French Press ยี่ห้อไหนดี 2022

ฉะนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมหลายคนจึงนิยมดื่มด่ำรสกาแฟแท้ ๆ จากที่ชงกาแฟแบบ French Press แล้วซื้อติดบ้าน ติดออฟฟิศไว้กันอย่างล้นหลาม แต่สำหรับมือใหม่หัดชงคนไหนยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกซื้อที่ชงกาแฟแบบ French Press ยี่ห้อไหนดีให้ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด วันนี้เราก็ได้รวบรวมที่ชงกาแฟแบบ French Press รุ่นแนะนำพร้อมด้วยหลักการซื้อง่าย ๆ มาฝากแล้ว ตามมาอ่านกันได้เลย

French Press ดีที่สุด 2024

7 French Press 

1. โดยรวมที่ดีที่สุดBodum Chambord Lazada/Shopee
2. คุ้มค่าที่ดีที่สุด​: La Cafetiere Roma Stainless Steel​ Lazada/Shopee
3. ทนทานที่สุดBodum KENYA French Press Lazada/Shopee
4. มีสไตล์ที่ดีที่สุด: Bialetti French Press Lazada/Shopee
5. ดีที่สุดสำหรับการเดินทาง: Bodum Travel Press Lazada/Shopee
6. การออกแบบสแตนเลสที่ดีที่สุด: Lapin French Press Lazada/Shopee
7. ดีที่สุดสำหรับแค้มป์ปิ้ง: Soulhand Portable Set Lazada/Shopee

French Press ดีที่สุดในปี
2024

1. Bodum Chambord

French Pressโดยรวมที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • ทำจากแก้วบอโรซิลิเกต
ข้อเสีย
  • ไม่เหมาะกับกาแฟแบบละเอียดจนเกินไป

Bodum เป็นแบรนด์เครื่องครัวสัญชาติเดนมาร์กที่ได้ผลิตเครื่องชงกาแฟแบบ French Press ซึ่งได้รับความนิยมมาหลายทศวรรษ ด้วยดีไซน์ที่คลาสสิก ขณะเดียวกันก็คัดสรรวัสดุคุณภาพเยี่ยมในการผลิตหม้อต้มกาแฟให้เป็นที่รักของคอกาแฟทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นตัวโถกาแฟที่ทำจากแก้ว borosilicate น้ำหนักเบา ทนความร้อนได้ดี ทำความสะอาดง่าย

ไม่เป็นคราบหลังใช้งาน แถมไม่ทำให้รสชาติที่แท้จริงของกาแฟเสีย และใช้งานสะดวกสบายด้วยด้ามจับพลาสติกมากไปกว่านั้นลูกสูบ ฝา ตัวที่ชงกาแฟตัวนี้ก็ยังทำจากสเตนเลสสตีลคุณภาพเยี่ยมที่มีความทนทานและเป็นสีเงินแวววาวเพิ่มความหรูหราอีกด้วย ขอบอกเลยว่าเหมาะที่จะนำมาใช้งานและประดับตกแต่งห้องครัวหรือบ้านเรือนตามห้องต่าง ๆ

ให้ดูดีมีสไตล์ได้เลยทีเดียว ส่วนเรื่องการใช้งานนั้นก็มีหลายคนรีวิวว่าที่ชงกาแฟ French Press Bodum CHAMBORD นี้ช่วยมอบรสชาติกาแฟที่เข้มข้นสม่ำเสมอ ไม่ค่อยมีเศษหรือกากกาแฟหลุดร่วงออกมา แถมยังเหมาะสำหรับมือใหม่หัดชงกาแฟด้วย French Press เป็นอย่างมากอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นที่ชงกาแฟ French Press ที่มีภาพรวมน่าสนใจมากที่สุดตัวหนึ่งเลยล่ะ

2. La Cafetiere Roma Stainless Steel

French Pressคุ้มค่าที่ดีที่สุด​

ข้อดี
  • ตัวกดกาแฟออกแบบให้เหมาะมือ
  • ฝาปิดที่ช่วยกักเก็บความร้อน
  • ตัวกาผลิตจากแก้วโบโรซิลิเกต ทนทานต่อความร้อนและการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ
  • ตัวโครงด้านนอก ล้างและเช็ดทำความสะอาดด้วยมือเท่านั้น
  • ตัวกาที่เป็นแก้วนำไปล้างในเครื่องล้างจานได้
ข้อเสีย

หากคุณกำลังมองหาที่ชงกาแฟแบบ French Press ราคาย่อมเยาเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋าสตางค์อยู่ล่ะก็ เราขอแนะนำที่ SoulHand French Press ที่มาพร้อมกับดีไซน์โมเดิร์นเรียบหรู คัดสรรวัสดุในการผลิตที่ชงกาแฟคุณภาพเยี่ยมและมีสไตล์ในเวลาเดียวกัน

ไม่ว่าจะเป็นตัวโถกาแฟที่ทำจากแก้วโบโรซิลิเกตที่มีความแข็งแรงและทนทานความร้อนสูง ฝาปิดทำจากซิลิโคน Food Grade คุณภาพเยี่ยมลดการรั่วไหลของของเหลวในโถกาแฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก้านสูบของที่ชงกาแฟ SoulHand French Press ตัวนี้ก็ทำจากสเตนเลสสตีลที่จะช่วยให้การชงกาแฟของคุณมีความสมูธมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วยตัวกรองกากกาแฟที่ถูกออกแบบให้มีความละเอียดสูง

ลดการร่วงหล่นของกากกาแฟได้มากถึง 99.99% เลยทีเดียว แถมจะช่วยให้คุณได้สัมผัสกับความหอมกรุ่นเข้มข้นของกาแฟได้อย่างเต็มที่อีกด้วย นอกจากจะทำมาชงกาแฟให้ได้รสชาติที่เข้มข้นถึงใจแล้ว ที่ชงกาแฟแบบ French Press ตัวนี้ยังสามารถนำมาชงชาร้อน ๆ จิบระหว่างวันเพิ่มความผ่อนคลายอีกด้วย เรียกได้ว่า SoulHand French Press นี้เป็นที่ชงกาแฟที่คุ้มค่าคุ้มราคาไม่น้อยเลยทีเดียว

3. Bodum KENYA French Press

French Pressทนทานที่สุด

ข้อดี
ข้อเสีย

ถ้าถามว่าที่ชงกาแฟแบบ French Press ยี่ห้อไหนดี ยี่ห้อไหนทน เราก็ต้องขอยกให้ Bodum เท่านั้น! โดยเฉพาะรุ่น KENYA French Press ที่มาพร้อมรูปทรงเท่เร้าใจด้วยโถกาแฟที่ทำมาจากแก้วโบโรซิลิเกตทนความร้อนได้สูงผนวกกับความแข็งแรงของกรอบโถกาแฟผลิตจากสเตนเลสสตีลคุณภาพเยี่ยมขึ้นชื่อในเรื่องของความทนทานขึ้นกรอบตั้งแต่ตัวโถไปจนถึงก้นโถเลยทีเดียว 

นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรงทนทานแล้ว Bodum KENYA French Press ก็ยังเป็นที่ชงกาแฟที่ค่อนข้างใหญ่ มีความจุปริมาณ 34 ออนซ์ สามารถรังสรรค์กาแฟแก้วโปรดให้คนที่คุณรักได้มากถึง 8 แก้วเลยล่ะ ขณะเดียวกันก็ไม่ทำให้กาแฟเสียรสชาติ ได้กลิ่นหอม รสชาติเข้มข้นเต็มที่จากเมล็ดกาแฟแท้ ๆ ด้วยแผ่นกรอง 3 ชั้น พร้อมกับลูกสูบที่มีความลื่นไหลขณะชง

ส่วนใครที่กังวลว่าที่ชงกาแฟนี้มีขนาดใหญ่แล้วจะทำความสะอาด ก็ขอบอกเลยว่าหมดกังวลได้เลย เพราะสามารถถอดล้างทำความสะอาดได้สะดวกสบาย แถมยังสามารถใช้ล้างในเครื่องล้างจานได้อีกด้วยนะ หากคุณกำลังมองหาที่ชงกาแฟที่มีความทนทาน ใช้ได้ในระยะยาวแบบไม่ต้องกลัวสึกหรอ ก็ห้ามพลาด Bodum KENYA French Press ตัวนี้เด็ดขาด!

4. Bialetti French Press

French Pressมีสไตล์ที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • ทำกาแฟได้ 1 liter (เหมาะสำหรับ 3-4 คน)
  • เรือนทำจาก stainless steel 18/10 คุณภาพดี
  • งานประกอบดี
  • ทำความสะอาดง่าย
  • สามารถใช้เครื่องล้างจานได้
ข้อเสีย

เมื่อไหร่ที่พูดถึงแบรนด์ Bialetti เชื่อว่าหลายคนน่าจะนึกถึง Moka Pot หรือหม้อต้มกาแฟขนาดกะทัดรัดที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์นี้อย่างแน่นอน แต่รู้หรือไม่? ว่าทางแบรนด์ Bialetti เขาก็มีที่ชงกาแฟแบบ French Press ออกมาวางจำหน่ายเช่นกัน แถมยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียบหรูมีสไตล์สุด ๆ เลยล่ะ 

ส่วนเรื่องคุณภาพในการเนรมิตกาแฟแก้วโปรดนั้นก็คงรสชาติแท้ของเมล็ดกาแฟไว้ได้อย่างครบถ้วน มอบกลิ่นหอม รสชาติเข้มข้นไม่แพ้กับชงใน Moka Pot เลยล่ะ ด้วยตัวกรอง 3 ชั้นและลูกสูบที่เคลื่อนไหวคลื่นลงได้อย่างลื่นไหล กลั่นกลิ่นอโรม่าของเมล็ดกาแฟออกมาได้เต็มที่ ตัวโถกาแฟก็ทนความร้อนได้ดีเยี่ยมเพราะทำจากแก้วโบโรซิลิเกตอย่างดี

ตีกรอบเพิ่มความดูดีมีสไตล์ด้วยสเตนเลสสตีลพร้อมด้วยสิ่งที่ทำให้มองแวบเดียวก็รู้ว่านี่แหละเป็นสินค้าของ Bialetti ก็คือลุงหนวด l’Omino ที่ถูกสลักมาบริเวณด้านหน้าที่ชงกาแฟนั่นเอง เรียกได้ว่า Bialetti French Press นั้นไม่เพียงแต่จะช่วยรังสรรค์กาแฟแก้วโปรดได้แล้ว ยังเป็นที่ชงกาแฟแบบ French Press ที่มีดีไซน์เรียบหรูเหมาะแก่การนำมาประดับตกแต่งบ้านเรือนได้ดีเลยทีเดียว

5. Bodum Travel Press

French Pressดีที่สุดสำหรับการเดินทาง

ข้อดี
  • กระบอกชงกาแฟพลาสติกแบบพกพา
ข้อเสีย
  • ตัวครีมเข้มข้นล้างออกค่อนข้างยาก

ที่ชงกาแฟแบบ French Press อีกหนึ่งรุ่นจาก Bodum ที่ได้รับความนิยมจากคอกาแฟทั้งหลายอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะคอกาแฟที่ชื่นชอบการชงกาแฟทุกที่ทุกเวลา ขอแนะนำ Bodum Travel Press ที่จะช่วยให้การชงกาแฟเป็นเรื่องง่าย ๆ และสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา

ไม่ว่าจะขึ้นรถไปทำงาน เดินทางไปต่างจังหวัด หรือระหว่างทางไปแคมป์ปิ้ง เจ้า Bodum Travel Press ตัวนี้ก็พร้อมตอบโจทย์การชงกาแฟนอกสถานที่ให้คุณได้ทุกเมื่อ ซึ่งตัวกระบอกนั้นมีน้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด ผลิตจากสเตนเลสสตีลคุณภาพเยี่ยม 2 ชั้น ช่วยกักเก็บความร้อนและรักษาคุณภาพความหอมกรุ่นและรสชาติเข้มข้นของกาแฟไว้ได้อย่างยาวนานเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว พร้อมด้วยซิลิโคนหุ้มรอบแก้วป้องกันความร้อน

ช่วยให้ถือจับสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ฝาปิดก็มีความแน่นป้องกันการรั่วไหลได้ดีเยี่ยมเช่นกัน ฉะนั้นแล้วใครที่ชื่นชอบการดื่มด่ำกาแฟแก้วโปรดขณะเดินทางหรือระหว่างทำกิจกรรม Outdoor ที่ชงกาแฟแบบ French Press จาก Bodum ตัวนี้ก็ถือเป็นเพื่อนซี้ร่วมทางที่น่าลงทุนซื้อไว้ข้างกายไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งดีไซน์ที่มีความเรียบง่าย ขนาดกะทัดรัดพกพาสะดวก และยังสามารถกักเก็บความร้อนให้กาแฟไม่เสียรสชาติได้อย่างยาวนานอีกด้วย

6. Lapin French Press

French Pressการออกแบบสแตนเลสที่ดีที่สุด

ข้อดี
  • ใช้สำหรับการชงกาแฟสด
  • พกพาสะดวก
  • ทำจากสเตนเลสเกรด 304
  • ผลิตภัณฑ์ Double wall 2 ชั้นจึงสามารถเก็บความร้อนได้นานกว่า
  • ความหนา 6-7 มิล
  • ทนทานแข็งแรงกว่าแก้ว
ข้อเสีย

ขึ้นชื่อว่าเป็นที่ชงกาแฟแบบ French Press ภาพที่ชงกาแฟสีเงินแวววาวทำจากสเตนเลสก็น่าจะแวบเข้ามาในหัวของใครหลาย ๆ คน แถมยังพาให้กังวลใจลึก ๆ อีกด้วยว่าใช้ไปนาน ๆ เข้าที่ชงกาแฟเหล่านั้นจะมีคราบเปื้อน หรือสนิมเกรอะกรังมากน้อยแค่ไหน แต่ปัญหาและความกังวลเหล่านั้นจะหมดไปถ้าคุณได้ลองใช้ Lapin French Press Lapin French Press

ที่ชงกาแฟแบบ French Press ที่ทำจากสเตนเลสสตีลเกรด 304 คุณภาพเยี่ยม ป้องกันการเกิดสนิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็ใช้ขึ้นรูปโถกาแฟแบบสองชั้นมีความแข็งแรงทนทาน ช่วยป้องกันความร้อน ลดอุบัติเหตุขณะการใช้งาน และสามารถกักเก็บความร้อนได้อย่างยาวนาน ส่วนประสิทธิภาพในการชงกาแฟนั้นก็อยู่ในระดับที่ค่อนข้างดี

ไม่ทำให้กาแฟเสียรสชาติมากนัก ด้วยตัวกรองที่ค่อนข้างมีความถี่ดักจับกากกาแฟไม่ให้ร่วงหล่นได้ดีเยี่ยม และนอกจากจะทำจากวัสดุคุณภาพเยี่ยมหมดกังวลเรื่องสนิทเกรอะกรังแล้ว ที่ชงกาแฟแบบ French Press จาก Lapin ตัวนี้ยังสามารถถอดล้างทำความสะอาดได้สะดวกสบายอีกด้วย

7. Soulhand Portable Coffee Grinder Set

French Pressดีที่สุดสำหรับแค้มป์ปิ้ง

ข้อดี
  • เครื่องบดกาแฟแบบแมนนวลพร้อมเสี้ยนเซรามิกและมือหมุนพับได้
ข้อเสีย

ขอแนะนำ Soulhand Portable Coffee Grinder Set สุดยอดที่ชงกาแฟแบบ French Press แห่งยุคที่มาพร้อมกับเครื่องวัดอุณหภูมิหรือเทอร์โมมิเตอร์ด้านบนตัวที่ชง มอบประสบการณ์การชงกาแฟที่เหนือชั้นกว่าที่ชงกาแฟรูปแบบไหน ๆ

ขณะเดียวกันก็ช่วยเนรมิตกาแฟรสชาติเข้มข้น หอมกรุ่นกลิ่นกาแฟแท้ ๆ ด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่คัดสรรมาเพื่อคอกาแฟโดยเฉพาะ ตัวที่ชงกาแฟทำจากสเตนเลสสตีลเกรด 18/8 มั่นใจได้เลยว่าไม่ก่อให้เกิดสนิมอย่างแน่นอน ที่สำคัญมีการออกแบบผนัง 2 ชั้น ช่วยให้กักเก็บความร้อนและรสชาติของกาแฟให้มีความคงที่อย่างยาวนาน ด้านบนกระบอกลูกสูบก็มีการติดตั้งเทอร์โมมิเตอร์เพื่อให้คุณดูว่าน้ำที่อยู่ในโถชงกาแฟนั้นอยู่ที่เท่าไหร่ 

อีกทั้งที่กรองกาแฟภายในโถก็ถูกออกแบบอย่างประณีต ด้วยลักษณะซิกแซกที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกรองกากกาแฟได้มากยิ่งขึ้น แถมยังมีมาด้วยกัน 2 ชั้น มั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้ดื่มกาแฟที่ปราศจากกากกาแฟกวนใจอย่างแน่นอน ที่จับโถกาแฟดก็ยังมีการออกแบบตามสรีศาสตร์ช่วยให้ผู้ใช้งานหยิบจับสะดวกสบายมากกว่าเดิม

คู่มือการซื้อ French Press

ทีนี้ก็ได้ทำความรู้จักกับที่ชงกาแฟแบบ French Press กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่ายี่ห้อไหนดี ยี่ห้อไหนเด่น หรือมีคุณสมบัติน่าสนใจ พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของเราได้มากน้อยแค่ไหน แต่สำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจที่ชงกาแฟแบบ French Press ยี่ห้อนั้นมีคุณสมบัติโดนใจจริง ๆ หรือไม่ เราก็ได้รวบรวมเอาคู่มือการซื้อที่ชงกาแฟแบบ French Press มาให้ทุกคนได้ลองศึกษาควบคู่เพื่อให้การตัดสินใจง่ายขึ้นอีกด้วย

เลือกจากวัสดุที่ใช้ผลิต

สเตนเลสสตีล VS แก้ว

ปกติแล้วที่ชงกาแฟแบบ French Press จะผลิตจากวัสดุ 2 ชนิด คือ สเตนเลสสตีลและแก้วโบโรซิลิเกต ซึ่งวัสดุแต่ละประเภทนั้นก็มีข้อดีข้อเสียและวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เช่น ถ้าคุณต้องการเน้นดีไซน์ ภาพลักษณ์ที่ชงกาแฟแบบ French Press ที่เป็นตัวแก้วโบโรซิลิเกตก็ค่อนข้างตอบโจทย์เลยทีเดียว แถมยังสามารถทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย แต่เมื่อไหร่ที่ขึ้นว่าเป็นที่ชงกาแฟที่ทำจากแก้ว ก็มีโอกาสที่ทำให้เกิดการแตกหักหรือพังง่าย ฉะนั้นที่ชงกาแฟบางยี่ห้อ บางรุ่นจึงมีการออกแบบที่มาพร้อมกับกรอบสเตนเลสเพื่อยกระดับการป้องกันการแตกหักของตัวโถกาแฟ เช่น Bodum CHAMBORD French Press

แต่ถ้าคุณต้องการให้กาแฟแก้วโปรดไม่เสียรสชาติหรือความร้อนใด ๆ ที่ชงกาแฟแบบ French Press ทำจากสเตนเลสสตีลก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว และยิ่งถ้าเป็นที่ชงกาแฟแบบ French Press ที่ทำจากสเตนเลสสตีลความหนาสองชั้น หรือโครเมียม 18/8 หรือ 18/10 อย่าง Lapin French Press ก็รับรองว่าจะช่วยให้กาแฟของคุณคงรสชาติและความร้อนได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น และยังมีความทนทานสูง ใช้งานได้ยาวนาน แถมยังไม่ต้องกังวลว่าโถกาแฟจะมีสนิมเกาะอีกด้วย

ดีไซน์และความสะดวกในการใช้งาน

แม้ว่าที่ชงกาแฟแบบ French Press จะมีดีไซน์ที่ค่อนข้างเรียบง่ายดูเหมือนไม่มีลูกเล่นอะไรมากเท่าเครื่องชงกาแฟรูปแบบอื่น ๆ แต่ที่ชงกาแฟแบบ French Press บางยี่ห้อนั้นก็มาพร้อมกับดีไซน์ที่มีความเรียบหรูคลาสสิกไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าที่ชงกาแฟแบบ French Press รุ่นนั้น ๆ จะทำจากสเตนเลสสตีลก็ดี หรือทำจากแก้วโบโรซิลิเกตก็ดี อย่างถ้าคุณชื่นชอบที่ชงกาแฟที่มีความเรียบหรูคลาสสิก Bodum CHAMBORD French Press ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์คุณได้ดีเยี่ยม หรือถ้าอยากได้ความโมเดิร์นมีสไตล์มินิมอลขึ้นมาอีกนิด ก็อาจเลือกซื้อเป็น SouldHand French Press ก็ได้ เป็นต้น

และนอกจากจะเลือกซื้อที่ชงกาแฟแบบ French Press ที่มีดีไซน์สวยหรูโดนใจแล้ว ความสะดวกในการใช้งานก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึงเช่นกัน โดยเฉพาะด้ามจับโถกาแฟที่ควรทำจากวัสดุคุณภาพเยี่ยมถือหรือจับแล้วไม่หลุดมือง่าย ๆ ขณะเดียวกันตัววัสดุโถกาแฟก็ควรทนความร้อนได้สูง ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งานด้วย หากคุณต้องการปรับแต่งรสชาติกาแฟของคุณอ่านบทวิจารณ์ของเราเกี่ยวกับเครื่องชงกาแฟอิตาลีที่ดีที่สุด

คำนึงถึงความสามารถของตัวกรอง

เพราะการชงกาแฟแบบ French Press นั้นเป็นการนำกากกาแฟเทลงไปในโถกาแฟ แล้วจึงค่อย ๆ ใช้แรงกดจากลูกสูบที่มีแผ่นกรองดักเก็บกากกาแฟขึ้นมา และได้รสชาติกาแฟและได้กลิ่นอโรม่าของเมล็ดกาแฟที่แท้จริงออกมาในที่สุด ฉะนั้นแผ่นกรองหรือตัวกรองที่ติดมานั้นจึงถือเป็นตัวแปรสำคัญมากเวลาชงกาแฟแบบ French Press หากตัวกรองมีความถี่น้อยเกินไป หรือมีรูที่ใหญ่ ก็อาจทำให้กากกาแฟหรือเศษกาแฟร่วงหล่นลงมาในน้ำกาแฟ และทำให้กาแฟแก้วโปรดของคุณเสียรสชาติในทันที 

ฉะนั้นเวลาเลือกซื้อที่ชงกาแฟแบบ French Press จึงต้องตรวจสอบลักษณะของตัวกรองให้ดี ๆ ว่ามีความถี่มากน้อยแค่ไหน หรือมีตัวกรองกี่ชั้น เพียงพอต่อการกักเก็บกากกาแฟขึ้นมากพอหรือไม่ อย่างเช่น Soulhand Steel French Press ที่มาพร้อมกับตัวกรองตาข่ายที่มีความถี่สูงมากถึง 2 ชั้น รับประกันว่าช่วยกรองกากกาแฟไม่ให้ร่วงหล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้นการเลือกขนาดกาแฟที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเมื่อใช้ French Press อ่านรีวิวเครื่องบดกาแฟที่ดีที่สุดสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

เลือกซื้อขนาดให้เหมาะสมแก่การใช้งาน

ที่ชงกาแฟแบบ French Press นั้นมีมากมายหลายขนาดให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นขนาดบรรจุ 12 ออนซ์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่คนเดียวหรือต้องการเสิร์ฟกาแฟประมาณ 1-2 แก้ว ขนาด 15 ออนซ์ ที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก ดื่มกาแฟแก้วโปรดได้ตลอดวัน อย่างเช่น Bodum Travel Press หรือจะใหญ่ยักษ์เหมาะสำหรับการเสิร์ฟผู้คนในจำนวนมาก อาจจะซื้อติดบ้านที่มีครอบครัวขนาดกลาง หรือออฟฟิศขนาดย่อมให้เพื่อนร่วมงานได้ร่วมวงดื่มกาแฟอย่างขนาดบรรจุ 34 ออนซ์ เป็นต้น 

สำหรับใครที่คิดว่าซื้อขนาดบรรจุใหญ่ ๆ ไปเลยดีที่สุดนั้น เราขอเตือนไว้ก่อนว่าไม่เสมอไปค่ะ เพราะยิ่งใช้ที่ชงกาแฟแบบ French Press ใหญ่เมื่อไหร่ ก็อาจทำให้กาแฟเสียรสชาติมากยิ่งขึ้นเท่านั้น เนื่องจากจะต้องใช้เมล็ดกาแฟและปริมาณน้ำค่อนข้างเยอะนั่นเอง ดังนั้นแล้วเวลาเลือกซื้อที่ชงกาแฟแบบ French Press ก็อย่าลืมคำนึงถึงขนาดที่เหมาะสมแก่การใช้งานร่วมด้วยนะถ้าคุณชอบที่จะรู้ว่าคุณจะดื่มกาแฟมากแค่ไหน เครื่องชงกาแฟแคปซูลน่าจะเหมาะกว่า

เลือกที่ชงกาแฟที่ทำความสะอาดง่าย

แม้ว่าที่ชงกาแฟแบบ French Press จะดูเหมือนทำความสะอาดง่ายเพราะมีองค์ประกอบเพียงไม่กี่ส่วน หลัก ๆ ก็มีแค่โถกาแฟและลูกสูบเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วที่ชงกาแฟแบบ French Press บางยี่ห้อบางรุ่นก็กลับทำความสะอาดยาก และง่ายต่อการทิ้งคราบ สนิม กลิ่นไม่พึงประสงค์จนทำให้กาแฟแก้วโปรดของคุณเสียรสชาติ โดยเฉพาะที่ชงกาแฟแบบ French Press ที่ไม่สามารถถอดตัวกรอง หรือชิ้นส่วนบางชิ้นออกมาทำความสะอาดได้

ฉะนั้นเวลาเลือกซื้อที่ชงกาแฟแบบ French Press ก็จำเป็นต้องศึกษาดูส่วนประกอบของที่ชงกาแฟสักหน่อยว่ามีส่วนไหนสามารถถอดล้างทำความสะอาดได้บ้าง ขณะเดียวกันที่ชงกาแฟแบบ French Press บางยี่ห้อบางรุ่นก็สามารถนำเข้าเครื่องล้างจานได้เช่นกัน อย่าง ที่ชงกาแฟแบบ French Press จาก Bodum รุ่น KENYA หรือจะเป็น Soulhand Steel French Press ที่ไม่เพียงแต่จะมีรูปลักษณ์หรูหราแล้ว ยังตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการที่ชงกาแฟทำความสะอาดง่ายอีกด้วย เนื่องจากสามารถถอดตัวกรองแต่ละชิ้นแยกออกจากกันได้ เป็นต้น

ก็จบกันไปเรียบร้อยแล้วกับการทำความรู้จักที่ชงกาแฟแบบ French Press แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นที่เราคัดมาฝากกันแบบเน้น ๆ ถึง 7 แบบ 7 สไตล์กันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นที่ชงกาแฟที่เหมาะสำหรับทุก ๆ คนอย่าง Bodum CHAMBORD French Press หรือจะเป็นที่ชงกาแฟที่พร้อมตอบโจทย์ความต้องการด้านดีไซน์อย่าง Bialetti French Press รวมถึงที่ชงกาแฟแบบ French Press สำหรับมือโปรคอกาแฟรุ่นเก๋าอย่าง SoulHand Steel French Press ที่มาพร้อมกับเทอร์โมมิเตอร์สุดเท่ช่วยควบคุมอุณหภูมิน้ำ รังสรรค์กาแฟแก้วโปรดของคุณให้ถูกปากมากยิ่งขึ้น เป็นต้น

ซึ่งนอกจากจะเลือกที่ชงกาแฟจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ หรือมีรูปลักษณ์ที่น่าสนใจ ราคาที่เป็นมิตรแล้ว เวลาเลือกซื้อที่ชงกาแฟแบบ French Press ก็ควรคำนึงถึงวัสดุอุปกรณ์ในการผลิต ความสามารถในการกรองกากกาแฟ ขนาดที่เหมาะสม รวมถึงพิจารณาว่าที่ชงกาแฟที่เราเลือกนั้นง่ายต่อการทำความสะอาดหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดการเสียรสชาติกาแฟในการชงครั้งถัด ๆ ไป

we review team

คำถามและคำตอบ

Leave a Comment