โดยปกติแล้วร่างกายคนเราควรได้รับสารอาหารต่าง ๆ ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย สารอาหารบางอย่างอย่างแคลเซียมนั้น ร่างกายจำเป็นต้องได้การรับประทานจากแหล่งอาหารในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดการนำไปใช้ประโยชน์เรื่องการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก และฟัน แต่ทั้งนี้ด้วยพฤติกรรมการบริโภค
รวมถึงความเสื่อมตามวัยของแต่ละคน อาจทำให้แต่ละคนได้รับปริมาณแคลเซียมในปริมาณที่ต่ำกว่าปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน ทำให้การมองหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อช่วยเสริมแคลเซียมให้กับร่างกายจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยวันนี้เราจะพาทุกคนมาเลือกแคลเซียมยี่ห้อไหนดีที่เหมาะสมกับคุณ
10 แคลเซียม
1. โดยรวมที่ดีที่สุด: OMG Lazada/Shopee
2. งบประมาณที่ดีที่สุด: MegaWeCare Calcium D Lazada/Shopee
3. สำหรับหลังวัยหมดประจำเดือน: Real Elixir Vit D Lazada/Shopee
4. เครื่องดื่มผงที่ดีที่สุด: Natwell – I Calcium Lazada/Shopee
5. สำหรับโรคกระดูกพรุน: Clover Plus Lazada/Shopee
6. ดีที่สุดสำหรับเด็ก: Now Kids Lazada/Shopee
7. โดสสูงที่ดีที่สุด: The Nature Lazada/Shopee
8. สำหรับสุขภาพกระดูก: Swisse Ultiboost Lazada/Shopee
9. ออร์แกนิคที่ดีที่สุด: MyKind Organics Lazada/Shopee
10. ซิเตรตที่ดีที่สุด: Kirkland Lazada/Shopee
- กำลังมองหา วิตามินรวมยี่ห้อไหนดี เหมาะสำหรับคนที่คุณรัก
- รีวิวคอลลาเจน ยี่ห้อไหนดีเห็นผล น่าลองในช่วงนี้
แคลเซียม ยี่ห้อไหนดี 2024
1. OMG – Caltinum
แคลเซียมโดยรวมที่ดีที่สุด
- ประสิทธิภาพค่อนข้างดี ตามผลการวิจัย
- มาตรฐานการรับรองความปลอดภัยหลากหลายที่ยืนยัน
- มีเกลือแคลเซียมที่ดูดซึมได้ดีที่สุดเป็นส่วนประกอบ
- ราคาค่อนข้างสูง
แคลตินั่ม เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงกระดูกและข้อต่อ โดยในผลิตภัณฑ์นี้จะมีส่วนประกอบของ Calcium L-Threonate ล้อตามชื่อผลิตภัณฑ์เลย เป็นส่วนประกอบหลัก โดยเกลือของแคลเซียมรูปนี้ เกิดจากกรดอะมิโน ที่ชื่อว่า L-threonic acid ที่มีส่วนช่วยกระตุ้นการดูดซึมวิตามินซี ซึ่งวิตามินซีมีประโยชน์ต่อการสร้างคอลลาเจนในกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อ เป็นเกลือที่ดูดซึมเข้าร่างกายได้อย่างดี รวมทั้งยังมีส่วนประกอบของคอลลาเจน type II ที่ช่วยเสริมคอลลาเจนที่ข้อต่อ และส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น โปรตีนสกัดจากถั่วเหลือง สารสกัดจากเคลป์ ผงแดนดิไลออน ผงน้ำมันปลา ผงใบบัวบก เป็นต้น
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุน หรือโรคที่เกี่ยวกับกระดูกและข้อ ต้องการเสริมแคลเซียมเข้าไปบำรุงกระดูกและข้อ โดยผลิตภัณฑ์นี้มีงานรับรองว่าประสิทธิภาพสูงกว่า glucosamine และ chondroitin ถึง 2.6 เท่า ช่วยให้ข้อต่อมีความยืดหยุ่นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพิ่มมวลกระดูก ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับมาตรฐานแสดงความปลอดภัยทั้งมาตรฐานการผลิตรับรองโดย GMP ผ่านการตรวจสอบการปนเปื้อนสเตียรอยด์โลหะหนักเชื้อจุลินทรีย์ พร้อมกับได้รับการรับรองความปลอดภัยจากองค์กรระดับโลกอย่าง European Food Safety Authority (EFSA)
2. MegaWeCare – Calcium D
แคลเซียม งบประมาณที่ดีที่สุด
- ราคาสบายกระเป๋า ถือว่าถูกมาก หากจะเริ่มกิน
- มีรีวิวมากมาย หาซื้อง่าย
- แบรนด์มีความน่าเชื่อถือและเป็นที่นิยมในท้องตลาด
- เกลือแคลเซียมในผลิตภัณฑ์อาจดูดซึมได้ไม่ดีเท่าบางยี่ห้อ
หากจะพูดถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยี่ห้อดังในประเทศไทยไปที่ร้านยาที่ไหนก็จะพบเห็นได้ก็คงหนีไม่พ้นแบรนด์ Mega Wecare ซึ่งหนึ่งในอาหารเสริมที่ทางแบรนด์ได้ทำออกมาขาย ก็คือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงกระดูกที่มีส่วนประกอบหลักเป็นแคลเซียมและวิตามินดี มาดูประโยชน์ของส่วนประกอบหลักแต่ละตัว เริ่มจากแคลเซียม
เกลือแคลเซียมที่แบรนด์นี้เลือกใช้จะเป็น Calcium carbonate การดูดซึมอยู่ในระดับไม่สูงมาก แต่ส่วนมากผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดก็จะใช้เกลือรูปนี้ เพราะมี หลักฐานการใช้มานาน หนึ่งเม็ดจะมีปริมาณแคลเซียม 600 mg และอีกหนึ่งส่วนประกอบหลักก็คือวิตามินดี 3 มีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย เหมาะกับ ผู้ที่มองหาผลิตภัณฑ์ช่วยสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง
3. Real Elixir – Cal-Cal Plus Vit D
แคลเซียม ดีที่สุดสำหรับหลังวัยหมดประจำเดือน
- มีส่วนผสมของวิตามินเคเพิ่มขึ้นมาต่างจากแบรนด์อื่นในท้องตลาด
- ราคาถูก
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยบำรุงกระดูก ที่มีส่วนประกอบของcalcium carbonate , vitamin D และ vitamin K ซึ่งสองตัวแรกมักเจอในหลากหลายแบรนด์ แต่วิตามิน K นั้นพบไม่เยอะนัก สำหรับประโยชน์ของแคลเซียม ก็คือช่วยให้ร่างกายมีระดับแคลเซียมที่เหมาะสม ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง โดยในกลุ่มที่เป็นสตรีวัยหมดประจำเดือนนั้นโดยปกติแล้วระดับแคลเซียมอาจลดลงได้ สัมพันธ์กับระดับฮอร์โมนเพศที่ลดลง
ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุน แคลเซียมจึงมีความสำคัญอย่างมากในผู้หญิงกลุ่มนี้ รวมถึงบุคคลอื่นๆ ที่ขาดแคลเซียมต้องการทานเสริม ก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์นี้ได้เข่นกัน ส่วนประโยชน์ของวิตามินดีมันจะช่วยดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ไปบำรุงกระดูก และวิตามินเค จะช่วยเข้าไปเสริมสร้างองค์ประกอบของกระดูกและฟัน ทั้งนี้ขออธิบายต่อเกี่ยวกับแคลเซียมในผู้หญิง อย่างที่บอกมาแล้วว่าในวัยหลังหมดประจำเดือนจะมีโอกาสแคลเซียมลด จึงแนะนำให้ผู้หญิงทานแคลเซียมให้เพียงพอเสมอตั้งแต่อายุยี่สิบปลายๆ ถึงสามสิบต้นๆ ซึ่งใครที่คิดว่าตัวเองทานไม่พอก็อาจจะทานเสริมได้
4. Natwell – I-Calcium Powdered orange flavor drink
แคลเซียม เครื่องดื่มผงที่ดีที่สุด
- รูปแบบเป็นเครื่องดื่มเป็นผงชงน้ำ
- พกพาสะดวก ทานง่าย
- เหมาะกับคนไม่ชอบทานรูปแบบเม็ด
- มีส่วนประกอบอย่างอินนูลินที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม
- รวมถึงช่วยประโยชน์ด้านทางเดินอาหารต่าง ๆ
- ขับถ่าย ประบสมดุลลำไส้
- ราคาค่อนข้างสูง
ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มาในรูปแบบเครื่องดื่มมีส่วนผสมหลักอย่างอินนูลิน และส่วนประกอบรองลงมาจะเป็น Calcium-L-Threonate, Collagen type II, green tea extract พร้อมทั้งแร่ธาตุและวิตามินอื่น ๆ อีกมากมาย ทางแบรนด์เคลมเรื่องผลิตภัณฑ์ช่วยบำรุงกระดูกช่วยภาวะกระดูกพรุนบำรุงกระดูกอ่อนช่วยเรื่องข้อเข่าอักเสบ ซึ่ง ถ้าดูจากส่วนประกอบที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ตัวนี้ก็สามารถเคลมเรื่องดังกล่าวได้จริง
โดยตัวเกลือแคลเซียมที่อยู่ในผลิตภัณฑ์นี้สามารถดูดซึมได้ดี ลดผลข้างเคียงในเรื่องของท้องผูกถ้าเทียบกับเกลืออื่นๆ ส่วน collagen type II สกัดมาจากหนังปลาแซลมอน ช่วยเสริมสร้างกระดูกอ่อน และสำหรับความแตกต่างของเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของแคลเซียมแบรนด์นี้คือส่วนประกอบหลักอย่างอินนูลิน ซึ่งถือว่าเป็นพรีไบโอติกตัวหนึ่งมีเส้นใยอาหารสูง มีส่วนช่วยทั้งในเรื่องรวชาติของเครื่องดื่ม พร้อมทั้งยังช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมไปยังกระดูก ปิดท้ายด้วยมาตรฐานรับรองในผลิตภัณฑ์นี้ คือ มาตรฐาน HACCP และสัญลักษณ์ตราอาหารฮาลาล
5. Clover Plus – CalCad Calcium Plus
แคลเซียม ดีที่สุดสำหรับโรคกระดูกพรุน
- ชูเรื่องวิตามินบีรวม มาเพิ่มเติม
- เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องกระดูก
- บวกกับอาการอ่อนล้า
- ราคาถูกมาก
อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงกระดูกและฟัน เหมาะกับคนที่กลุ่มเสี่ยงเข้าสู่ภาวะขาดแคลเซียม หรือเสี่ยงต่อการเกิดโรคข้อเสื่อม กระดูกพรุน กระดูกหักง่าย เล็บเปราะหักง่าย อันเกิดจากปัจจัยด้านอายุ เพศและพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเคท ได้เคลมข้อดีที่เหนือกว่าแบรนด์อื่น ๆ ไว้ว่า ผลิตภัณฑ์นี้มีส่วนประกอบของวิตามิน ที่ช่วยเรื่องการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย และไม่ทำให้ท้องผูก
หรือเกิดการท้องผูกน้อยกว่าแบรนด์ที่ใช้ calcium carbonate ตัวเดียว ตัวแคลเซียมประกอบด้วยเกลือแคลเซียม 2 ตัว คือ calcium carbonate และ calcium amino acid chelate และmagnesium amino acid chelate+ วิตามินดี 3 + วิตามิน C ที่ทุกคนทราบดีแล้วว่าสารอาหารเหล่านี้มีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกได้อย่างดี นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์นี้ยังมีส่วนผสมของวิตามินบีรวม ที่ช่วยลดอาการอ่อนล้าได้
6. Now – Kids Calcium +Vitamin D+ Magnesium Chewable
แคลเซียม ดีที่สุดสำหรับเด็ก
- ผลิตภัณฑ์ที่คิดมาเพื่อเด็กโดยเฉพาะ
- มีเกลือแคลเซียมที่ไม่ค่อยมีผลให้ท้องผูก
- มีมาตรฐานรับรองความปลอดภัยกำกับชัดเจน
- ราคาค่อนข้างสูง
ว่าด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเซียมที่เป็นรูปแบบของเม็ดแคปซูลและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแคลเซียมไปแล้ว อันนี้มาในอีกรูปแบบเหมาะกับเด็ก ๆ รูปแบบเม็ดที่เคี้ยวได้ รสส้ม หอมอร่อย รสชาติหวานกำลังดี โดยใช้สารทดแทนความหวานอย่างหญ้าหวานมาเป็นตัวทำให้เกิดรสหวาน มีส่วนประกอบแคลเซียมที่เหมาะกับความต้องการแคลเซียมต่อวันในช่วงวัยเด็ก และยังมี แมกนีเซียม วิตามินเอ และวิตามินรวมอยู่ด้วยในหนึ่งเม็ด
รูปเกลือแคลเซียมเป็นเกลือซิเตรต ที่ดูดซึมได้ดี มีผลข้างเคียงเรื่องท้องผูกน้อย สำหรับวิตามินเอ ที่มีเข้ามา จะช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ทำให้เคลมเรื่องบำรุงกระดูกและฟันของเด็ก มีส่วนช่วยเพิ่มความสูง ผลิตภัณฑ์นี้ เป็นผลิตภัณฑ์ ที่มีมาตรฐานรับรองความปลอดภัย อย่าง มาตรฐานการผลิต GMP และรับรองว่าผลิตภัณฑ์นี้ไม่เป็น GMO ส่งตรงมาจากประเทศอเมริกา เด็กที่แพ้นมวัวสามารถทานผลิตภัณฑ์นี้เสริมแคลเซียมได้
7. The Nature – Calcium Plus 1000mg
แคลเซียม โดสสูงที่ดีที่สุด
- มีส่วนประกอบหลักที่ ช่วยบำรุงกระดูกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิงที่เริ่มเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน
- ราคาถูก
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรูปแบบเม็ดที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกระดูก ช่วยป้องกันกระดูกเปราะ เพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก ด้วยส่วนผสมหลักทั้งแคลเซียม คอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึก และโปรตีนจากถั่วเหลือง รูปแบบของเกลือแคลเซียมจะเป็นคาร์บอเนต การดูดซึมอาจไม่ดีเท่าเกลืออื่น มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงเรื่องท้องผูก ส่วนคอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึกนอกจากจะได้เรื่องกระดูกอ่อน แล้วยังช่วยเรื่องผิว
และโปรตีนจากถั่วเหลืองมีส่วนประกอบของสารที่มีลักษณะคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่เรียกว่า phytoestrogen ซึ่งตามร่างกายปกติโดยเฉพาะในกลุ่มหญิงที่ยังมีประจำเดือนจะมีการผลิตเอสโตรเจนอยู่ ตัวเอสโตรเจน เป็นสารที่มีบทบาทสำคัญในการดูดซึมแคลเซียมเมื่อหญิงใกล้เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนระดับฮอร์โมนตัวนี้ก็จะค่อยลดลง และจากที่มีส่วนประกอบจากปลาทะเลน้ำลึก ผู้ที่แพ้อาหารทะเลอาจจะต้องระมัดระวังการใช้
8. Swisse Ultiboost Calcium with Vitamin-D
แคลเซียม ดีที่สุดสำหรับสุขภาพกระดูก
- แบรนด์ค่อนข้างมีชื่อเสียง
- เป็น vegetarian friendly
- ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาลเพิ่มความหวาน, lactose, gluten ไม่มีสารแต่งกลิ่น สี รส สังเคราะห์
- ราคาถูก
- ตัวครีมเข้มข้นล้างออกค่อนข้างยาก
ต่อกันด้วยแบรนด์อาหารเสริมแคลเซียมที่มาในรูปแบบของเม็ดอีกแล้ว แต่เขาเคลมว่าของแบรนด์เขาเป็นรูปแบบเม็ดที่ได้รับการเคลือบสารบางอย่างทำให้เป็นรูปแบบเม็ดที่กลืนได้ง่าย มีแคลเซียมและวิตามินดีสามเป็นส่วนประกอบในแต่ละเม็ด ซึ่งทั้งสองส่วนประกอบ มีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูก สำหรับผู้ที่เสี่ยง ต่อการขาดแคลเซียม
หรือมีความต้องการได้รับแคลเซียมให้เพียงพอในแต่ละวัน ทั้งนี้ทางแบรนด์พยายามชี้ให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์นี้เกิดมาจากพื้นฐานความรู้ที่ได้มาจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพและความปลอดภัย จุดเด่นอื่นๆ ที่น่าทึ่งคือแบรนด์ SWISS เป็น แบรนด์อาหารเสริมอันดับหนึ่งของออสเตรเลีย ในส่วนของผลิตภัณฑ์ตัวนี้ เป็น vegetarian friendly ไม่ใส่น้ำตาล ไม่เติม lactose ไม่เติม gluten ไม่มีสารแต่งกลิ่น สี รส สังเคราะห์
9. MyKind Organics – Organic Plant Collagen Builder
แคลเซียม ออร์แกนิคที่ดีที่สุด
- ผลิตภัณฑ์ออร์กานิค รับรองโดยองค์กรที่น่าเชื่อถือ
- ไม่มีส่วนผสมของถั่ว หรือหอย ที่อาจทำให้แพ้ได้
- เน้นบำรุงผิว ไม่เน้นบำรุงกระดูก
แบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เคลมเรื่องความออร์แกนิคนำเข้าจากประเทศอเมริกาตัวนี้ ไม่ได้มีส่วนประกอบของแคลเซียม หรือวิตามินดี แต่จะเน้นส่วนประกอบที่เป็นวิตามินและแร่ธาตุรวม พร้อมกับสารสกัดจากธรรมชาตินานาชนิด เช่น สารสกัดจาก spinach leaf, สารสกัดจาก Sesbania grandifora leaf, สารสกัดจาก ผลของ amla berry, สารสกัดจากผลและใบฝรั่ง, สารสกัดจากผลแอปเปิ้ล, สารสกัดจากผลไม้ตระกูลเบอรี่ เป็นต้น
ซึ่ง ทำให้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมนี้มีคุณประโยชน์ในการช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใสบำรุงผมและเล็บให้แข็งแรง กระชับรูขุมขนริ้วรอยต่างๆให้ดูเลือนลง และอย่างที่ได้กล่าวเอาไว้ผลิตภัณฑ์สารสกัดทุกชนิดได้รับการรับรองว่าเป็น ออร์แกนิค จากองค์กร USDA ไม่ต้องกังวลเรื่องส่วนผสมที่อาจทำให้เกิดการแพ้อย่างถั่ว ไม่มีส่วนผสมของสีสังเคราะห์และสารกันเสีย
10. Kirkland – Signature Calcium Citrate Magnesium and Zinc
แคลเซียมซิเตรตที่ดีที่สุด
- มีส่วนผสมของ zinc ที่ทางแบรนด์ชูให้เด่นขึ้นมา
- เม็ดขนาดไม่ใหญ่มากเกินไป
- ไม่มีส่วนประกอบของสีสังเคราะห์
- สารปรุงแต่งรสสังเคราะห์
- ไม่มียีสต์ หรือกลูเตน และแลคโตส
- มีมาตรฐานการรับรองจาก USP
- ราคาค่อนข้างถูก
- ไม่ได้ชูเรื่องการได้รับการรับรองจากองค์กรในเมืองไทย
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรูปแบบของแคลเซียมตัวสุดท้ายที่ จะนำมาฝากทุกคนในวันนี้ ก็คือ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมตัวนี้ มีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงกระดูกทั้งแคลเซียมที่มาในรูปแบบของเกลือซิเตรต ดูดซึมค่อนข้างดี ลดผลข้างเคียงเรื่องอาการท้องผูกเมื่อเทียบกับบางยี่ห้อที่เป็นเกลือคาร์บอเนต อีกทั้งยังมี vitamin D3 , magnesiumที่ช่วยส่งเสริมเรื่องการดูดซึมแคลเซียมเข้าไปบำรุงกระดูก และ zinc
ที่มีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันผ่านเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการ ในด้านของมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ได้รับการรับรองจากหัวข้อทดสอบตาม USP และมั่นใจเรื่องความปลอดภัยจากการแพ้ พวกสารสังเคราะห์หรือสารก่อแพ้บางอย่าง เพราะผลิตภัณฑ์นี้ไม่มีส่วนประกอบของสีสังเคราะห์ สารปรุงแต่งรสสังเคราะห์ ไม่มียีสต์ หรือกลูเตน และไม่มีส่วนผสมของแลคโตส
คู่มือการซื้อ แคลเซียม
แคลเซียมคืออะไร และมีผลต่อร่างกายอย่างไร
แคลเซียม เป็นหนึ่งในแร่ธาตุที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของส่วนประกอบในร่างกายอย่างกระดูกและฟัน พบประมาณ ร้อยละ 99 ซึ่งตัวแคลเซียม จะเป็นตัวที่มีส่วนช่วยทำให้ โครงสร้างของกระดูกและฟันแข็งแรง และเพิ่มมวลกระดูก นอกจากแคลเซียม จะอยู่ในเนื้อกระดูกแล้ว แคลเซียม ยังอยู่ในกระแสเลือด เพื่อสมดุลไอออนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบอวัยวะอื่น เช่น ระบบกล้ามเนื้อ แคลเซียมจะมีส่วนเกี่ยวกับกับกลไกการเกิดการหดตัวและคลายตัวของกล้ามเนื้อ
ระบบขับถ่าย ผ่านไต ออกมาในรูปแบบปัสสาวะ แคลเซียมจะมีส่วนช่วยในการรักษาสมดุลของไอออน ระบบหัวใจและหลอดเลือด แคลเซียมจะเข้าไปมีผลต่อการเต้นของหัวใจ เป็นต้น จะเห็นได้ว่าในภาวะปกติแคลเซียมมีประโยชน์อย่างมากต่อร่างกาย ทั้งนี้หากร่างกายของคนเราขาดแคลเซียมไป อันเนื่องมาจากสาเหตุต่าง ๆ ทั้ง การรับประทานอาหารแคลเซียมไม่เพียงพอ หรือเหตุจากวัย อย่างที่เห็นได้ชัดคือ หญิงวัยหมดประจำเดือน โดยปกติแล้วฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีในเพศหญิงวัยเจริญพันธุ์มีส่วนสำคัญในการดูดซึมแคลเซียมเข้ากระดูก เ
มื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ฮอร์โมนดังกล่าวจะลดลง ทำให้ร่างกายเกิดภาวะแคลเซียมน้อยลง ร่างกายจึงสั่งให้สลายแคลเซียมในกระดูกออกมา จนทำให้สมดุลของการสลายกระดูกและสร้างกระดูกผิดปกติ จนทำให้โครงสร้างของกระดูกไม่แข็งแรงดังเดิม นำไปสู่โรคกระดูกพรุน และเสี่ยงต่อการเกิดการกระดูกหักได้ ดังนั้นเมื่อเห็นความสำคัญของแคลเซียมแล้ว หากคุณรู้ว่าคุณเป็นคนที่ค่อนข้างจะขาดพฤติกรรมการที่ดี ทานอาหารไม่ครบถ้วน การมองหาอาหารเสริมจึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ
ประโยชน์ต่อสุขภาพของแคลเซียมมีอะไรบ้าง
ปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวันให้เหมาะสมกับแต่ละคนอยู่ที่เท่าไหร่
ตามคำแนะนำของกรมอนามัย ปริมาณแคลเซียมที่แต่ละคนควรได้รับเข้าสู่ร่างกาย คือ 600-800 มิลลิกรัมต่อวันสำหรับผู้ที่อายุน้อยกว่าหรือเท่ากับ 50 ปี และ 1,000 มิลลิกรัมต่อวันสำหรับผู้ที่มีอายุ 51 ปีขึ้นไป หากเป็นหญิงตั้งครรภ์
หรือให้นมบุตรอยู่ก็ควรได้รับ 1,000-1,500 มิลลิกรัมต่อวัน อย่าให้ขาดเด็ดขาด สำหรับกลุ่มวัยอื่น ๆ เช่น ทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน ควรได้รับ 210 มิลลิกรัมต่อวัน, ทารก 6-12 เดือน ควรได้รับ 260 มิลลิกรัมต่อวัน, เด็กอายุ 1-3 ปี ควรได้รับ 500 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นต้น
แคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium carbonate), แคลเซียมซิเตรต (Calcium citrate) และแคลเซียมแอลทรีโอเนต (Calcium-L-Threonate) ต่างกันอย่างไร
แคลเซียมทั้งสามชนิดเป็นเกลือแคลเซียมต่างชนิดกัน แตกต่างกันในเรื่องของความสามารถการดูดซึมจากทางเดินอาหารเข้าสู่กระแสเลือกก่อนจะถูกส่งต่อไปยังกระดูก โดยแคลเซียมแอลทรีโอเนต (Calcium-L-Threonate) จะเป็นเกลือที่ดูดซึมได้ดีที่สุด รองลงมาจะเป็น แคลเซียมซิเตรต (Calcium citrate) และ แคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium carbonate) ตามลำดับ
รวมถึงแตกต่างเรื่องการให้ปริมาณแคลเซียมอิสระแตกต่างกันด้วย เช่นเกลือแคลเซียมซิเตรต 100 มิลลิกรัมจะได้ปริมาณแคลเซียม 21 มิลลิกรัม, เกลือแคลเซียมคาร์บอเนต 100 มิลลิกรัมจะได้ปริมาณแคลเซียม 40 มิลลิกรัม เป็นต้น ที่ทราบตรงนี้ไว้ เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้นว่าแต่ละยี่ห้อทำไมถึงให้รับประทานปริมาณไม่เท่ากัน เพื่อให้ได้ปริมาณแคลเซียมที่เหมาะสมต่อวัน ยกตัวอย่างการคำนวณพอกรุบกริบ ให้เข้าใจง่าย ๆ 1 ตัวอย่าง คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร A
มีปริมาณแคลเซียมคาร์บอเนต 1,500 มิลลิกรัม = 0.4 * 1,500 = ปริมาณแคลเซียม 600 มิลลิกรัม สามารถทานได้ 1-2 เม็ดต่อวันมีความเหมาะสม และอาการข้างเคียงท้องผูกเอง ก็มักสัมพันธ์กับเกลือแคลเซียมคาร์บอเนต มากที่สุด โดยสามารถแก้ได้โดยการดื่มน้ำตามมาก ๆ
กลุ่มคนที่เหมาะกับการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเซียมคือใครบ้าง
วิธีการรับประทานที่เหมาะสมเพื่อให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีที่สุดทำอย่างไร
โดยปกติแล้วแคลเซียมจะถูกดูดซึมได้ดี แนะนำทานพร้อมมื้ออาหาร ช่วงที่มีกรดหลั่งเข้ามาในกระเพาะอาหาร ตัวกรดจะช่วยทำให้แคลเซียมดูดซึมดีขึ้น หรือหากสะดวกรับประทานเป็นพร้อมอาหารเย็นจะเป็นมื้อที่เหมาะสมที่สุด ทั้งนี้ต้องระวังยาทานร่วมกับยาที่มีธาตุเหล็ก หรือธาตุแมกนีเซียม เพราะอาจรบกวนการดูดซึมได้
นอกจากนี้อาหารที่มีออกซาเลต และไฟเตทที่อยู่ในอาหารทั่วไป อาจรบกวนการดูดซึม การรับประทานอาหารเค็ม เหล้าเบียร์ ชากาแฟ สิ่งเหล่านี้จะเพิ่มการขับแคลเซียมออกไปทางปัสสาวะลดการดูดซึมอีกทาง และหากอยากเพิ่มการดูดซึม ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินดีเป็นองค์ประกอบ
หากรับประทานแคลเซียมมากเกินไปจะส่งผลอย่างไรต่อร่างกาย
คำแนะนำเพิ่มเติมในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเซียมอย่างปลอดภัย
คำถามและคำตอบ
โรคกระดูกพรุนมีอาการอย่างไร
โรค กระดูกพรุน เป็นโรคที่มักเกิดกับผู้ป่วยที่เริ่มต้นมีปัญหาระดับแคลเซียมในเลือดต่ำ ทำให้ร่างกายสั่งการนำแคลเซียมออกมาจากกระดูก เพื่อชดเชยสมดุลแคลเซียมในเลือด เมื่อแคลเซียมในกระดูกถูกดึงออกมา ความแข็งแรงของกระดูกก็จะลดน้อยลง โดยโรคนี้เกิดจากกระบวนการสลายกระดูกที่มันมีมากกว่าการสร้างกระดูกมาทดแทน ทำให้พอชดเชยเข้าเลือด แต่สร้างมาทดแทนในกระดูกไม่ทัน อาการไม่ได้เด่นชัด แต่หากมีการเกิดอุบัติเหตุล้มกระแทก อาการจะแสดงออกมาชัดว่าแม้กระแทกเบา ๆ บางทีก็พบว่ากระดูกอาจแตกหักได้ เมื่อเทียบกับช่วงที่ร่างกายยังปกติ
อาหารใดบ้างที่มีแคลเซียม
แหล่งอาหารที่มีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบ เหมาะกับการรับประทานเพื่อ เพิ่มปริมาณแคลเซียมให้เพียงพอต่อความต้องการต่อวัน เช่น นมและผลิตภัณฑ์จากนม ปลาตัวเล็กที่ทานได้ทั้งกระดูก กุ้งฝอย กุ้งกะปิ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้ขาว น้ำเต้าหู้ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีพวกผักใบเขียว เช่นคะน้า กวางตุ้ง เป็นต้น โดยนม เป็นแหล่งอาหารที่มีแคลเซียมสูง หากจะเลือกรับประทานนม แนะนำให้ระวังเรื่องของไขมัน และปริมาณน้ำตาลที่แฝงมากับนมแต่ละรสชาติ แนะนำให้ทานเป็นนมพร่องมันเนย รสจืด