ไบโอติน ยี่ห้อไหนดี 2024

บางท่านอาจจะพบว่าตนเองมีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเส้นผมแห้ง เส้นผมไม่มีน้ำหนัก หรือเส้นผมขาดหลุดร่วงมากกว่าปกติ ซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นหนึ่งในปัญหากวนใจของหลายๆท่านเลยก็ว่าได้ซึ่งอาจส่งผลไปถึงสภาพจิตใจที่ทำให้สาวๆหลายคนจิตตกว่าตนเองป่วยเป็นโรคร้ายแรงหรือไม่

ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ส่วนหนึ่งมาจากการที่ร่างกายขาดวิตามินบี 7 หรือที่เรียกกันว่าขาดไบโอตินนั้นเอง ในวันนี้เราจึงได้รวบรวมประเด็นที่น่าสนใจมาให้ทุกท่านได้อ่านกันว่า ไบโอติน ยี่ห้อไหนดี ซึ่งรวบรวมยี่ห้อที่เป็นที่สุดในแต่ละด้านมาให้ทุกท่านได้เลือกสรรโดยจะมียี่ห้อไหนบ้างไปดูกันได้เลย

9 ไบโอติน

1. โดยรวมที่ดีที่สุดBlackmores Biotin H+ Lazada/Shopee
2. สำหรับผม ผิวหนัง และเล็บที่ดีที่สุด
Biotin zinc Lazada/Shopee
3. ราคาประหยัด ที่ดีที่สุด21st Century Lazada/Shopee
4. ซอฟเจลไบโอติน ที่ดีที่สุดPuritan’s Pride Lazada/Shopee
5. แบบธรรมชาติ ที่ดีที่สุด Nature's Bounty Lazada/Shopee
6. สำหรับหนังศีรษะที่แข็งแรง: Vistra Regow Lazada/Shopee
7. มังสวิรัติไบโอติน ที่ดีที่สุดNow Foods Lazada/Shopee
8. เม็ดฟู่ไบโอติน ที่ดีที่สุด: VDesign Biotin C Lazada/Shopee
9. กัมมี่ไบโอติน ที่ดีที่สุด:  Natrol Biotin Lazada/Shopee

ไบโอติน ยี่ห้อไหนดี 2024

1. Blackmores – Biotin H+

ไบโอตินคุณสมบัติโดยรวมที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • ช่วยลดอาการผมร่วง
  • ช่วยทำให้เส้นผมมีสุขภาพที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
  • ช่วยแก้ปัญหาศีรษะล้าน
  • มีส่วนผสมจากธรรมชาติ
ข้อเสีย
  • ราคาค่อนข้างสูง

สำหรับตัวแรกที่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากจากผู้ใช้งานจนถูกยกให้เป็นไบโอตินที่มีคุณสมบัติโดยรวมดีที่สุดเลยก็คือไบโอตินของยี่ห้อ Blackmores Biotin H+ โดยตัวนี้จะเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่แก้ปัญหาผมหลุดร่วงได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นตัวที่มีส่วนประกอบของวิตามินซี และวิตามินอีที่จะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระต่างๆ อีกทั้งยังมีสารสกัดจากธรรมชาติที่จะทำให้เส้นผมของท่านแข็งแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

โดยผลิตภัณฑ์ตัวนี้ออกแบบมาเพื่อดูแลเส้นผมให้แข็งแรงเงางาม และลดอาการหลุดร่วงต่างๆที่อาจก่อให้เกิดปัญหารำคาญใจแก่ผู้บริโภคทุกท่าน ซึ่งเป็นตัวที่เหมาะเป็นอย่างมากสำหรับท่านใดที่อยากรักษาอาการศีรษะล้านเพราะตัวนี้ใส่ส่วนผสมมาอย่างอัดแน่นและคิดค้นมาเป็นอย่างดีเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการและตอบโจทย์ทุกปัญหาเส้นผมได้เลยทีเดียว

2. Biotin zinc

ไบโอตินที่ดีที่สุดสำหรับผม ผิวหนัง และเล็บ

ข้อดี
  • ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
  • ช่วยทำให้เส้นผมแข็งแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
  • ช่วยบำรุงเล็บให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
  • ราคาไม่แพง
ข้อเสีย
  • เม็ดยาค่อนข้างใหญ่ทำให้ทานยาก

ถ้าหากท่านใดที่กำลังมองหาไบโอตินที่ดีที่สุดสำหรับผม ผิวหนัง และเล็บ Biotin zinc ที่ผลิตโดนคณะเภสัชจุฬาจะเป็นตัวที่ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นอาหารเสริมที่คิดค้นมาเพื่อคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับผมร่วง ผมขาดง่าย ผมเส้นเล็ก หนังศีรษะล้าน เล็บบาง และคนที่มีอาการภูมิแพ้บ่อย ซึ่งตัวนี้จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ Biotin และ zing ซึ่งเป็นตัวที่ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

นอกจากนี้ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยในการชะลอผมงอกและมีส่วนในการซ่อมแซมเซลล์ต่างๆในร่างกายอีกด้วย โดยจะเป็นตัวที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้นมากกว่าเดิม และทำให้เส้นผมของท่านดูเงางาม นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการรักษาสิวอักเสบ ซึ่งจะช่วยควบคุมความมันในผิวหนังได้เป็นอย่างดีจึงทำให้หมดปัญหาเรื่องสิวอุดตันไปได้เลย

3. 21st Century – Biotin 800 mcg

ไบโอตินราคาประหยัดที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • ช่วยบำรุงเส้นผม และช่วยทำให้ผิวเล็บแข็งแรง
  • ช่วยเสริมแคลเซียมให้กับกระดูกและฟัน
  • ราคาไม่แพง
ข้อเสีย
  • ไม่ค่อยเห็นผลเรื่องการบำรุงผิวพรรณ

สำหรับไบโอตินที่ราคาย่อมเยาว์ที่ดีที่สุดต้องยกให้กับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของยี่ห้อ 21 st Century Biotin เลยเพราะตัวนี้เป็นตัวที่ตั้งราคาได้โดยใจผู้บริโภคเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นไบโอตินที่ปราศจากกลูเตน ไม่มียีสต์ ไม่ปรุงแต่งรสชาติอีกด้วย ซึ่งถ้าหากเลือกไบโอตินตัวนี้จะมั่นใจได้เลยว่าเป็นตัวที่มีมาตรฐานเป็นอย่างมากเนื่องจากนำเข้ามาจากประเทศอเมริกาเลยทีเดียว 

และนอกจากเรื่องของการเสริมไบโอตินให้กับร่างกายแล้วยังมีการเพิ่มเติมส่วนผสมเกี่ยวกับการเสริมแคลเซียมเข้ามาอีกด้วยซึ่งจะช่วยบำรุงทั้งเส้นผม เล็บ ผิว อีกทั้งยังบำรุงกระดูกและฟันของผู้บริโภค โดยถ้าหากท่านใดที่รู้สึกว่าตนเองเป็นคนที่มีปัญหาเหล่านี้การซื้อผลิตภัณฑ์ตัวนี้มารับประทานก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเลย

4. Puritan’s Pride – Biotin 10,000 mcg

สุดยอดซอฟเจลไบโอติน

ข้อดี
  • ช่วยบำรุงเล็บให้แข็งแรงยิ่งขึ้น
  • ช่วยป้องกันการขาดร่วงของเส้นผม
  • ช่วยบรรเทาอาการอักเสบของผิวหนัง
ข้อเสีย
  • ไม่มีวางขายตามร้านค้าชั้นนำในห้างสรรพสินค้า

สำหรับอาหารเสริมที่เรียกได้ว่าเป็นที่สุดของซอฟเจลไบโอตินต้องยกให้กับยี่ห้อ Puritan’s Pride เลยทีเดียว โดยยี่ห้อนี้ได้จัดอยู่ในหทวดของวิตามินชนิดหนึ่งซึ่งมีการคำนวณปริมาณที่พอเหมาะซึ่งร่างกายต้องการในแต่ละวันมาแล้ว โดยผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะมีส่วนช่วยในการแก้ปัญหาเส้นผมขาดหลุดร่าง อีกทั้งยังช่วยบำรุงเล็บและผมให้แข็งแรง นอกจากนี้ถ้าหากท่านใดมีความกังวลเรื่องการเกิดผมหงอกตัวนี้ก็ยังมีคุณสมบัติช่วยทำให้ผมหงอกช้าลงกว่าเดิมอีกด้วย

ที่สำคัญ Puritan’s Pride ยังมีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมันและโปรตีนซึ่งจะเอาไปใช้ในการสร้างพลังงานให้กับร่างกายได้อีกด้วย โดยผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะเป็นตัวที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคที่ต้องการไบโอตินเพื่อไปช่วยป้องกันและบำรุงร่างกายให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังสามารถบรรเทาอาการอักเสบของผิวหนังได้เป็นอย่างดี

5. Nature's Bounty, Biotin

ไบโอตินธรรมชาติที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • ช่วยบำรุงเล็บให้แข็งแรงไม่เปรอะบางและแห้งง่าย
  • ช่วยทำให้ผิวพรรณดูกระจ่างใส
  • ช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง
ข้อเสีย
  • สินค้าหาซื้อยาก

ถ้าหากท่านใดเป็นคนที่ไม่ชอบทานอาหารเสริมแบบเม็ด อาหารเสริมตัวนี้จะเหมาะสมกับทุกท่านอย่างแน่นอนเนื่องจากเป็นไบโอตินแบบธรรมชาติ จัดว่าเป็นตัวที่ดีที่สุดเลยทีเดียว โดยตัวนี้จะมีส่วนช่วยในการบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งสำหรับผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะมีส่วนผสมของวิตามินต่างๆที่มีประโยชน์ต่อการบำรุงส่วนต่างๆของร่างกายอีกด้วย 

และที่สำคัญยังมีส่วนผสมที่ช่วยทำให้ผิวพรรณดูกระจ่างใสและดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะท่านใดที่มีปัญหาเล็บแห้งและเล็บเปรอะบางตัวนี้สามารถแก้ปัญหาให้ได้อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ไบโอตินที่ได้รับการรับรองมาตราฐานจากประเทศอเมริกาที่ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้เลยว่าปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

6. Vistra – Regow

ไบโอตินที่ดีที่สุดสำหรับหนังศีรษะที่แข็งแรง

ข้อดี
  • ช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง
  • เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องเส้นผมอย่างหนัก
  • ช่วยแก้ปัญหาผมขาดหลุดร่วง
ข้อเสีย
  • ยาเม็ดใหญ่รับประทานยาก

สำหรับ Vistra Regow เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมไบโอตินที่เหมาะสำหรับผู้ที่ทำสีผมเป็นอย่างมาก เพราะผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีความโดดเด่นในเรื่องของการบำรุงหนังศีรษะให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยส่วนผสมหลักจะประกอบไปด้วยอาหารเสริมทั้งหมด 3 ชนิดไม่ว่าจะเป็นสารสกัดจากสนหางม้าที่จะมีส่วนในการช่วยให้รากผมและเส้นผมแข็งแรงมากยิ่งขึ้นอีกทั้งยังไม่หลุดร่วงง่ายอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากเมล็ดเฟล็กซ์ที่จะช่วยลดการอักเสบในบริเวณหนังศีรษะได้เป็นอย่างดีเหมาะเป้นอย่างมากสำหรับท่านใดที่ทำสีผมและต้องใช้สารเคมีกับเส้นผมในปริมาณที่มากและที่สำคัญยังเป็นสารสกัดที่จะช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่เส้นผมและลดปัญหาผมเสียได้อีกด้วย ส่วนตัวสุดท้ายก็คือสารสกัดเครตินที่จะทำให้ผมแข็งแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม 

7. Now Foods Biotin 

สุดยอดมังสวิรัติ ไบโอติน

ข้อดี
  • ช่วยทำให้ระบบเผาผลาญดีขึ้นกว่าเดิม
  • ช่วยทำให้ผิวพรรณดูกระจ่างใส
  • ช่วยทำให้เส้นผมแข็งแรง
ข้อเสีย


ไบโอตินเป็นวิตามินที่ละลายน้ำได้ ไบโอตินทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบควบคุมหลักในการสร้างกลูโคเนซิส การสังเคราะห์กรดไขมัน และในการเผาผลาญกรดอะมิโนบางชนิด ทำโดยไม่มีกลูเตน/ ไร้ถั่ว / ปราศจากนม / ปราศจากไข่ / ปลอดจีเอ็มโอ / ปราศจากถั่วเหลือง / โคเชอร์ / ฮาลาล / วีแกน ส่วนประกอบอื่นๆ: แป้งข้าวเจ้า, ไฮโปรเมลโลส (แคปซูลเซลลูโลส), กรดสเตียริก (แหล่งผัก) และซิลิกอนไดออกไซด์ ไม่ผลิตด้วยส่วนผสมข้าวสาลี กลูเตน ถั่วเหลือง นม ไข่ ปลา หอย ถั่วเปลือกแข็ง หรือส่วนผสมงา ผลิตในโรงงาน GMP ซึ่งประมวลผลส่วนผสมอื่นๆ ที่มีสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้

สำหรับไบโอตินตัวนี้เป็นตัวที่ส่วนผสมทุกอย่างเป็นมังสวิรัติทั้งหมดดังนั้นถ้าหากท่านใดที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ก็มั่นใจได้เลยว่ารับประทานอาหารเสริมตัวนี้ได้อย่างแน่นอน โดยเป็นตัวที่มีส่วนช่วยในการดูแลผิวพรรณได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีส่วนในการช่วยทำให้เล็บแข็งแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ต่อระบบการทำงานของตา ตับ และระบบประสาทต่างๆอีกด้วย

8. VDesign – Biotin C

สุดยอดเม็ดฟู่ไบโอติน

ข้อดี
  • ช่วยลดปัญหาผมร่วงได้เป็นอย่างดี
  • ช่วยทำให้รากผมแข็งแรง
  • เม็ดฟู่รับประทานง่าย
  • ช่วยทำให้รอยแผลเป็นดูจางลง
ข้อเสีย
  • ราคาค่อนข้างสูง 

สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแบบเม็ดฟู่ที่ช่วยเสริมสร้างไบโอติกให้กับร่างกายตัวที่ถูกยกให้เป็นตัวที่ดีที่สุดก็คือผลิตภัณฑ์ของยี่ห้อ VDesign Biotic C โดยต้องยอมรับเลยว่าอาหารเสริมตัวนี้จะเป็นตัวที่เพิ่มวิตามินบี 12 ให้แก่ร่างกายอีกทั้งยังทำให้ผมแข็งแรงและลดการเกิดผมหงอกได้อีกด้วย

นอกจากนี้ยังเป็นตัวที่ตอบโจทย์สำหรับท่านใดที่ไม่ชื่นชอบในการทานยาเม็ดเนื่องจากเป็นวิตามินที่อัดมาในรูปแบบเม็ดฟู่ทำให้รับประทานได้ง่ายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งจะช่วยทำให้ผม ผิวพรรณ และเล็บแข็งแรงมากยิ่งขึ้นอีกทั้งยังช่วยซ่อมแซ่มส่วนต่างๆของร่างกายและทำให้รอยแผลเป็นดูจางลงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยเป็นตัวที่ถูกกล่าวขานว่ามีคุณสมบัติในการลดผมร่วง เร่งผมหนา และรักษารากผมได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

9.  Natrol Biotin

กัมมี่ไบโอตินที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • ช่วยรักษาสุขภาพเส้นผมให้แข็งแรง
  • ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส
  • ช่วยชะลอริ้วรอยก่อนวัยอันควร
ข้อเสีย
  • ไม่มีวางขายตามร้านค้าชั้นนำในห้างสรรพสินค้า

สำหรับท่านใดที่ไม่ชื่นชอบอาหารเสริมที่เป็นชนิดเม็ดที่กลืนยากลำบากอีกทั้งยังมีรสชาติขมและรู้สึกว่าแบบเม็ดฟู่ยังไม่ตอบโจทย์การบริโภคของท่านอีกหนึ่งรูปแบบของอาหารเสริมที่น่าสนใจและกำลังมาแรงเป็นอย่างมากในปัจจุบันก็คือตัวกัมมี่ไบโอตินซึ่งถ้าหากอยากได้ยี่ห้อที่มีคุณสมบัติดีที่สุดและมีประสิทธิภาพดีเป้นอย่างมากต้องกัมมี่ไบโอตินของ Natrol Gummies Hair & Nails โดยไบโอตินตัวนี้จะเป็นวิตามินรวมที่ทานง่ายและเคี้ยเพลินเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

ซึ่งมีคุณสมบัติก็คือการช่วยบำรุงผมให้ดำเงางาม อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดผมงอกได้อีกด้วย ที่สำคัญเป็นตัวที่ช่วยบำรุงรากผมได้เป็นอย่างดี ทำให้เล็กแข็งแรง และยังป้องกันการแห้งเปรอะของเล็บ นอกจากนี้ในเรื่องของผิวพรรณก็ยังช่วยทำให้ผิวดูเรียบเนียนกระจ่างใสและมีส่วนผสมที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะทำให้ชะลอริ้วรอยต่างๆได้อีกด้วย

คู่มือการซื้อไบโอติน

คู่มือการซื้อไบโอติน

สำหรับสาวๆหรือหนุ่มๆท่านไหนที่คิดอยากจะซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีส่วนช่วยในการเสริมไบโอติกให้กับร่างกายสิ่งสำคัญก็คือต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นต่างๆให้เป็นอย่างดีเพื่อให้สามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการและมีประสิทธิภาพสูงที่สุด ซึ่งจะทำให้การใช้จ่ายในครั้งนี้ได้รับความคุ้มค่าและทำให้ทุกท่านพึงพอใจกันอย่างแน่นอน โดยจะมีประเด็นไหนที่น่าสนใจบ้างเราได้รวบรวมมาให้แล้วซึ่งมีดังนี้

ไบโอตินคืออะไร และทำไมฉันจึงควรรับประทาน

สำหรับเรื่องแรกที่เราจะมาไขข้อสงสัยกันก่อนเลยก็คือเรื่องของไบโอตินหรือที่บางท่านรู้จักกันในชื่อวิตามินบี 7 หรือ วิตามินเอช ซึ่งจะเป็นสิตามินที่ละลายน้ำได้เป็นอย่างดีอีกทั้งยังเป็นตัวที่มีส่วนสำคัญในการเผาผลาญไขมันและโปรตีนในร่างกายอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการดูแลผิวพรรณ เส้นผม และเล็บของท่านได้เป็นอย่างดี ซึ่งสาเหตุที่ควรรับประทานไบโอตินนั้นก็เพราะว่าจะช่วยป้องกันการเกิดผมงอกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกายและช่วยป้องกันและรักษาโรคที่เกิดจากเส้นผมและหนังศีรษะได้อีกด้วย

ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าที่ไบโอตินจะแสดงผล

สำหรับเรื่องของระยะเวลาในการรับประทานไบโอตินเข้าสู่ร่างกายและจะเห็นผลนั้นจะขึ้นอยู่กับปริมาณที่บริโภคเข้าไปด้วยซึ่งถ้าหากบริโภคเข้าไปในปริมาณที่พอเหมาะซึ่งก็คือการรับประทานต่อวันประมาณ 100 – 300 ไมโครกรัมอาหารเสริมที่เรากินเข้าไปก็จะถูกดูดซึมไปใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยส่วนใหญ่ถ้าหากรับประทาน 300 ไมโครกรัมในทุกๆวันก็จะเห็นผลได้ภายใน 3 เดือนเลยทีเดียว

มีผลข้างเคียงในการทานไบโอตินหรือไม่

ในการรับประทานไบโอตินทุกท่านต้องทำความเข้าใจกันก่อนเลยว่าอาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายและเป็นอาการทั่วไปซึ่งอาจพบได้ไม่ว่าจะเป็นอาการท้องเสีย อาการผื่นบนผิวหนัง หรืออาการแพ้ต่างๆ อาทิเช่น ลมพิษ หายใจลำบาก ลิ้น หรือคอมีอาการบวมอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งอาการเหล่านี้มาจากอาการแพ้ส่วนปนะกอบทั้งนั้น แต่สำหรับเรื่องการรับประทานไบโอตินในปริมาณที่สูงยังไม่มีงานวิจัยไหนออกมายืนยันได้ว่ามีผลเสียต่อร่างกาย

วิธีการเลือกอาหารเสริมไบโอตินที่ดี

อีกหนึ่งสิ่งที่ผู้บริโภคไม่ควรที่จะมองข้ามก็คือการเลือกอาหารเสริมไบโอตินที่ดีและต้องเลือกสิ่งที่เหมาะสมและตอบโจทย์ปัญหาของแต่ละท่านได้อย่างดีที่สุด โดยในส่วนนี้เราก็ได้รวบรวมมาให้ว่าควรเลือกอย่างไรบ้างเพื่อให้ได้ไบโอตินที่ดีที่สุดโดยมีวิธีการเลือกดังนี้

  • เลือกส่วนผสมที่มีคุณภาพ เรื่องของส่วนผสมก็เป็นอีกอย่างที่สำคัญต่อผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ซึ่งควรเลือกสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและเลือกส่วนผสมที่มีคุณภาพเพื่อให้ร่างกายได้ดูดซับสารอาหารที่จำเป็นและสามารถนำไปใช้งานต่อได้อย่างดี
  • เลือกรูปแบบไบโอตินที่เหมาะกับคุณ ไบโอติกก็ยังมีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปซึ่งก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับความชอบและความถนัดในการรับประทานของแต่ละท่านโดยแต่ละแบบก็จะมีข้อดีที่แตกต่างกันดังนั้นก็ควรเลือกที่เหมาะสมกับตนเองให้มากที่สุด
  • ใช้ไบโอตินเพียงอย่างเดียวหรือร่วมกับส่วนผสมอื่นๆ อีกหนึ่งสิ่งที่บางท่านอาจสงสัยกันอย่างแน่นอนคือเรื่องของการใช้งานไบโอตินว่าควรเลือกอาหารเสริมที่มีไบโอตินเพียงอย่างเดียวหรือควรเลือกที่มีส่วนผสมอย่างอื่นด้วย โดยเราบอกได้เลยว่าการเลือกอาหารเสริมที่มีส่วนผสมอย่างอื่นด้วยจะทำให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์อย่างครบถ้วนมากกว่าการเลือกรับประทานอาหารเสริมที่มีเพียงแค่ไบโอตินอย่างเดียว
Best Biotin Vitamins

คำถามและคำตอบ

แหล่งไบโอตินจากธรรมชาติที่ดีที่สุดคือ

สำหรับไบโอตินจากธรรมชาติที่ดีที่สุดจะอยู่ในวัตถุดิบที่หลายๆท่านต้องคุ้นเคยกันอย่างแน่นอน ได้แก่ เนื้อวัว ปลาเนื้อขาว ตับหมู ไข่แดง เมล็ดพืชต่างๆ ผักต่างๆโดยเฉพาะดอกกะหล่ำ แครอท เห็ด ผลไม้ต่างๆ ข้าวโพด ข้าวกล้อง และรำข้าวสาลี ซึ่งในอาหารพวกนี้ถึงแม้ว่าจะมีไบโอตินในปริมาณที่ไม่มากแต่ก็ทำให้ทุกท่านหลีกเลี่ยงภาวะการขาดไบโอตินกันได้

ฉันสามารถใช้ไบโอตินได้อย่างปลอดภัยในหนึ่งวันมากแค่ไหน

สำหรับการบริโภคไบโอตินในแต่ละวันไม่ควรเกิน 300 ไมโครกรัมต่อวันซึ่งจะเป็นปริมาณที่เหมาะสมต่อร่างกายอีกทั้งยังเป็นปริมาณที่สามารถดูดซึมไปใช้งานได้อย่างเต็มที่ไม่ทำให้เกิดส่วนเกินในร่างกายอีกด้วย ซึ่งถ้าหากบริโภคในปริมาณที่เราได้แนะนำไปเป็นจำนวนที่เหมาะสมซึ่งจะทำให้เห็นประสิทธิภาพภายใน 3 เดือนเลยทีเดียว

Photo of author

Sutthida

สุทธิดามีใจรักในการเขียนและทำอาหาร หลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เธอตัดสินใจหางานทำวารสารศาสตร์ เธอใฝ่ฝันที่จะอาศัยอยู่ริมชายหาดพร้อมระเบียงที่มองเห็นวิวทะเล เธอชอบติดตามผู้มีอิทธิพลในโซเชียลมีเดียบน Instagram หรือดูรายการทีวีหรือภาพยนตร์ในเวลาว่าง