5 อันดับ เครื่อง CPAP ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2024

สำหรับคนที่กำลังสนใจอยากจะซื้อ cpap ไปใช้ต้องกำลังประสบปัญหาการนอนกรนหรือพบว่าตัวเองมีภาวะหยุดหายใจขณะที่หลับจึงอยากที่จะมองหา cpap ดี ๆ สักหนึ่งเครื่องไปใช้ ซึ่งเราต้องบอกก่อนเลยว่าในปัจจุบันจากการที่เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็วจึงทำให้มีหลากหลายแบรนด์พัฒนาเครื่องออกมาให้เลือกซื้อไปใช้งานกันได้ แต่การเลือกซื้อ เครื่อง cpap สักหนึ่งเครื่องก็ต้องเลือกสิ่งทีดี่ที่สุดให้กับตัวเอง ดังนั้นเราจึงได้รวบรวม 5 แบรนด์ที่ดีที่สุดในแต่ละด้านมาฝากทุกคนเผื่อว่าใครกำลังสนใจอยากซื้อมาใช้ก็เข้ามาดูกันก่อนได้

5 เครื่อง cpap

1. โดยรวมที่ดีที่สุด: CPAP HํYPNUS CA 820 Lazada/Shopee
2. ดีที่สุดสำหรับการเดินทาง: ResMed Airmini Autoset Lazada/Shopee
3. เงียบที่สุด: ResMed Airsense 10 Lazada/Shopee
4. คุ้มค่าที่สุดVentmed DS6 Auto CPAP Lazada/Shopee
5. ชุดเซทที่ดีที่สุด: BMC RESmart G2s AUTO CPAP Lazada/Shopee

เครื่อง CPAP ยี่ห้อไหนดีปี 2024

1. CPAP HํYPNUS CA 820

เครื่อง CPAP โดยรวมที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • มีระบบเปิดปิดเองอัตโนมัติ Smart Start / Stop
  • สามารถเลือกฟังก์ชันหน้ากากได้ที่หน้าจอ ให้เหมาะกับหน้ากากที่ใช้จริงได้
  • สามารถเลือกฟังก์ชันตามขนาดท่ออากาศได้ที่หน้าจอ
  • มีเสียงเตือนกรณีใช้แล้วเกิดลมรั่ว (Leak Alarm)
  • สามารถใช้ความดันแบบใช้ระบบผ่อนแรงลมหายใจ (Pressure Release) ได้ถึง 4 ระดับ
ข้อเสีย
  • ราคาค่อนข้างสูง

เป็นตัวที่ออกแบบฟังก์ชั่นออกมาได้ตอบโจทย์กับผู้ที่ประสบปัญหานอนกรนหรือมีภาวะหยุดภายใจในขณะหลับ เป็นตัวที่มีการปรับแรงดันในการใช้งานแบบอัตโนมัติ มาพร้อมกับฟีเจอร์ Ramp ที่จะช่วยลดแรงดันในช่วงเริ่มต้นของการนอนหลับและเพิ่มแรงดันทีละนิดจะถึงค่าที่กำหนดเอาไว้มีฟีเจอร์ Smart Ramp ที่ปรับแรงดันเพิ่มขึ้นถ้าหากตรวจพบว่ามีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ตัวเครื่องมีความทันสมัยมาพร้อมกับระบบตรวจสอบการทำงานได้เอง ใส่เซนเซอร์ในการตรวจจับแสงสว่างภายในห้องมาเพื่อให้ปรับความสว่างของหน้าจอแบบอัตโนมัติ รองรับการทำงานร่วมกับเครื่องทำความชื้น สามารถย้อนดูสถิติการใช้งานของหน้าจอจับจังหวะการหยุดหายใจ

โดยวิเคราะห์เหตุการณ์การหายใจในรูปแบบต่างๆแล้วตอบสนองโดยให้แรงดันที่เหมาะสมกับรูปแบบการหายใจนั้น แบบไดนามิค ระบบมอเตอร์อัจฉริยะ ด้วยประสิทธิภาพของการควบคุมความดันแบบไม่มีขั้นบันได ในการเร่งความเร็ว และการลดความเร็วของแรงดัน จะถูกส่งไปอย่างสม่ำเสมอให้ถึงเป้าหมาย ทันทีตามจังหวะการหายใจ ระบบการทำงานความกันระหว่าง Blower และ Airduct ทำให้เกิดแรงดันลมที่มีเสถียรภาพสามารถลดเสียงรบกวน สามารถอัปเกรด ท่อร้อน เพิ่ม ใช้ในกรณีที่มีอากาศเย็นแล้วเกิดการควบแน่นแล้วทำให้เกิดหยดน้ำในท่อได้ เครื่องจะปล่อยลมอ่อนๆทันทีที่เสียบปลั๊ก เพื่อเป็นการปรับอุณหภูมิในท่อให้พร้อมใช้งานได้ทันที่

จึงทำให้มั่นใจได้ว่าคุณจะรู้สึกสบายในอุณหภูมิที่เหมาะสมตั้งแต่ลมหายใจแรก เซนเซอร์ ที่วัดการไหลและแรงดันของอากาศที่มีความแม่นยำสูง จับการเปลี่ยนแปลงการไหลเวียนของอากาศอย่างแม่นยำและตอบสนองทันทีภายใน 0.004 วินาที ประสิทธิภาพสูงที่พัฒนาขึ้นทำงานอิสระรวมกับอัลกอริธึมในตัวเครื่อง ที่ซิงโครไนซ์กับการหายใจที่ทำให้ได้ลมที่นุ่มสบาย เซนเซอร์ความแม่นยำสูงแบบเรียลไทม์ ที่ทำงานร่วมกับ อัลกอริธึม i-sense สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงการไหลของอากาศในการหายใจที่ละเอียดอ่อนได้อย่างแม่นยำและส่งแรงดันลมที่ดีที่สุดแบบไดนามิคเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้การหายใจที่เป็นธรรมชาติได้

2. ResMed Airmini Autoset

เครื่อง CPAP ที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทาง

ข้อดี
  • พกพาได้สะดวกสบายน้ำหนัก 300 กรัม 
  • แรงดันช่วง 4-20 cmH2O
  • ปรับระดับผ่อนแรงดันได้ทั้งหมด 3 ระดับ 
  • ตั้ง Ramp Time ได้ตั้งแต่ 5-45 นาที 
  • ตรวจสอบสถิติผ่านมือถือได้
ข้อเสีย

เครื่อง CPAP ขนาดพกพาที่เหมาะกับการเดินทางต้องแบรนด์ ResMed รุ่น Airmini Autoset โดยเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับน้ำหนักแค่เพียง 300 กรัม มีขนาดเล็กตัวเครื่องยาว 133 มิลลิเมตร สูง 52 มิลลิเมตรกว้าง 84 มิลลิเมตร เครื่องนี้จะปรับระดับแรงดันอากาศแบบอัตโนมัติเพียงแค่กดใช้งานโหมด AutoSet mode CPAP ใช้แรงดันช่วง 4-20 cmH2O อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบ Expiratory Pressure Relief ซึ่งเป็นการผ่อนแรงดันในขณะที่หายใจออกที่สามารถปรับได้ทั้งหมด 3 ระดับ  

เครื่อง CPAP ขนาดพกพาที่เหมาะกับการเดินทางต้องแบรนด์ ResMed รุ่น Airmini Autoset โดยเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับน้ำหนักแค่เพียง 300 กรัม มีขนาดเล็กตัวเครื่องยาว 133 มิลลิเมตร สูง 52 มิลลิเมตรกว้าง 84 มิลลิเมตร เครื่องนี้จะปรับระดับแรงดันอากาศแบบอัตโนมัติเพียงแค่กดใช้งานโหมด AutoSet mode CPAP ใช้แรงดันช่วง 4-20 cmH2O อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบ Expiratory Pressure Relief ซึ่งเป็นการผ่อนแรงดันในขณะที่หายใจออกที่สามารถปรับได้ทั้งหมด 3 ระดับ  

3. ResMed Airsense 10

เครื่อง CPAP ที่เงียบที่สุด

ข้อดี
  • ระดับเสียงในการทำงาน 25 เดซิเบล 
  • หน้าจอ LED ปรับความสว่างแบบอัตโนมัติ 
  • แรงดัน 4-20 cmH2O 
  • ควบคุมและเรียกดูสถิติได้ผ่านมือถือ
  • มีฟีเจอร์ให้ใช้งานได้หลากหลาย
ข้อเสีย
  • ไม่มีระบบแจ้งเตือนอุณหภูมิสูง 

เครื่อง CPAP ของแบรนด์ ResMed รุ่น Airsense 10 เป็นรุ่นที่เงียบที่สุด โดยระดับเสียงขณะเครื่องทำงานอยู่ที่ 25 เดซิเบลเท่านั้น น้ำหนักตัวเครื่อง 1,248 กรัม มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่อำนวยความสะดวกต่อการใช้งานหลากหลายอย่าง เช่น Auto On ที่เริ่มทำงานแบบอัตโนมัติแค่เพียงใส่หน้ากาก Auto Off ที่หยุดทำงานอัตโนมัติเมื่อถอดหน้ากากออก นอกจากนี้ยังมี Auto Ramp Time ซึ่งจะปรับแรงดันแบบอัตโนมัติให้เหมาะสมกับช่วงเวลาในการนอน 

เป็นรุ่นที่เลือกใช้ท่อลมแบบ climate Line ซึ่งจะปรับตามอุณหภูมิของห้องลดการเกาะของหยดน้ำ สามารถเชื่อมต่อกับมือถือเพื่อที่ใช้ระบบ ResMed AirView ในการแจ้งเตือนความผิดปกติ อีกทั้งยังเรียกดูข้อมูลย้อนหลังได้ผ่านช่องทางออนไลน์ ปรับแรงดันได้ 4-20 cmH2O มีเครื่องทำความชื้นติดมากับเครื่อง หน้าจอ LED ปรับความสว่างของจอแบบอัตโนมัติตามแสงสว่างภายในห้อง รูปลักษณ์สวยงามประหยัดพื้นที่ในการวาง ใส่ระบบ Remote Assist ที่สามารถควบคุมระยะไกลได้

4. Ventmed DS6 Auto CPAP

เครื่อง CPAP ที่คุ้มค่าที่สุด

ข้อดี
  • ฟีเจอร์ Ramp Time ตั้งความหน่วยเวลาได้ 0-60 นาที 
  • ใช้งานได้ 2 ระบบ ทั้ง Standard และ Auto 
  • หน้าจอ LCD ปรับความสว่างอัตโนมัติ
  • มีระบบแจ้งเตือนอุณหภูมิสูง 
  • มีระบบ High Frow Compensation Ability
ข้อเสีย

เครื่อง CPAP ของแบรนด์ Ventmed DS6 Auto CPAP เป็นเครื่องที่มาพร้อมกับความคุ้มค่าที่สุดเพราะใส่คุณสมบัติมาอย่างครบครันในราคาที่ไม่สูง เป็นรุ่นที่ได้รับมาตรฐาน CE จากประเทศเยอรมัน มีการติดเครื่องทำความชื้น เสียงการทำงานของตัวเครื่องอยู่ที่ 28 เดซิเบล  ปล่อยแรงดันลม 4-20 cmH2O มีฟีเจอร์ Ramp Time ที่สามารถตั้งความหน่วงเวลาความดันได้ตั้งแต่ 0-60 นาที ใช้งานได้ทั้งระบบ Standard CPAP และแบบ Auto CPAP น้ำหนักของตัวเครื่องอยู่ที่ 1.6 กิโลกรัม 

เป็นรุ่นที่มีระบบเปิดปิดแบบอัตโนมัติเพียงแค่ใส่หรือถอดหน้ากาก มีระบบที่ตรวจจับประเภทของการหายใจ และระบบ High Frow Compensation Ability ซึ่งจะเพิ่มแรงดันในกรณีที่มีลมรั่วออกมา ที่สำคัญยังมีระบบที่ใช้งานได้ปลอดภัย เพราะจะมีการแจ้งเตือนถ้าหากตัวเครื่องมีอุณภูมิสูงก็จะหยุดการใช้งานแบบอัตโนมัติให้ทันที หน้าจอ LCD แบบสีปรับความสว่างอัตโนมัติ

5. BMC RESmart G2s AUTO CPAP 

เครื่อง CPAP ชุดที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • จอ LCD ขนาด 2.4 นิ้ว
  • แรงดัน 4-20 cmH2O 
  • ระบบ Reslex ที่ผ่อนลมขณะหายใจออก
  • ติดตั้งเครื่องทำความชื้นมาในตัว
ข้อเสีย
  • ไม่มีฟีเจอร์ Ramp ที่ปรับความดันเป็นระยะ

สำหรับเครื่อง CPAP ชุดที่ดีที่สุดเราขอแนะนำของแบรนด์ BMC REsmart G2s AUTO CPAP เพราะเป็นรุ่นที่มาพร้อมอุปกรณ์ครบชุด มีการติดตั้งเครื่องทำความชื้นภายในตัวใช้งานได้สะดวกสบาย ตั้งค่าแรงดันได้ 4-20 cmH2O ใส่หน้าจอ LCD ขนาด 2.4 นิ้วเพื่อให้อ่านค่าต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจนและปรับการตั้งค่าได้ไม่ยาก ระบบการเปิดปิดใช้แบบอัตโนมัติเพียงแค่ถอดหรือใส่หน้ากากเท่านั้น ขนาดกะทัดรัดน้ำหนัก 1.5 กิโลกรัมเคลื่อนย้ายได้สะดวกสบาย 

นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อต่อมผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือเพื่อที่จะดูข้อมูลย้อนหลังได้อีกด้วย ฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์มาไว้จำนวนมาก เช่น ระบบ Reslex ที่ช่วยผ่อนลมขณะหายใจออก แผงควบคุมมีทั้งหมด 3 ปุ่มทำความเข้าใจได้ไม่ยาก ความดังของเสียงขณะทำงานอยู่ที่ 28 เดซิเบลไม่รบกวนการนอนหลับ มีระบบแจ้งเตือนในกรณีที่หน้ากากหลุดหรือไฟดับ มาพร้อมกับฟีเจอร์กรองฝุ่นใช้งานได้อย่างปลอดภัย

คู่มือการซื้อ เครื่อง CPAP

คู่มือการซื้อ เครื่อง CPAP

เครื่อง CPAP คืออะไร?

CPAP ย่อมาจากคำว่า Continuous Positive Airway Pressure หรือการคือเครื่องที่ช่วยรักษาภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจขณะหลับหรือผู้ที่นอนกรน โดยเหมาะกับผู้ที่มีอาการในระดับปานกลางไปจนถึงระดับที่รุนแรง ในตอนนี้จะมี เครื่อง cpap หลากหลายแบบเลยทีเดียว ซึ่งส่วนใหญ่จะมีส่วนประกอบของตัวเครื่องเหมือนกันก็คือ มีส่วนของตัวเครื่องสร้างความดันลม ส่วนของหน้ากากและสายรัด ส่วนของท่อลม และส่วนอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เช่น เครื่องทำความชื้น 

CPAP เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับมาตรฐานและได้รับการยอมรับระดับโลกเลยทีเดียว บางคนจะเรียกว่าเป็น เครื่องอัดอากาศขณะหายใจเข้า เครื่องช่วยนอนกรน หรือเครื่องอัดอากาศแรงดันบวก ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นเครื่อง CPAP ทั้งนั้น ซึ่งเครื่องนี้ช่วยลดความอันตรายจากภาวะการหยุดหายใจในขณะหลับได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว 

เครื่อง CPAP ทำงานอย่างไร?

หลักการทำงานของเครื่อง CPAP ก็คือ การที่เครื่องจะดูดอากาศจากด้านนอกเข้าไปผ่านแผ่นกรองฝุ่น หลังจากนั้นจะทำการผลิตแรงดันอากาศส่งต่อผ่านท่อลมเพื่อที่จะเข้าไปทางที่ครอบจมูกซึ่งจะส่งตรงเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของผู้ใช้งาน ซึ่งถ้าใครศึกษาเกี่ยวกับกลไกลในการเกิดอาการนอนกรนจะพอรู้ว่าสาเหตุหลักมาจากการที่ช่องทางเดินหายใจตีบแคบลง

จากสาเหตุนี้จึงทำให้กล้ามเนื้อในบริเวณนั้นเกิดการสั่นสะเทือนและทำให้นอนกรนนั้นเอง และจากอาการนี้ก็ทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้ ดังนั้นตัวเครื่อง CPAP ก็จะเป็นตัวช่วยที่ทำให้แรงดันลมไปขยายช่องทางเดินหายใจให้เปิดกว้าง เรียกว่าเป็นเครื่องที่แก้ไขที่ต้นเหตุหลักของอาการเลย 

การใช้เครื่อง CPAP มีประโยชน์อย่างไร?

ประโยชน์ของการใช้เครื่อง CPAP ก็คือ ช่วยรักษาภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจซึ่งเกิดขึ้นในขณะหลับได้ โดยเป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพในการรักษาระดับปานกลางไปจนถึงรุนแรงเลยทีเดียว ซึ่งการใช้งานเครื่อง CPAP จะส่งผลดีต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาวเลย สำหรับผลดีในระยะสั้นก็คือ ไม่มีอาการนอนกรน นอนหลับได้ดีมากยิ่งขึ้น ทำให้ไม่เกิดอาการง่วงในตอนกลางวันและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับผลดีของการใช้เครื่อง CPAP ในระยะยาวก็คือ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ที่อาจมีสาเหตุมาจากภาวะหยุดหายใจในขณะหลับ เช่น ความดันโลหิตสูง หรือ โรคหัวใจ ถ้าหากเราดูแลรักษาเป็นอย่างดีร่วมกับการติดตามผลกับแพทย์ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้ค่อนข้างมาก

วิธีเลือกเครื่อง CPAP ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ 

ราคาและขนาด

เรื่องของงบประมาณก็เป็นสิ่งที่สำคัญในการเลือกซื้อ CPAP เพราะเป็นเครื่องที่มูลค่าค่อนข้างสูงเลยทีเดียว แต่สิ่งที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจก็เป็นสิ่งที่เราควรที่จะลงทุน แต่ถ้าหากมีงบประมาณที่จำกัดก็คือจะเลือกซื้อเครื่องแบบ Manual CPAP ซึ่งมีความดันแบบคงที่ โดยจะเป็นตัวที่ราคาไม่สูงจนเกินไป แต่ถ้าหากมีงบประมาณที่ค่อนข้างมากอาจไปเลือกซื้อเป็น Auto CPAP มาใช้ก็ได้ 

อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญก็คือขนาด เพราะในปัจจุบัน CPAP ก็มีขนาดตัวเครื่องให้เลือกได้หลากหลายเริ่มต้นตั้งแต่ไซด์พกพาที่เหมาะสำหรับการเดินทางมาพร้อมกับน้ำหนักที่ไม่ถึง 1 กิโลกรัมเหมาะกับคนที่อยากซื้อเอาไว้ใช้นอกสถานที่ หรือเคลื่อนย้ายไปใช้ที่อื่นได้ง่าย นอกจากนี้ขนาดในการซื้อควรวัดจากพื้นที่ที่เรามีด้วย ไม่ควรใหญ่จนเกินไป 

ระดับเสียง

ระดับเสียงระหว่างการทำงานของตัวเครื่องเป็นสิ่งที่อาจจะสร้างความรบกวนในการนอนหลับให้กับผู้ใช้งานหรือผู้ที่นอนข้าง ๆ ได้ เพราะถ้าเป็นคนที่ชอบความสงบในการนอนก็ควรเลือกซื้อเครื่อง CPAP ที่มีเดซิเบลของเสียงขณะทำงานที่ต่ำ ถ้าให้ดีไม่ควรสูงกว่า 25 เดซิเบล แต่โดยส่วนใหญ่เครื่อง CPAP ในปัจจุบันก็จะมีเสียงค่อนข้างเงียบอยู่แล้ว ดังนั้นก็จะขึ้นอยู่กับว่าเราอยากจะให้เสียงในการทำงานเงียบขนาดไหน แต่ถ้าเป็นเครื่องที่มีเสียงไม่ดังมากก็อาจจะมีราคาที่แตกต่างกับเครื่องปกติด้วย 

ช่องความดันและการตั้งค่าทางลาด

เครื่อง CPAP ในตอนนี้จะมีช่องความดันทั้งหมด 2 แบบ คือ แบบที่ปรับแรงดันอัตโนมัติหรือที่เราเรียกกันว่าเป็น Auto CPAP ซึ่งจะมีราคาที่สูงกว่าอีกแบบหนึ่ง แต่เป็นรุ่นที่ค่อนข้างมีความอัจฉริยะสามารถปรับแรงดันให้เหมาะสมกับช่วงเวลาต่าง ๆ ได้ เช่น ช่วงการนอนหลับในระยะแรกก็ปล่อยแรงดันที่เบาเพื่อให้นอนหลับได้สบาย พอถึงภาวะหลับสนิทก็จะปรับระดับของแรงดัน 

อีกหนึ่งรูปแบบคือ เครื่อง CPAP แบบแรงดันคงที่ หรือที่เรียกว่าเป็น Manual CPAP ซึ่งตัวนี้จะมีแรงดันคงที่ตลอดการใช้งาน เหมาะกับผู้ที่ทดสอบ Sleep test แล้วผลว่าต้องใช้แรงดันที่ไม่สูงมากในการรักษา โดยจะเป็นตัวที่มีราคาต่ำกว่าแบบ Auto CPAP  

การติดตามข้อมูลและคุณสมบัติอัจฉริยะ 

การติดตามข้อมูลจะสามารถดูได้จากจอแสดงผล LED และบางรุ่นเราสามารถตรวจสอบค่าย้อนหลังได้ผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถืออีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีฟีเจอร์อัจฉริยะอีกมากมาย เช่น การที่สามารถควบคุมการทำงานของตัวเครื่องในระยะไกลผ่านมือถือได้ หรือว่าฟีเจอร์ที่มีการแจ้งเตือนไฟดับหรือการแจ้งเตือนในกรณีที่หน้ากากหลุดขณะหลับ ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ที่เพิ่มเข้ามาก็จะมีราคาที่สูงกว่าเครื่องปกติ 

เครื่อง CPAP คืออะไร?

คำถามและคำตอบ

มีทางเลือกอื่นสำหรับเครื่อง CPAP หรือไม่?

ถ้าหากกำลังหามองหาเครื่องที่ช่วยรักษาภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจขณะหลับนอกจากเครื่อง CPAP แล้วก็มีอีกเครื่องที่เรียกว่า BiPAP ซึ่งระบบการทำงานจะคล้ายคลังกัน เพียงแค่ระดับความดันแตกต่างกันและราคาของเครื่อง BiPAP จะค่อนข้างสูงกว่า สำหรับเครื่อง CPAP จะเป็นความดันคงที่ระดับเดียวเหมาะกับคนที่นอนกรนในขั้นที่ไม่รุนแรง แต่ถ้าเป็น BiPAP เป็นแรงดันแบบ 2 ระดับ เหมาะสำหรับคนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับในกลุ่มที่มีอาการรุนแรง 

ทำไมเครื่อง CPAP ของฉันจึงจำเป็นต้องทำความสะอาด?

สาเหตุที่ต้องทำความสะอาดเครื่อง CPAP ก็เพราะว่าระบบการทำงานของเครื่อง CPAP ก็คือการส่งแรงดันอากาศเข้ามาในจมูกของเรา ดังนั้นถ้าหากตัวท่อมีสิ่งสกปรกหรือสิ่งแปลกปลอมและเราไม่ได้ทำความสะอาดก่อนใช้ก็อาจทำให้ลมที่เข้าไปในปอดของเราไม่สะอาด ดังนั้นการทำความสะอาดเครื่อง CPAP อย่างสม่ำเสมอจึงเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก โดยที่ต้องทำความสะอาดอุปกรณ์ทุกชิ้นแต่ห้ามนำไปตากแดดเด็ดขาด

Photo of author

Ratanaporn

รัตนาภรณ์เป็นคนรักสัตว์เลี้ยงที่เติบโตขึ้นมาในฟาร์มพ่อแม่ของเธอในภาคเหนือของประเทศไทย ปัจจุบันเธออาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ และเขียนรีวิวผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง รัตนาภรณ์ประสบความสำเร็จในธุรกิจดูแลสุนัขด้วยความรักสัตว์