุ 1-3 ปี ควรได้รับ 500 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นต้น

แคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium carbonate), แคลเซียมซิเตรต (Calcium citrate) และแคลเซียมแอลทรีโอเนต (Calcium-L-Threonate) ต่างกันอย่างไร

แคลเซียมทั้งสามชนิดเป็นเกลือแคลเซียมต่างชนิดกัน แตกต่างกันในเรื่องของความสามารถการดูดซึมจากทางเดินอาหารเข้าสู่กระแสเลือกก่อนจะถูกส่งต่อไปยังกระดูก โดยแคลเซียมแอลทรีโอเนต (Calcium-L-Threonate) จะเป็นเกลือที่ดูดซึมได้ดีที่สุด รองลงมาจะเป็น แคลเซียมซิเตรต (Calcium citrate) และ แคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium carbonate) ตามลำดับ

รวมถึงแตกต่างเรื่องการให้ปริมาณแคลเซียมอิสระแตกต่างกันด้วย เช่นเกลือแคลเซียมซิเตรต 100 มิลลิกรัมจะได้ปริมาณแคลเซียม 21 มิลลิกรัม, เกลือแคลเซียมคาร์บอเนต 100 มิลลิกรัมจะได้ปริมาณแคลเซียม 40 มิลลิกรัม เป็นต้น ที่ทราบตรงนี้ไว้ เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้นว่าแต่ละยี่ห้อทำไมถึงให้รับประทานปริมาณไม่เท่ากัน เพื่อให้ได้ปริมาณแคลเซียมที่เหมาะสมต่อวัน ยกตัวอย่างการคำนวณพอกรุบกริบ ให้เข้าใจง่าย ๆ 1 ตัวอย่าง คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร A

มีปริมาณแคลเซียมคาร์บอเนต 1,500 มิลลิกรัม = 0.4 * 1,500 = ปริมาณแคลเซียม 600 มิลลิกรัม สามารถทานได้ 1-2 เม็ดต่อวันมีความเหมาะสม และอาการข้างเคียงท้องผูกเอง ก็มักสัมพันธ์กับเกลือแคลเซียมคาร์บอเนต มากที่สุด โดยสามารถแก้ได้โดยการดื่มน้ำตามมาก ๆ 

กลุ่มคนที่เหมาะกับการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเซียมคือใครบ้าง

  • กลุ่มคนที่มีภาวะขาดแคลเซียม โดยได้รับคำแนะนำให้ทานอาหารเสริม เช่นหญิงตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันภาวะกระดูกพรุน ผู้ที่ผ่าตัดต่อมพาราไทรอยด์ ผู้ที่เป็นโรคไต เป็นต้น เน้นย้ำว่าควรอยู่ใต้การพิจารณาของบุคลากรทางการแพทย์จะดีที่สุด เพราะบางครั้งแพทย์อาจเลือกใช้เสริมเป็นผลิตภัณฑ์ยาไปเลย เนื่องจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเซียมในท้องตลาดประกอบด้วยส่วนประกอบอื่น ๆ นอกเหนือจากแคลเซียมเพียงอย่างเดียว 
  • ผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป ยาวไปจนถึงวัยหมดประจำเดือน เพราะผู้หญิงมีโอกาสเกิดโรคกระดูกพรุนมากกว่าผู้ชาย ต้องทำการเตรียมร่างกายให้มีแคลเซียมเพียงพอเสมอ

วิธีการรับประทานที่เหมาะสมเพื่อให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีที่สุดทำอย่างไร

โดยปกติแล้วแคลเซียมจะถูกดูดซึมได้ดี แนะนำทานพร้อมมื้ออาหาร ช่วงที่มีกรดหลั่งเข้ามาในกระเพาะอาหาร ตัวกรดจะช่วยทำให้แคลเซียมดูดซึมดีขึ้น หรือหากสะดวกรับประทานเป็นพร้อมอาหารเย็นจะเป็นมื้อที่เหมาะสมที่สุด ทั้งนี้ต้องระวังยาทานร่วมกับยาที่มีธาตุเหล็ก หรือธาตุแมกนีเซียม เพราะอาจรบกวนการดูดซึมได้

นอกจากนี้อาหารที่มีออกซาเลต และไฟเตทที่อยู่ในอาหารทั่วไป อาจรบกวนการดูดซึม การรับประทานอาหารเค็ม เหล้าเบียร์ ชากาแฟ สิ่งเหล่านี้จะเพิ่มการขับแคลเซียมออกไปทางปัสสาวะลดการดูดซึมอีกทาง และหากอยากเพิ่มการดูดซึม ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินดีเป็นองค์ประกอบ

หากรับประทานแคลเซียมมากเกินไปจะส่งผลอย่างไรต่อร่างกาย

  • การทานเกลือแคลเซียมคาร์บอเนตมากเกินไปอาจทำให้พบอาการข้างเคียงหนึ่งชัดขึ้นมา คืออาการท้องผูก อย่างเห็นได้ชัด แนะนำให้ดื่มน้ำตามมาก ๆ พอจะช่วยได้
  • ปริมาณแคลเซียมแคลเซียมที่มากเกินไป อาจถูกขับออกทางไต แต่หักขับออกไม่หมดและสะสมต่อกันเรื่อย ๆ แคลเซียมจะเป็นก้อนนิ่ว ที่อาจทำให้เป็นโรคนิ่วในไตตามมาได้
  • ระดับแคลเซียมที่มากเกินไป อาจส่งผลต่อการทำงานของระบบกล้ามเนื้อ ระบบหัวใจและหลอดเลือด และระบบประสาทมีการทำงานผิดปกติได้

คำแนะนำเพิ่มเติมในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเซียมอย่างปลอดภัย

  • สังเกตเลขทะเบียนอย. ที่อยู่บนฉลาก ทุกผลิตภัณฑ์ที่คุณจะมั่นใจเลือกใช้ได้อย่างปลอดภัย ควรผ่านการตรวจสอบจากองค์กรที่กำกับดูแลเรื่องนี้อย่างอย.
  • ตรวจสอบส่วนประกอบอื่น ๆ ในผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้คุณแพ้ได้ เพราะในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั่วไปในท้องตลาดมักไม่ได้มีแค่แคลเซียมเป็นส่วนประกอบ อาจจะพบสารสกัดจากพืชบางชนิด หรือแม้กระทั่งสารสกัดจากปลาทะเลอย่างคอลลาเจนที่มักผสมลงในผลิตภัณฑ์แคลเซียม ผู้ที่แพ้อาหารทะเลอาจจะต้องระวัง
Best Calcium Supplements

คำถามและคำตอบ

โรคกระดูกพรุนมีอาการอย่างไร

โรค กระดูกพรุน เป็นโรคที่มักเกิดกับผู้ป่วยที่เริ่มต้นมีปัญหาระดับแคลเซียมในเลือดต่ำ ทำให้ร่างกายสั่งการนำแคลเซียมออกมาจากกระดูก เพื่อชดเชยสมดุลแคลเซียมในเลือด เมื่อแคลเซียมในกระดูกถูกดึงออกมา ความแข็งแรงของกระดูกก็จะลดน้อยลง โดยโรคนี้เกิดจากกระบวนการสลายกระดูกที่มันมีมากกว่าการสร้างกระดูกมาทดแทน ทำให้พอชดเชยเข้าเลือด แต่สร้างมาทดแทนในกระดูกไม่ทัน อาการไม่ได้เด่นชัด แต่หากมีการเกิดอุบัติเหตุล้มกระแทก อาการจะแสดงออกมาชัดว่าแม้กระแทกเบา ๆ บางทีก็พบว่ากระดูกอาจแตกหักได้ เมื่อเทียบกับช่วงที่ร่างกายยังปกติ

อาหารใดบ้างที่มีแคลเซียม

แหล่งอาหารที่มีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบ เหมาะกับการรับประทานเพื่อ เพิ่มปริมาณแคลเซียมให้เพียงพอต่อความต้องการต่อวัน เช่น นมและผลิตภัณฑ์จากนม ปลาตัวเล็กที่ทานได้ทั้งกระดูก กุ้งฝอย กุ้งกะปิ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้ขาว น้ำเต้าหู้ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีพวกผักใบเขียว เช่นคะน้า กวางตุ้ง เป็นต้น โดยนม เป็นแหล่งอาหารที่มีแคลเซียมสูง หากจะเลือกรับประทานนม แนะนำให้ระวังเรื่องของไขมัน และปริมาณน้ำตาลที่แฝงมากับนมแต่ละรสชาติ แนะนำให้ทานเป็นนมพร่องมันเนย รสจืด

Photo of author

Sutthida

สุทธิดามีใจรักในการเขียนและทำอาหาร หลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เธอตัดสินใจหางานทำวารสารศาสตร์ เธอใฝ่ฝันที่จะอาศัยอยู่ริมชายหาดพร้อมระเบียงที่มองเห็นวิวทะเล เธอชอบติดตามผู้มีอิทธิพลในโซเชียลมีเดียบน Instagram หรือดูรายการทีวีหรือภาพยนตร์ในเวลาว่าง