ฉะนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมหลายคนจึงนิยมดื่มด่ำรสกาแฟแท้ ๆ จากที่ชงกาแฟแบบ French Press แล้วซื้อติดบ้าน ติดออฟฟิศไว้กันอย่างล้นหลาม แต่สำหรับมือใหม่หัดชงคนไหนยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกซื้อที่ชงกาแฟแบบ French Press ยี่ห้อไหนดีให้ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด วันนี้เราก็ได้รวบรวมที่ชงกาแฟแบบ French Press รุ่นแนะนำพร้อมด้วยหลักการซื้อง่าย ๆ มาฝากแล้ว ตามมาอ่านกันได้เลย
French Press ดีที่สุดในปี 2022
ตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเรา
1. โดยรวมที่ดีที่สุด: Bodum Chambord Lazada/Shopee
2. คุ้มค่าที่ดีที่สุด: La Cafetiere Roma Stainless Steel Lazada/Shopee
3. ทนทานที่สุด: Bodum KENYA French Press Lazada/Shopee
4. มีสไตล์ที่ดีที่สุด: Bialetti French Press Lazada/Shopee
5. ดีที่สุดสำหรับการเดินทาง: Bodum Travel Press Lazada/Shopee
6. การออกแบบสแตนเลสที่ดีที่สุด: Lapin French Press Lazada/Shopee
7. ดีที่สุดสำหรับแค้มป์ปิ้ง: Soulhand Portable Set Lazada/Shopee
1. โดยรวมที่ดีที่สุด
Bodum Chambord
ข้อดี
ข้อข้อเสีย
Bodum เป็นแบรนด์เครื่องครัวสัญชาติเดนมาร์กที่ได้ผลิตเครื่องชงกาแฟแบบ French Press ซึ่งได้รับความนิยมมาหลายทศวรรษ ด้วยดีไซน์ที่คลาสสิก ขณะเดียวกันก็คัดสรรวัสดุคุณภาพเยี่ยมในการผลิตหม้อต้มกาแฟให้เป็นที่รักของคอกาแฟทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นตัวโถกาแฟที่ทำจากแก้ว borosilicate น้ำหนักเบา ทนความร้อนได้ดี ทำความสะอาดง่าย ไม่เป็นคราบหลังใช้งาน แถมไม่ทำให้รสชาติที่แท้จริงของกาแฟเสีย และใช้งานสะดวกสบายด้วยด้ามจับพลาสติก
มากไปกว่านั้นลูกสูบ ฝา ตัวที่ชงกาแฟตัวนี้ก็ยังทำจากสเตนเลสสตีลคุณภาพเยี่ยมที่มีความทนทานและเป็นสีเงินแวววาวเพิ่มความหรูหราอีกด้วย ขอบอกเลยว่าเหมาะที่จะนำมาใช้งานและประดับตกแต่งห้องครัวหรือบ้านเรือนตามห้องต่าง ๆ ให้ดูดีมีสไตล์ได้เลยทีเดียว
ส่วนเรื่องการใช้งานนั้นก็มีหลายคนรีวิวว่าที่ชงกาแฟ French Press Bodum CHAMBORD นี้ช่วยมอบรสชาติกาแฟที่เข้มข้นสม่ำเสมอ ไม่ค่อยมีเศษหรือกากกาแฟหลุดร่วงออกมา แถมยังเหมาะสำหรับมือใหม่หัดชงกาแฟด้วย French Press เป็นอย่างมากอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นที่ชงกาแฟ French Press ที่มีภาพรวมน่าสนใจมากที่สุดตัวหนึ่งเลยล่ะ
2. คุ้มค่าที่ดีที่สุด
La Cafetiere Roma Stainless Steel
ข้อดี
ข้อข้อเสีย
หากคุณกำลังมองหาที่ชงกาแฟแบบ French Press ราคาย่อมเยาเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋าสตางค์อยู่ล่ะก็ เราขอแนะนำที่ SoulHand French Press ที่มาพร้อมกับดีไซน์โมเดิร์นเรียบหรู คัดสรรวัสดุในการผลิตที่ชงกาแฟคุณภาพเยี่ยมและมีสไตล์ในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นตัวโถกาแฟที่ทำจากแก้วโบโรซิลิเกตที่มีความแข็งแรงและทนทานความร้อนสูง ฝาปิดทำจากซิลิโคน Food Grade คุณภาพเยี่ยมลดการรั่วไหลของของเหลวในโถกาแฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกันก้านสูบของที่ชงกาแฟ SoulHand French Press ตัวนี้ก็ทำจากสเตนเลสสตีลที่จะช่วยให้การชงกาแฟของคุณมีความสมูธมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วยตัวกรองกากกาแฟที่ถูกออกแบบให้มีความละเอียดสูง ลดการร่วงหล่นของกากกาแฟได้มากถึง 99.99% เลยทีเดียว แถมจะช่วยให้คุณได้สัมผัสกับความหอมกรุ่นเข้มข้นของกาแฟได้อย่างเต็มที่อีกด้วย
นอกจากจะทำมาชงกาแฟให้ได้รสชาติที่เข้มข้นถึงใจแล้ว ที่ชงกาแฟแบบ French Press ตัวนี้ยังสามารถนำมาชงชาร้อน ๆ จิบระหว่างวันเพิ่มความผ่อนคลายอีกด้วย เรียกได้ว่า SoulHand French Press นี้เป็นที่ชงกาแฟที่คุ้มค่าคุ้มราคาไม่น้อยเลยทีเดียว
3. ทนทานที่สุด
Bodum KENYA French Press
ข้อดี
ข้อข้อเสีย
ถ้าถามว่าที่ชงกาแฟแบบ French Press ยี่ห้อไหนดี ยี่ห้อไหนทน เราก็ต้องขอยกให้ Bodum เท่านั้น! โดยเฉพาะรุ่น KENYA French Press ที่มาพร้อมรูปทรงเท่เร้าใจด้วยโถกาแฟที่ทำมาจากแก้วโบโรซิลิเกตทนความร้อนได้สูงผนวกกับความแข็งแรงของกรอบโถกาแฟผลิตจากสเตนเลสสตีลคุณภาพเยี่ยมขึ้นชื่อในเรื่องของความทนทานขึ้นกรอบตั้งแต่ตัวโถไปจนถึงก้นโถเลยทีเดียว
นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรงทนทานแล้ว Bodum KENYA French Press ก็ยังเป็นที่ชงกาแฟที่ค่อนข้างใหญ่ มีความจุปริมาณ 34 ออนซ์ สามารถรังสรรค์กาแฟแก้วโปรดให้คนที่คุณรักได้มากถึง 8 แก้วเลยล่ะ ขณะเดียวกันก็ไม่ทำให้กาแฟเสียรสชาติ ได้กลิ่นหอม รสชาติเข้มข้นเต็มที่จากเมล็ดกาแฟแท้ ๆ ด้วยแผ่นกรอง 3 ชั้น พร้อมกับลูกสูบที่มีความลื่นไหลขณะชง
ส่วนใครที่กังวลว่าที่ชงกาแฟนี้มีขนาดใหญ่แล้วจะทำความสะอาด ก็ขอบอกเลยว่าหมดกังวลได้เลย เพราะสามารถถอดล้างทำความสะอาดได้สะดวกสบาย แถมยังสามารถใช้ล้างในเครื่องล้างจานได้อีกด้วยนะ หากคุณกำลังมองหาที่ชงกาแฟที่มีความทนทาน ใช้ได้ในระยะยาวแบบไม่ต้องกลัวสึกหรอ ก็ห้ามพลาด Bodum KENYA French Press ตัวนี้เด็ดขาด!
4. มีสไตล์ที่ดีที่สุด
Bialetti French Press
ข้อดี
ข้อข้อเสีย
เมื่อไหร่ที่พูดถึงแบรนด์ Bialetti เชื่อว่าหลายคนน่าจะนึกถึง Moka Pot หรือหม้อต้มกาแฟขนาดกะทัดรัดที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์นี้อย่างแน่นอน แต่รู้หรือไม่? ว่าทางแบรนด์ Bialetti เขาก็มีที่ชงกาแฟแบบ French Press ออกมาวางจำหน่ายเช่นกัน แถมยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียบหรูมีสไตล์สุด ๆ เลยล่ะ
ส่วนเรื่องคุณภาพในการเนรมิตกาแฟแก้วโปรดนั้นก็คงรสชาติแท้ของเมล็ดกาแฟไว้ได้อย่างครบถ้วน มอบกลิ่นหอม รสชาติเข้มข้นไม่แพ้กับชงใน Moka Pot เลยล่ะ ด้วยตัวกรอง 3 ชั้นและลูกสูบที่เคลื่อนไหวคลื่นลงได้อย่างลื่นไหล กลั่นกลิ่นอโรม่าของเมล็ดกาแฟออกมาได้เต็มที่
ตัวโถกาแฟก็ทนความร้อนได้ดีเยี่ยมเพราะทำจากแก้วโบโรซิลิเกตอย่างดี ตีกรอบเพิ่มความดูดีมีสไตล์ด้วยสเตนเลสสตีลพร้อมด้วยสิ่งที่ทำให้มองแวบเดียวก็รู้ว่านี่แหละเป็นสินค้าของ Bialetti ก็คือลุงหนวด l’Omino ที่ถูกสลักมาบริเวณด้านหน้าที่ชงกาแฟนั่นเอง เรียกได้ว่า Bialetti French Press นั้นไม่เพียงแต่จะช่วยรังสรรค์กาแฟแก้วโปรดได้แล้ว ยังเป็นที่ชงกาแฟแบบ French Press ที่มีดีไซน์เรียบหรูเหมาะแก่การนำมาประดับตกแต่งบ้านเรือนได้ดีเลยทีเดียว
5. ดีที่สุดสำหรับการเดินทาง
Bodum Travel Press
ข้อดี
ข้อข้อเสีย
ที่ชงกาแฟแบบ French Press อีกหนึ่งรุ่นจาก Bodum ที่ได้รับความนิยมจากคอกาแฟทั้งหลายอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะคอกาแฟที่ชื่นชอบการชงกาแฟทุกที่ทุกเวลา ขอแนะนำ Bodum Travel Press ที่จะช่วยให้การชงกาแฟเป็นเรื่องง่าย ๆ และสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะขึ้นรถไปทำงาน เดินทางไปต่างจังหวัด หรือระหว่างทางไปแคมป์ปิ้ง เจ้า Bodum Travel Press ตัวนี้ก็พร้อมตอบโจทย์การชงกาแฟนอกสถานที่ให้คุณได้ทุกเมื่อ
ซึ่งตัวกระบอกนั้นมีน้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด ผลิตจากสเตนเลสสตีลคุณภาพเยี่ยม 2 ชั้น ช่วยกักเก็บความร้อนและรักษาคุณภาพความหอมกรุ่นและรสชาติเข้มข้นของกาแฟไว้ได้อย่างยาวนานเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว พร้อมด้วยซิลิโคนหุ้มรอบแก้วป้องกันความร้อน ช่วยให้ถือจับสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ฝาปิดก็มีความแน่นป้องกันการรั่วไหลได้ดีเยี่ยมเช่นกัน
ฉะนั้นแล้วใครที่ชื่นชอบการดื่มด่ำกาแฟแก้วโปรดขณะเดินทางหรือระหว่างทำกิจกรรม Outdoor ที่ชงกาแฟแบบ French Press จาก Bodum ตัวนี้ก็ถือเป็นเพื่อนซี้ร่วมทางที่น่าลงทุนซื้อไว้ข้างกายไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งดีไซน์ที่มีความเรียบง่าย ขนาดกะทัดรัดพกพาสะดวก และยังสามารถกักเก็บความร้อนให้กาแฟไม่เสียรสชาติได้อย่างยาวนานอีกด้วย
6. การออกแบบสแตนเลสที่ดีที่สุด
Lapin French Press
ข้อดี
ข้อข้อเสีย
ขึ้นชื่อว่าเป็นที่ชงกาแฟแบบ French Press ภาพที่ชงกาแฟสีเงินแวววาวทำจากสเตนเลสก็น่าจะแวบเข้ามาในหัวของใครหลาย ๆ คน แถมยังพาให้กังวลใจลึก ๆ อีกด้วยว่าใช้ไปนาน ๆ เข้าที่ชงกาแฟเหล่านั้นจะมีคราบเปื้อน หรือสนิมเกรอะกรังมากน้อยแค่ไหน แต่ปัญหาและความกังวลเหล่านั้นจะหมดไปถ้าคุณได้ลองใช้ Lapin French Press
Lapin French Press ที่ชงกาแฟแบบ French Press ที่ทำจากสเตนเลสสตีลเกรด 304 คุณภาพเยี่ยม ป้องกันการเกิดสนิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็ใช้ขึ้นรูปโถกาแฟแบบสองชั้นมีความแข็งแรงทนทาน ช่วยป้องกันความร้อน ลดอุบัติเหตุขณะการใช้งาน และสามารถกักเก็บความร้อนได้อย่างยาวนาน
ส่วนประสิทธิภาพในการชงกาแฟนั้นก็อยู่ในระดับที่ค่อนข้างดี ไม่ทำให้กาแฟเสียรสชาติมากนัก ด้วยตัวกรองที่ค่อนข้างมีความถี่ดักจับกากกาแฟไม่ให้ร่วงหล่นได้ดีเยี่ยม และนอกจากจะทำจากวัสดุคุณภาพเยี่ยมหมดกังวลเรื่องสนิทเกรอะกรังแล้ว ที่ชงกาแฟแบบ French Press จาก Lapin ตัวนี้ยังสามารถถอดล้างทำความสะอาดได้สะดวกสบายอีกด้วย
7. ดีที่สุดสำหรับแค้มป์ปิ้ง
Soulhand Portable Coffee Grinder Set
ข้อดี
ข้อข้อเสีย
ขอแนะนำ Soulhand Portable Coffee Grinder Set สุดยอดที่ชงกาแฟแบบ French Press แห่งยุคที่มาพร้อมกับเครื่องวัดอุณหภูมิหรือเทอร์โมมิเตอร์ด้านบนตัวที่ชง มอบประสบการณ์การชงกาแฟที่เหนือชั้นกว่าที่ชงกาแฟรูปแบบไหน ๆ ขณะเดียวกันก็ช่วยเนรมิตกาแฟรสชาติเข้มข้น หอมกรุ่นกลิ่นกาแฟแท้ ๆ ด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่คัดสรรมาเพื่อคอกาแฟโดยเฉพาะ
ตัวที่ชงกาแฟทำจากสเตนเลสสตีลเกรด 18/8 มั่นใจได้เลยว่าไม่ก่อให้เกิดสนิมอย่างแน่นอน ที่สำคัญมีการออกแบบผนัง 2 ชั้น ช่วยให้กักเก็บความร้อนและรสชาติของกาแฟให้มีความคงที่อย่างยาวนาน ด้านบนกระบอกลูกสูบก็มีการติดตั้งเทอร์โมมิเตอร์เพื่อให้คุณดูว่าน้ำที่อยู่ในโถชงกาแฟนั้นอยู่ที่เท่าไหร่
อีกทั้งที่กรองกาแฟภายในโถก็ถูกออกแบบอย่างประณีต ด้วยลักษณะซิกแซกที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกรองกากกาแฟได้มากยิ่งขึ้น แถมยังมีมาด้วยกัน 2 ชั้น มั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้ดื่มกาแฟที่ปราศจากกากกาแฟกวนใจอย่างแน่นอน ที่จับโถกาแฟดก็ยังมีการออกแบบตามสรีศาสตร์ช่วยให้ผู้ใช้งานหยิบจับสะดวกสบายมากกว่าเดิม
คู่มือการซื้อ French Press
ทีนี้ก็ได้ทำความรู้จักกับที่ชงกาแฟแบบ French Press กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่ายี่ห้อไหนดี ยี่ห้อไหนเด่น หรือมีคุณสมบัติน่าสนใจ พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของเราได้มากน้อยแค่ไหน แต่สำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจที่ชงกาแฟแบบ French Press ยี่ห้อนั้นมีคุณสมบัติโดนใจจริง ๆ หรือไม่ เราก็ได้รวบรวมเอาคู่มือการซื้อที่ชงกาแฟแบบ French Press มาให้ทุกคนได้ลองศึกษาควบคู่เพื่อให้การตัดสินใจง่ายขึ้นอีกด้วย
เลือกจากวัสดุที่ใช้ผลิต
สเตนเลสสตีล VS แก้ว
ปกติแล้วที่ชงกาแฟแบบ French Press จะผลิตจากวัสดุ 2 ชนิด คือ สเตนเลสสตีลและแก้วโบโรซิลิเกต ซึ่งวัสดุแต่ละประเภทนั้นก็มีข้อดีข้อเสียและวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เช่น ถ้าคุณต้องการเน้นดีไซน์ ภาพลักษณ์ที่ชงกาแฟแบบ French Press ที่เป็นตัวแก้วโบโรซิลิเกตก็ค่อนข้างตอบโจทย์เลยทีเดียว แถมยังสามารถทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย แต่เมื่อไหร่ที่ขึ้นว่าเป็นที่ชงกาแฟที่ทำจากแก้ว ก็มีโอกาสที่ทำให้เกิดการแตกหักหรือพังง่าย ฉะนั้นที่ชงกาแฟบางยี่ห้อ บางรุ่นจึงมีการออกแบบที่มาพร้อมกับกรอบสเตนเลสเพื่อยกระดับการป้องกันการแตกหักของตัวโถกาแฟ เช่น Bodum CHAMBORD French Press
แต่ถ้าคุณต้องการให้กาแฟแก้วโปรดไม่เสียรสชาติหรือความร้อนใด ๆ ที่ชงกาแฟแบบ French Press ทำจากสเตนเลสสตีลก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว และยิ่งถ้าเป็นที่ชงกาแฟแบบ French Press ที่ทำจากสเตนเลสสตีลความหนาสองชั้น หรือโครเมียม 18/8 หรือ 18/10 อย่าง Lapin French Press ก็รับรองว่าจะช่วยให้กาแฟของคุณคงรสชาติและความร้อนได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น และยังมีความทนทานสูง ใช้งานได้ยาวนาน แถมยังไม่ต้องกังวลว่าโถกาแฟจะมีสนิมเกาะอีกด้วย
ดีไซน์และความสะดวกในการใช้งาน
แม้ว่าที่ชงกาแฟแบบ French Press จะมีดีไซน์ที่ค่อนข้างเรียบง่ายดูเหมือนไม่มีลูกเล่นอะไรมากเท่าเครื่องชงกาแฟรูปแบบอื่น ๆ แต่ที่ชงกาแฟแบบ French Press บางยี่ห้อนั้นก็มาพร้อมกับดีไซน์ที่มีความเรียบหรูคลาสสิกไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าที่ชงกาแฟแบบ French Press รุ่นนั้น ๆ จะทำจากสเตนเลสสตีลก็ดี หรือทำจากแก้วโบโรซิลิเกตก็ดี อย่างถ้าคุณชื่นชอบที่ชงกาแฟที่มีความเรียบหรูคลาสสิก Bodum CHAMBORD French Press ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์คุณได้ดีเยี่ยม หรือถ้าอยากได้ความโมเดิร์นมีสไตล์มินิมอลขึ้นมาอีกนิด ก็อาจเลือกซื้อเป็น SouldHand French Press ก็ได้ เป็นต้น
และนอกจากจะเลือกซื้อที่ชงกาแฟแบบ French Press ที่มีดีไซน์สวยหรูโดนใจแล้ว ความสะดวกในการใช้งานก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึงเช่นกัน โดยเฉพาะด้ามจับโถกาแฟที่ควรทำจากวัสดุคุณภาพเยี่ยมถือหรือจับแล้วไม่หลุดมือง่าย ๆ ขณะเดียวกันตัววัสดุโถกาแฟก็ควรทนความร้อนได้สูง ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งานด้วย หากคุณต้องการปรับแต่งรสชาติกาแฟของคุณอ่านบทวิจารณ์ของเราเกี่ยวกับเครื่องชงกาแฟอิตาลีที่ดีที่สุด
คำนึงถึงความสามารถของตัวกรอง
เพราะการชงกาแฟแบบ French Press นั้นเป็นการนำกากกาแฟเทลงไปในโถกาแฟ แล้วจึงค่อย ๆ ใช้แรงกดจากลูกสูบที่มีแผ่นกรองดักเก็บกากกาแฟขึ้นมา และได้รสชาติกาแฟและได้กลิ่นอโรม่าของเมล็ดกาแฟที่แท้จริงออกมาในที่สุด ฉะนั้นแผ่นกรองหรือตัวกรองที่ติดมานั้นจึงถือเป็นตัวแปรสำคัญมากเวลาชงกาแฟแบบ French Press หากตัวกรองมีความถี่น้อยเกินไป หรือมีรูที่ใหญ่ ก็อาจทำให้กากกาแฟหรือเศษกาแฟร่วงหล่นลงมาในน้ำกาแฟ และทำให้กาแฟแก้วโปรดของคุณเสียรสชาติในทันที
ฉะนั้นเวลาเลือกซื้อที่ชงกาแฟแบบ French Press จึงต้องตรวจสอบลักษณะของตัวกรองให้ดี ๆ ว่ามีความถี่มากน้อยแค่ไหน หรือมีตัวกรองกี่ชั้น เพียงพอต่อการกักเก็บกากกาแฟขึ้นมากพอหรือไม่ อย่างเช่น Soulhand Steel French Press ที่มาพร้อมกับตัวกรองตาข่ายที่มีความถี่สูงมากถึง 2 ชั้น รับประกันว่าช่วยกรองกากกาแฟไม่ให้ร่วงหล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้นการเลือกขนาดกาแฟที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเมื่อใช้ French Press อ่านรีวิวเครื่องบดกาแฟที่ดีที่สุดสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
เลือกซื้อขนาดให้เหมาะสมแก่การใช้งาน
ที่ชงกาแฟแบบ French Press นั้นมีมากมายหลายขนาดให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นขนาดบรรจุ 12 ออนซ์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่คนเดียวหรือต้องการเสิร์ฟกาแฟประมาณ 1-2 แก้ว ขนาด 15 ออนซ์ ที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก ดื่มกาแฟแก้วโปรดได้ตลอดวัน อย่างเช่น Bodum Travel Press หรือจะใหญ่ยักษ์เหมาะสำหรับการเสิร์ฟผู้คนในจำนวนมาก อาจจะซื้อติดบ้านที่มีครอบครัวขนาดกลาง หรือออฟฟิศขนาดย่อมให้เพื่อนร่วมงานได้ร่วมวงดื่มกาแฟอย่างขนาดบรรจุ 34 ออนซ์ เป็นต้น
สำหรับใครที่คิดว่าซื้อขนาดบรรจุใหญ่ ๆ ไปเลยดีที่สุดนั้น เราขอเตือนไว้ก่อนว่าไม่เสมอไปค่ะ เพราะยิ่งใช้ที่ชงกาแฟแบบ French Press ใหญ่เมื่อไหร่ ก็อาจทำให้กาแฟเสียรสชาติมากยิ่งขึ้นเท่านั้น เนื่องจากจะต้องใช้เมล็ดกาแฟและปริมาณน้ำค่อนข้างเยอะนั่นเอง ดังนั้นแล้วเวลาเลือกซื้อที่ชงกาแฟแบบ French Press ก็อย่าลืมคำนึงถึงขนาดที่เหมาะสมแก่การใช้งานร่วมด้วยนะถ้าคุณชอบที่จะรู้ว่าคุณจะดื่มกาแฟมากแค่ไหน เครื่องชงกาแฟแคปซูลน่าจะเหมาะกว่า
เลือกที่ชงกาแฟที่ทำความสะอาดง่าย
แม้ว่าที่ชงกาแฟแบบ French Press จะดูเหมือนทำความสะอาดง่ายเพราะมีองค์ประกอบเพียงไม่กี่ส่วน หลัก ๆ ก็มีแค่โถกาแฟและลูกสูบเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วที่ชงกาแฟแบบ French Press บางยี่ห้อบางรุ่นก็กลับทำความสะอาดยาก และง่ายต่อการทิ้งคราบ สนิม กลิ่นไม่พึงประสงค์จนทำให้กาแฟแก้วโปรดของคุณเสียรสชาติ โดยเฉพาะที่ชงกาแฟแบบ French Press ที่ไม่สามารถถอดตัวกรอง หรือชิ้นส่วนบางชิ้นออกมาทำความสะอาดได้
ฉะนั้นเวลาเลือกซื้อที่ชงกาแฟแบบ French Press ก็จำเป็นต้องศึกษาดูส่วนประกอบของที่ชงกาแฟสักหน่อยว่ามีส่วนไหนสามารถถอดล้างทำความสะอาดได้บ้าง ขณะเดียวกันที่ชงกาแฟแบบ French Press บางยี่ห้อบางรุ่นก็สามารถนำเข้าเครื่องล้างจานได้เช่นกัน อย่าง ที่ชงกาแฟแบบ French Press จาก Bodum รุ่น KENYA หรือจะเป็น Soulhand Steel French Press ที่ไม่เพียงแต่จะมีรูปลักษณ์หรูหราแล้ว ยังตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการที่ชงกาแฟทำความสะอาดง่ายอีกด้วย เนื่องจากสามารถถอดตัวกรองแต่ละชิ้นแยกออกจากกันได้ เป็นต้น
ก็จบกันไปเรียบร้อยแล้วกับการทำความรู้จักที่ชงกาแฟแบบ French Press แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นที่เราคัดมาฝากกันแบบเน้น ๆ ถึง 7 แบบ 7 สไตล์กันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นที่ชงกาแฟที่เหมาะสำหรับทุก ๆ คนอย่าง Bodum CHAMBORD French Press หรือจะเป็นที่ชงกาแฟที่พร้อมตอบโจทย์ความต้องการด้านดีไซน์อย่าง Bialetti French Press รวมถึงที่ชงกาแฟแบบ French Press สำหรับมือโปรคอกาแฟรุ่นเก๋าอย่าง SoulHand Steel French Press ที่มาพร้อมกับเทอร์โมมิเตอร์สุดเท่ช่วยควบคุมอุณหภูมิน้ำ รังสรรค์กาแฟแก้วโปรดของคุณให้ถูกปากมากยิ่งขึ้น เป็นต้น
ซึ่งนอกจากจะเลือกที่ชงกาแฟจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ หรือมีรูปลักษณ์ที่น่าสนใจ ราคาที่เป็นมิตรแล้ว เวลาเลือกซื้อที่ชงกาแฟแบบ French Press ก็ควรคำนึงถึงวัสดุอุปกรณ์ในการผลิต ความสามารถในการกรองกากกาแฟ ขนาดที่เหมาะสม รวมถึงพิจารณาว่าที่ชงกาแฟที่เราเลือกนั้นง่ายต่อการทำความสะอาดหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดการเสียรสชาติกาแฟในการชงครั้งถัด ๆ ไป