7 ครีมยืดผมที่ดีที่สุดสำหรับผมนุ่มสลวย 2024

สาว ๆ หลายคนที่มีผมค่อนข้างหยัก มีความเป็นคลื่น ๆ หรือบางคนอาจจะมีผมหยิก แล้วรู้สึกว่าในวันที่เราอยากเปลี่ยนลุคให้เป็นสาวผมตรงต้องมาคอยวิ่งเข้าร้านทำผม หรือไม่ก็ต้องเสียเวลามานั่งหนีบผมเอง หนึ่งในตัวช่วยที่จะช่วยให้มีผมตรงตลอดเวลา จะทำทรงผมใด ๆ ก็ง่ายขึ้น ก็คือ ครีมยืดผมถาวร มันจะช่วยให้ผมดูตรงสลวย วันนี้จึงพามาเลือก ครีมยืดผมถาวรยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะกับคุณ

7 ครีมยืดผม

1. สำหรับเพิ่มความเงางาม: Berina  Lazada/Shopee
2. ชุดโฮมครีมยืดผมที่ดีที่สุด
SHOUPIN Lazada/Shopee
3. สำหรับร้านเสริมสวยSchwarzkopf Lazada/Shopee
4. สำหรับผมหยักศก: L'oreal Lazada/Shopee
5. เพื่อการทาที่รวดเร็วTOVCH Lazada/Shopee
6. สำหรับผมเส้นเล็ก: Shiseido  Lazada/Shopee
7. สำหรับผมอ่อนแอหรือผมที่ผ่านการทำเคมี: Nigao Lazada
/Shopee

ครีมยืดผมยี่ห้อไหนดี 2024

1. Berina – Pro Straight Hair Rebonding Cream

ครีมยืดผมที่ดีที่สุดสำหรับเพิ่มความเงางาม

ข้อดี
  • ราคาถูกคุ้มค่าคุ้มราคา
  • เป็นสูตรที่ยืดผมได้ค่อนข้างเร็ว
  • ผลลัพธ์ คือ ให้ผมดูตรงสวยเปล่งประกาย มีน้ำหนัก ไม่แห้งเสีย
ข้อเสีย
  • รูปแบบกระปุกอาจทำให้การใช้งานต้องใช้มือตักลงไป ดูใช้ไม่สะดวกหนัก

เริ่มที่ครีมยืดผมสูตรแรกกันเลยของเบอริน่าที่มาในรูปแบบกระปุกฝาเปิดปิด ขนาด 1000 mL เป็นครีมยืดผมให้ยืดตรงแบบถาวร ช่วยทำให้เส้นผมเปล่งประกายเงางามอยู่เสมอ แม้ผมที่ยืดยากก็สามารถยืดให้ตรงสวยได้ และยังช่วยทำให้ผมนุ่มสลวย แถมการสร้างเกราะป้องกันเส้นผม ผมนุ่มลื่น ดูมีน้ำหนัก ใช้เพียงครั้งเดียวก็เห็นผลชัดเจน

ในหนึ่งชุดสำหรับการยืดผมแต่ละครั้งจะต้องใช้ทั้ง Berina Pro Straight Hair Rebonding Cream และ Berina Relock Neutralizer Cream เพราะ Pro Straight จะมีส่วนผสมที่จะช่วยให้เส้นผมสามารถยืดได้ ส่วน Relock neutralizer จะช่วยกำจัดกลิ่นฉุน ๆ ออกไป และให้เส้นผมล็อคตรงสวย ควรทิ้งระยะเวลาการหมักตามที่ได้ระบุไว้ เพื่อให้ผมออกมาตรงพร้อมกับดูสุขภาพดีได้อย่างที่ต้องการ

2. SHOUPIN – Smoothing Frizz Straight Maintenance

ชุดทำที่บ้านเองครีมยืดผมที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • ราคาถูกคุ้มค่าคุ้มราคา
  • กลิ่นไม่ฉุนรุนแรง
  • สะดวกใช้งานง่ายไม่ต้องหาอุปกรณ์เพิ่มให้ยุ่งยาก
ข้อเสีย
  • ไม่มีครีมบำรุงผมมากับครีมยืดผมด้วย ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายครีมบำรุงผมที่เหมาะกับผมที่ผ่านการยืดมาบำรุง

สำหรับมือใหม่หัดทำการยืดผมเองที่บ้านแล้วไม่ต้องการใช้อุปกรณ์อะไรยุ่งยาก เพียงแค่มีครีมยืดผมขวดเดียวครบจบในตัวมันเอง จุดเด่นที่เห็นมาเลย คือ ครีมยืดผมสูตรนี้เข้าใจ pain point ของลูกค้าในส่วนของการต้องเตรียมอุปกรณ์ในการยืดผม อย่างหวี หรือแปรงอื่น ๆ มาเพิ่ม ทำให้การออกแบบบรรจุภัณฑ์ออกมาเป็นแบบใช้งานง่ายสุด ๆ เพียงแค่เปิดขวดออกมาก็พร้อมใช้งานไม่ต้องผสมน้ำยาอย่างอื่นเพิ่มเติม

จากนั้นก็กดปุ่มด้านข้างให้น้ำยายืดผมออกมา น้ำยาออกไปที่หวีที่ติดมาด้วย แล้วจึงหวีไปกับเส้นผมที่มาด ๆ สังเกตว่าต้องเว้นโคนผมไว้ด้วย หากจะให้ดีเว้นไว้ประมาณ 1 นิ้ว เพื่อกันไม่ให้โคนผมเปราะหัก หวีเบา ๆ เมื่อทำเสร็จ ครบกำหนดเวลาแล้ว ก็ล้างออกด้วยแชมพูจากนั้นก็บำรุงด้วยครีมนวดบำรุงผม จะได้ผมออกมาตรง ทนนาน ไม่มันง่าย ด้วยสารสกัดจากพืชมาเป็นหนึ่งในส่วนประกอบช่วยทำให้ครีมยืดผมสูตรนี้เป็นสูตรอ่อนโยนไม่ทำร้ายเส้นผมแถมไม่มีกลิ่นฉุนรุนแรง

3. Schwarzkopf Professional – Strait Glatt

ครีมยืดผมที่ดีที่สุดสำหรับร้านเสริมสวย

ข้อดี
  • กลิ่นไม่ฉุนกวนใจระหว่างรอเวลา
  • เหมาะกับผมที่หยิกมากหรือโค้งงอ
ข้อเสีย
  • ไม่มีครีมบำรุงผมมาให้

เนื่องจากผมที่โค้งงอ อาจจะไม่เหมาะกับการทำการยืดเองที่บ้าน เนื่องจากอาจทำให้ผมอาจจะช็อตหรือเปราะได้ง่าย ดังนั้นนอกจากจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ครีมยืดผมที่มีคุณภาพแล้ว ต้องอย่าลืมให้ช่างทำผมเป็นคนช่วยทำให้จะเหมาะสมกว่า

ซึ่งครีมยืดผมสูตรนี้ก็เป็นหนึ่งในสูตรที่ช่างทำผมมักเลือกใช้ ด้วยตัวมันเองมีนวัตกรรมใหม่อย่าง แอคทีฟ แคร์ คอมเพล็กซ์ ที่ช่วยทำให้ผมยืดตรง ดูนุ่มสลวย ผสานเข้ากับสารบำรุง ไฮโดรไลซ์ วีท โปรตีน ที่ช่วยบำรุงผมให้ดูเงางามเป็นธรรมชาติมากขึ้นไปอีก และยิ่งสำหรับผมหยิกมาก หรือโค้งงอ สูตรนี้ยิ่งเหมาะเข้าไปอีกเนื่องจาก เพิ่มไดเมทิโคนและไดเมทิโคนอลเคลือบและปกป้องเส้นผมไม่ให้เปราะง่ายจนเกินไป แถมกลิ่นไม่ฉุนกวนใจระหว่างรอ

4. L'oreal Professionnel – Xtenso Oleoshape Straightening Hair

ครีมยืดผมที่ดีที่สุดสำหรับผมหยักศก

ข้อดี
  • เนื้อครีมละเอียด ล้างออกง่าย
  • กลิ่นหอมละมุน ไม่ฉุนแน่นอน
  • ผมเส้นใหญ่ ผมแข็งแรง ผมหยิก หยักศกที่ไม่ผ่านการทำเคมี
ข้อเสีย
  • ราคาค่อนข้างสูง

อีกหนึ่งครีมยืดผมที่มาครบเซต ทั้งครีมยืดผม และช่วยล็อคเส้นผมให้ยืดตรงสวยงาม ทางแบรนด์เคลมไว้ด้วย เหมาะกับเส้นผมของคนไทย เนื้อครีมค่อนข้างละเอียด ชโลมง่าย และล้างออกง่าย ด้วยนวัตกรรม จาก X-TENSO Moisturist และด้วยเทคโนโลยี นูทริ-แคทไอโอนิค อีโมเลียนท์ เอเจนท์ และ ซอฟเท็นนิ่ง แวกซ์ ช่วยเสกเส้นผมให้เรียบตรง นุ่มลื่น สะท้อนประกายเงางามดุจดั่งแพรไหม

เพราะตัวมอยส์เจอร์ที่มีอยู่ในสูตร จึงเสมือนผลลัพธ์ที่ได้จากการทำทรีทเม้นท์ ผมยังดูสุขภาพ และเป็นธรรมชาติ ส่งผลให้ง่ายต่อการจัดแต่งทรงผมขึ้นไปอีก เป็นสูตรที่อ่อนโยนต่อเส้นผม แต่ก็จะแนะนำสำหรับคนที่มีผมเส้นใหญ่ ผมแข็งแรง ผมหยิก หยักศกที่ไม่ผ่านการทำเคมีมาจะเหมาะสมมากกว่า กลิ่นค่อนข้างหอมละมุน ไม่รู้สึกฉุน จนแสบจมูกระหว่างที่รอเวลาทาน้ำยายืดผม

5. TOVCH Rebonding Keratin

ครีมยืดผมที่ดีที่สุด เพื่อการทาที่รวดเร็ว

ข้อดี
  • หนึ่งซอง 5 in 1 ครบจบตั้งแต่ยืดผมยันบำรุงผม เติมเคราติน
  • กลิ่นไม่ฉุน
  • ใช้เวลาไม่นานในการยืดผม
ข้อเสีย
  • ต้องอาศัยช่างที่มีประสบการณ์ในการทำให้

ครีมยืดผมที่มาในคอนเซ็ปท์ครบจบในซองเดียวผสานตัวครีมยืดผม น้ำยาล็อคเส้นผม ทรีทเม้นท์ ลงแว๊กซ์ให้เส้นผมเงางาม และช่วยบำรุงฟื้นฟูเส้นผมด้วยเคราติน ครบจบไม่ต้องทำหลายขั้นตอน เน้นประหยัดเวลา เพราะตัวครีมยืดผมนั้น ค่อนข้างทำงานเร็ว บวกกับไม่ต้องเสียเวลากับการที่จะต้องทำทีละขั้น เริ่มจากใช้ครีมยืดผม รอเวลา ต่อด้วยน้ำยาล็อคเส้นผม รอเวลา และทรีทเม้นท์รอเวลา มันช่างยาวนานเหลือเกิน

ใครที่อยากเน้นทำผมไม่นานไม่เกิน 45 นาที ก็เหมาะกับครีมยืดผมสูตรนี้มาก แถมกลิ่นก็ไม่รุนแรง ค่อนข้างทำงานเร็ว บวกกับไม่ต้องเสียเวลากับการที่จะต้องทำทีละขั้น เริ่มจากใช้ครีมยืดผม รอเวลา ต่อด้วยน้ำยาล็อคเส้นผม รอเวลา และทรีทเม้นท์รอเวลา มันช่างยาวนานเหลือเกิน ใครที่อยากเน้นทำผมไม่นานไม่เกิน 45 นาที ก็เหมาะกับครีมยืดผมสูตรนี้มาก แถมกลิ่นก็ไม่รุนแรง

6. Shiseido Crystallizing Straight 

ครีมยืดผมที่ดีที่สุดสำหรับผมเส้นเล็ก

ข้อดี
  • มีส่วนผสมของ hyaluronic acid ช่วยทำให้ผมชุ่มชื้น และป้องกันไม่ให้ผมเสีย
  • กลิ่นหอมละมุน ไม่แสบจมูก
  • เหมาะกับผมเส้นเล็ก ผมเสีย หรือเส้นผมที่ผ่านการทำเคมี
ข้อเสีย
  • ราคาค่อนข้างสูง

อธิบายครีมยืดผมสำหรับผมเส้นใหญ่ และผมที่แข็งแรงไปแล้ว ก็ขอต่อด้วยครีมยืดผมจากชิเชโด้ ที่ใช้สำหรับผมเส้นเล็ก ผมเสีย หรือผมผ่านการทำเคมี ช่วยทำให้ผมดูเหยียดตรงขึ้น แถมยังช่วยให้ผมดูมีน้ำหนัก เปล่งประกายเงางาม นุ่มลื่น น่าสัมผัสมากยิ่งขึ้นอีกด้วย นั่นก็เพราะว่าครีมยืดผมสูตรนี้มีเทคโนโลยีไฮยาลูรอนิค เทอร์มัล สเตรท

อัดแน่นไปด้วยพลังไฮยาลูรอนิค แอซิด ซึ่งเป็นสารที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยปกป้องทำผมเสียที่เกิดจากการยืดผมและเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมระหว่างยืด ส่วนเรื่องกลิ่นนั้นก็คือหอมละมุนไม่ฉุนจนแสบจมูกอย่างแน่นอน ราคาจัดว่าสูงเลยทีเดียว โดยหนึ่งเซ็ทจะประกอบด้วยครีมยืดผมและครีมบำรุงผมมาด้วย

7. Nigao Life Straight therapy (Damaged Hair)

ครีมยืดผมที่ดีที่สุด สำหรับผมอ่อนแอหรือผมที่ผ่านการทำเคมี

ข้อดี
  • หนึ่งเซ็ท ช่วยตั้งแต่ยืดยันบำรุงให้เส้นผมแข็งแรง
  • กลิ่นไม่ฉุน ปราศจากแอมโมเนีย
  • เหมาะกับเส้นผมที่อ่อนแอผ่านการทำเคมี
ข้อเสีย
  • ใช้เวลาค่อนข้างนาน

ครีมยืดผมสูตรสุดท้ายจากนิกาโอะส่งตรงมาจากญี่ปุ่น ที่เคลมว่าเหมาะกับเส้นผมอ่อนแอ ผมเสีย หรือผมที่ผ่านการทำเคมี ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นฉุน ปราศจากแอมโมเนีย ไม่แสบตา ไม่ทำร้ายเส้นผม สูตรนี้เป็นสูตรอ่อนโยน ซึ่งนอกจากจะไม่มีกลิ่นฉุนกวนใจแล้วยังมีโปรตีนที่เป็น hydrolyzed keratin เป็นโมเลกุลเล็ก ๆ ที่เข้าไปบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก

ทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องผมเสียหลังยืด เพราะเคราตินจะช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง ช่วยให้ผมตรงจรดปลาย ไม่มีกลับมาหยิก หรือหยักก่อนเวลาอันควร แถมผมยังดูมีน้ำหนัก และเงางามเป็นธรรมชาติอีกด้วย ซื้อยกเซ็ทก็คือได้ทั้งครีมยืดผม ครีมล็อคเส้นผม และทรีทเม้นท์บำรุงผม ซื้อหนึ่งเซ็ทได้ครบตั้งแต่ยืดยันบำรุง 

คู่มือการซื้อ ครีมยืดผม

คู่มือการซื้อ ครีมยืดผม

ครีมยืดผมคืออะไร

ต้องขออธิบายก่อนว่า การยืดผม คือ การเปลี่ยนสภาพเส้นผมจากที่เคยหยิก หรือหยักศก ให้กลายเป็นผมเหยียดตรง สามารถทำได้เองที่บ้าน และส่วนมากก็จะไปทำที่ร้านทำผม เพื่อให้ช่างทำผมผู้มีประสบการณ์ช่วยดูแลเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับเส้นผมของแต่ละคน 

สำหรับครีมยืดผม ก็คือหนึ่งในอุปกรณ์ในการยืดผม โดยตัวครีมจะมีส่วนผสมของด่าง อย่างพวกโซเดียมไฮดรอกไซด์ หรือ กัวนิดีนคาร์บอเนต  หรือ แอมโมเนียมไทโอโกลโคเลต เมื่อเส้นผมเจอเข้ากับครีมยืดผม ผมก็ยืดตรงหลังทำการยืดเสร็จ แต่เมื่อเส้นผมงอกมาใหม่ซึ่งไม่ได้หมักครีมผมก็จะยังเป็นเส้นงอเหมือนเดิม ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญในการยืดผม คือการบำรุงเส้นผมให้ดีหลังการใช้ครีมยืดผม เพื่อป้องกันไม่ให้ผมแห้งเสีย เปราะบางจนเกินไป 

ครีมยืดผม มีการทำงานอย่างไรในการช่วยให้ผมยืดได้

ขณะที่ทำการยืดผมด้วยครีมยืดผมถาวร ตัวสารในครีมยืดผมก็จะแทรกเข้าไปในชั้นกลางของเส้นผม เข้าไปสลายพันธะระหว่างกรดอะมิโนที่เชื่อมกันด้วยพันธะไดซัลไฟด์ หรือพันธะซิสเตอีน ซึ่งถือว่าเป็นพันธะที่ค่อนข้างแข็งแรง และมีส่วนทำให้โครงสร้างเส้นผมคงตัวและแข็งแรง เมื่อพันธะดังกล่าวถูกทำลาย จากเส้นผมที่คงตัวได้ก็จะอ่อนตัวลง

สามารถใช้การดึง หรือหวีผมทำให้ผมนั้นยืดขึ้นมาได้ ทั้งนี้ด้วยตัวครีมยืดผมเองนั้น มันค่อนข้างมีค่าความเป็นด่างสูง นอกจากทำลายพันธะช่วยให้ผมยืดตรงได้แล้ว ยังมีส่วนให้ผมแห้งเสียเปราะบาง จึงจำเป็นต้องทำตามข้อปฏิบัติเรื่องเวลาที่ทิ้งไว้ให้ดี รวมถึงล้างครีมออก แล้วตามด้วยวิธีทำให้ ค่าความเป็นกรดด่างของเส้นผมกลับมาสู่ค่าปกติ หรือเป็นกลางมากขึ้น และสายพันธะเหล่านั้นกลับมาเชื่อมกันอีกครั้ง เส้นผมก็จะกลับมายืดหยุ่นไม่ขาดง่าย และคงตัวเหมือนเดิม

สิ่งที่คุณต้องมองหา เมื่อคุณต้องการซื้อครีมยืดผม

1. ก่อนที่จะยืดผมด้วยตนเอง ควรเช็คสภาพเส้นผมตนเองก่อน เริ่มจากการเช็คว่าผมเส้นเล็ก หรือเส้นใหญ่ เส้นผมหยักมากน้อยแค่ไหน ผมผ่านการทำเคมีมากหรือไม่ และตอนนี้เส้นผมแข็งแรงหรือเปราะหักง่าย เพื่อให้พิจารณาดี ๆ ก่อนที่จะลงมือยืดผมเอง เพราะจริง ๆ แล้ว เส้นผมที่ค่อนข้างเปราะบาง ไม่แข็งแรง ผ่านการทำเคมีมามาก หรือมีความหยักมาก จะแนะนำให้ลองไปปรึกษาช่างทำผมจะเป็นการดีที่สุด เพราหากทำเองอาจเกิดเหตุการผมช็อตได้

2. ลองตรวจสอบสภาพเส้นผมของเราเพื่อดูความชุ่มชื้นในเส้นผม โดยการใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งจับผมขึ้นมาเส้นหนึ่ง จากนั้นลูบต่อเนื่องไปตามเส้นผม หากรู้สึกว่าเส้นผมมีความสาก ก็แสดงว่าเส้นผมมีรูพรุน และมีความชุ่มชื้นเพียงพอ เหมาะกับที่ครีมยืดผมจะเข้าไปทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. หากพบว่าผลิตภัณฑ์ครีมยืดผมนั้น ไม่มีเลขทะเบียนเครื่องสำอางตามที่อย. กำหนดก็ไม่ควรไปเลือกซื้อมา พร้อมกับต้องสังเกตคำโฆษณาให้ดีว่ามีความโอ้อวดเกินจริงหรือไม่ อย่างการบอกว่าไม่มีส่วนผสมของด่างที่ทำให้ผมแห้งเสีย ซึ่งในความเป็นจริงทราบดีว่ากลไกที่ทำให้ผมยืดเกิดจากด่าง หรือกลิ่นไม่ฉุน แต่มีส่วนประกอบของแอมโมเนีย

4. กรณีที่ผลิตภัณฑ์มาเป็นเซตมีขวดหนึ่งเป็นครีมยืดผม อีกขวดเป็นครีมช่วยทำให้ ความเป็นกรดด่างของเส้นผมกลับมาปกติขึ้น ควรใช้ตามลำดับและตามเวลาที่แนะนำไว้ตามแต่ละยี่ห้อ หากบางยี่ห้อ ไม่มีครีมขวดที่สองมาให้อาจมองหาครีมบำรุงผมที่เหมาะกับผมทำการยืดมา เพื่อบำรุงผมแทน

นอกจากนี้ก่อนการใช้ผลิตภัณฑ์ จำเป็นต้องตรวจสอบหนังศีรษะของตนเอง ว่าไม่ควรมีแผล เพราะตัวครีมยืดผมอาจทำให้แผลอักเสบกว่าเดิมได้ และหลังจากยืดผมแล้ว ไม่ควรสระผมอย่างน้อย 48 ชั่วโมง แต่เอาให้ชัวร์เลยก็ 3-4 วัน เพื่อให้สารที่ช่วยจัดโครงสร้างผมให้ตรงสวยนั้นเข้าไปจัดการอย่างล้ำลึกและเต็มประสิทธิภาพ และยังควรปล่อยผมตามธรรมชาติ ไม่ควรไปใช้หนังยางหมัด หรือกิ๊บหนีบ เพราะอาจทำให้ผมกลับมาหยิก หรือเป็นรอยตามที่มัดได้

คุณไม่จำเป็นต้องเสียสละสุขภาพผมเมื่อคุณสามารถหาครีมนวดผมที่ดีที่สุดเพื่อให้ผมดูดีและรู้สึกดี ตรวจสอบรายชื่อ ครีมนวดผม และอย่าลืมอัพเกรดเครื่องมือจัดแต่งทรงผมของคุณด้วย! ด้วย เครื่องเป่าผม, เตารีดดัดผม และ ที่หนีบผมตรง ใหม่ คุณจะหลงรักผลลัพธ์ที่ได้ในลุคใหม่ของคุณ

ครีมยืดผม

คำถามและคำตอบ

ผลของครีมยืดผมอยู่ได้นานแค่ไหน

ก่อนจะตอบคำถามนี้ ต้องทบทวนก่อนด้วยว่า สิ่งสำคัญที่จะทำให้ผลลัพธ์เป็นไปดังที่ทางแบรนด์ของครีมยืดผมสูตรนั้น ๆ เคลม นั่นก็มาจากเราเลือกครีมยืดผมเหมาะกับเส้นผมเราหรือไม่ บวกกับเราทิ้งระยะเวลาต่าง ๆ ทำตามขั้นตอนทั้งระหว่างทำและหลังยืดผมหรือไม่ หากทำตามขั้นตอนถูกต้อง เลือกสูตรครีมให้เหมาะกับเส้นผมแล้ว ผมตรง เรียบลื่น สลวยก็จะอยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการดูแลเส้นผมของแต่ละคนด้วย

Photo of author

Sutthida

สุทธิดามีใจรักในการเขียนและทำอาหาร หลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เธอตัดสินใจหางานทำวารสารศาสตร์ เธอใฝ่ฝันที่จะอาศัยอยู่ริมชายหาดพร้อมระเบียงที่มองเห็นวิวทะเล เธอชอบติดตามผู้มีอิทธิพลในโซเชียลมีเดียบน Instagram หรือดูรายการทีวีหรือภาพยนตร์ในเวลาว่าง